BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ประกาศหยุดสายการผลิตในโรงงานที่มิวนิค เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่าง All-New 2021 BMW i4 (2021 บีเอ็มดับเบิลยู ไอ4) ซึ่งเตรียมพร้อมจะเดินสายการผลิตอย่างเต็มรูปแบบในปี 2564 ตามกำหนดการที่พวกเขาวางแผนเอาไว้
โรงงานที่มิวนิคจะเป็นฐานการผลิตสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ในอนาคต ซึ่งการหยุดสายการผลิตนานถึง 6 สัปดาห์ในครั้งนี้ จะมีการเพิ่มโครงสร้างในการผลิตที่สำคัญหลายอย่าง รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการผลิตยานยนต์แห่งโลกอนาคต ที่จะเริ่มจากรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของค่าย
สายการผลิตทั้งหมดจะถูกหยุดในช่วงเวลา 1 เดือนครึ่งตามกำหนดการที่วางไว้ตั้งแต่ 23 กรกฎาคมจนถึง 7 กันยายน โรเบิร์ต เอนเกลฮอร์น ผู้อำนวยการโรงงานบอกว่าหลังการปรับปรุง โรงงานแห่งนี้จะผลิตรถยนต์ได้ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล, เบนซิน, ไฮบริด รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ในสายการผลิตเดียวกันทั้งหมด
10% ของการปรับสายการผลิตที่สำคัญที่สุด
แม้โรงงานที่มิวนิคแห่งนี้จะทันสมัยและมีขีดความสามารถในการผลิตที่สูงมาก โดยพวกเขาระบุว่า 90% ของสายการผลิตปัจจุบันสามารถปรับมาใช้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของพวกเขาได้ทันที ได้อีก 10% ที่เหลือนั้นคือความแตกต่างที่ทำให้พวกเขาต้องเดินหน้าปรับสายการผลิตครั้งใหญ่ในครั้งนี้
จะบอกว่าการเพิ่มไอ4 เข้าไปในสายการผลิตคือโครงการที่สำคัญที่สุดสำหรับการเปลี่ยนแปลง เพราะแบตเตอรี่สมรรถนะสูงของรถไฟฟ้ารุ่นใหม่มีความแตกต่างในด้านการผลิตจากรถรุ่นอื่นทั้งหมดที่เคยผลิตในโรงงานแห่งนี้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลง 10% นี้ หมายถึงการต้องติดตั้งระบบการผลิตเพิ่มเติมเข้าไป
การติดตั้งแบตเตอรี่ของไอ4 จะต้องติดตั้งจากด้านล่างของตัวรถ และการประกอบแบตเตอรี่สำหรับรถคันนี้ จะแยกสายการผลิตออกไปไว้ในโรงงานแห่งนี้เช่นเดียวกัน จึงถือเป็นความท้าทายของบีเอ็มดับเบิลยูในการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตรูปแบบใหม่ ในสถานที่เดิมและเงื่อนไขเวลาที่จำกัดเหลือเกิน
การวางแผนงานล่วงหน้ากว่า 1 ปี
บีเอ็มดับเบิลยูระบุว่าแผนการพัฒนาโรงงานแห่งนี้ของพวกเขานั้น ได้มีการคิดค้นกันล่วงหน้ามาตั้งแต่ปี 2562 และมีการนำเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง (VR) มาใช้ในการตัดสินใจวางแผนโครงสร้างโดยละเอียดทั้งหมด และทำให้แผนงานของพวกเขามีความละเอียดและแม่นยำ ลดเวลาในการทำงานลงไปได้
ไม่ใช่แค่นั้น แต่เทคโนโลยีเสมือนจริงจะช่วยให้พนักงานในสายการผลิตสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับบรรยากาศการทำงานในที่ทำงานใหม่ได้ ทำให้เมื่อกลับไปทำงานอีกครั้ง พวกเขาจะทำงานได้โดยไม่ขัดเขิน ซึ่งค่ายใบพัดฟ้าขาวเตรียมพร้อมอย่างมากที่จะเดินสายการผลิตรถยนต์ต่อไปตามแผนงานที่วางไว้
หลังการปรับสายการผลิตในครั้งนี้ โรงงานที่มิวนิคจะมีขีดความสามารถในการผลิตรถยนต์หลากหลายรุ่นในสายการผลิตเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ส์ 3 ทั้งตัวถังซีดานและทัวร์ริ่ง ทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและไฮบริด บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม3 รวมไปถึงรถไฟฟ้า 100% อย่างบีเอ็มดับเบิลยู ไอ4 คันนี้นี่เอง
เกี่ยวกับ 2021 BMW i4
หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาดีกับ BMW i4 Concept ที่เปิดเผยรูปลักษณ์อันโดดเด่น กระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ และความโฉบเฉี่ยวแบบรถสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ และแน่นอนว่าทั้งหมดนั้นจะถูกถ่ายทอดไปสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ของพวกเขาที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2563
ไอ4 นั้นเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่อยู่ในเครือข่ายตระกูลรถยนต์ไฟฟ้าของค่ายใบพัดฟ้าขาว ที่เตรียมจะเปิดตัวกันเป็นซีรี่ส์ ไม่ว่าจะเป็น BMW iX3 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ หรือแม้แต่รถยนต์แห่งโลกอนาคตอย่าง BMW iNext ที่เริ่มพลางตัววิ่งทดสอบกันบ้างแล้วในหลายประเทศตามที่มีภาพมาเรื่อย ๆ
BMW i4 Concept น่าจะมีหน้าตาที่ใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นผลิตจริงที่สุดแล้ว แต่ในรายละเอียดของเครื่องยนต์และสมรรถนะนั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน แต่ว่ากันว่านี่จะเป็นเวอร์ชั่นที่แรงที่สุดของรถยนต์ที่ผลิตอยู่บนโครงสร้างตัวถังของซีรี่ส์4 ที่มีข่าวลือว่าอาจจะแรงกว่า M4 ด้วยซ้ำ
ในเวอร์ชั่นรถต้นแบบ หัวใจในการขับเคลื่อนของพวกเขาคือเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฟฟ้าอีไดร์ฟ เจนเนอเรชั่น 5 ซึ่งใช้กับรถ iNext และ iX3 มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวให้กำลัง 530 แรงม้า และชุดแบตเตอรี่กำลังสูงที่คาดว่าจะมีขนาด 80 กิโลวัตต์ สามารถขับเคลื่อนได้ไกล 600 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง
รูปลักษณ์ของรถต้นแบบนั้นมีความโดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน แต่เวอร์ชั่นจริงน่าจะลดความเฉียบคมลงมาให้เหมือนกับซีรี่ส์ 4 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ และเลือกใช้ระบบต่าง ๆ ที่ติดตั้งมาในรถเหมือน iX3 เกือบทั้งหมด ที่น่าสนใจกว่าก็คือราคาเปิดตัวที่ไม่รู้จะสูงขนาดไหนกันแน่ ต้องติดตามกันอีกครั้ง