Bugatti Veyron 16.4 Grand Sport Vitesse ครองเจ้าสถิติรถโปรดักชั่นเปิดประทุนที่ทำความเร็วได้สูงที่สุดในโลกมานาน 10 ปีเต็ม และยังไม่มีวี่แววว่าจะมีรถรุ่นอื่นใดมาทำลายได้
รถไฮเปอร์สปอร์ตสุดทรงพลังรุ่นนี้เปิดตัวออกทำตลาดในปี 2012 และสามารถพุ่งทะยานสร้างสถิติท็อปสปีดใหม่ได้ที่ 254.04 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 408.84 กม.ต่อชม. ซึ่งเป็นตัวเลขที่เหนือจินตนาการสำหรับคนธรรมดาอย่างเรา ๆ ทำให้สถิติดังกล่าวอยู่ยงคงกระพันมาจนถึงปัจจุบัน
ด้วยความภาคภูมิใจที่ไม่มีค่ายรถรายใดทำลายสถิติดังกล่าวลงได้ Bugatti ได้ย้อนรอยความสำเร็จและเผยข้อมูลสำคัญที่ทำให้รถรุ่นนี้เป็นเจ้าแห่งความเร็วในอุตสาหกรรมยานยนต์ยุคใหม่
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
สุดยอดวิศวกรรม
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Bugatti Veyron 16.4 Grand Sport Vitesse ทำความเร็วสะท้านโลกคือขุมพลังซูเปอร์บิ๊กบล็อก W16 สูบ พ่วงเทอร์โบชาร์จ 4 ลูก รีดพละกำลังสูงสุดอยู่ที่ 1,200 แรงม้า (PS)
ตัวรถแบบเปิดประทุนเป็นการต่อยอดจากรุ่นคูเป้ Veyron 16.4 Super Sport Coupe ซึ่ง Bugatti ระบุว่าเป็นความต้องการของลูกค้าอัครมหาเศรษฐีหลายคนที่ต้องการรถเปิดหลังคา
ความท้าทายสำคัญที่สุดของการพัฒนารถรุ่นนี้ตามที่ Bugatti เคลมไว้ก็คือการทำอย่างไรก็ได้ให้ตัวรถมีเสถียรภาพและความมั่นคงสูงสุดในการขับขี่ด้วยความเร็วสูง จึงมีการสร้างหลังคาแบบถอดได้ซึ่งทำจากวัสดุโพลีคาร์บอเนต
เมื่อถอดหลังคาออก ตัวรถยังต้องมีความแข็งแกร่ง จึงมีการปรับปรุงโครงสร้างโมโนค็อกใหม่ สเกิร์ตด้านข้างถูกอัพเกรดความแข็งแรง เช่นเดียวกับเสาหลังคากลางเสริมด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ อุโมงค์เกียร์มีแผ่นคาร์บอนที่ทนทานต่อการบิดตัวมากกว่าเดิม
ขณะที่แผงประตูก็ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งช่วยถ่ายแรงกดระหว่างเสาหลังคาหน้ากับกลางได้มีประสิทธิภาพ ส่วนช่องดักลมทั้งสองฝั่งของเครื่องยนต์ก็ถูกออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงป้องกันการพลิกคว่ำ
คริสตอฟ เปียชอน ประธานกรรมการ Bugatti กล่าวว่า Veyron 16.4 Grand Sport Vitesse แสดงให้เห็นว่า Bugatti มีความเชี่ยวชาญด้านระบบวิศวกรรมมากเพียงใด ถึงแม้การกระจายน้ำหนักจะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อถอดหลังคาออก แต่ตัวรถก็ยังคงมีความมั่นคงและมีอัตราเร่งทียอดเยี่ยมเช่นเดิม
“Bugatti แสดงให้เห็นว่าการสร้างรถไฮเปอร์สปอร์ตเปิดประทุนที่มีสมรรถนะสูงยิ่งยวดนั้นเป็นไปได้ โดยยังคงมอบการขับขี่ที่คล่องตัวและสะดวกสบาย” เปียชอน กล่าวเพิ่มเติม
ด้านหน้าของตัวรถยังมีช่องดักอากาศเพิ่มเติมจากรุ่น Grand Sport เพื่อป้อนกระแสลมเข้าสู่อินเตอร์คูลเลอร์ช่วยทำความเย็นให้แรงอัดอากาศจากเทอร์โบ 4 ลูก ด้านล่างช่องดักอากาศดังกล่าวมีสปอยเลอร์ที่ทำหน้าที่เหมือนดิฟฟิวเซอร์ในการสร้างความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ บั้นท้ายมีท่อไอเสียคู่ที่ลงตัวกับลุคอันดุดัน
สถิติของ Bugatti Veyron 16.4 Grand Sport Vitesse จะยังคงไม่มีใครทำลายได้ไปอีกนาน แต่ก็มีหลายคนจับตามอง Hennessey ที่อ้างว่า Venom F5 Roadster ของพวกเขาสามารถโลดแล่นด้วยความเร็วทะลุหลัก 300 ไมล์ต่อชม.
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });