BYD (บีวายดี) เผยยอดขายพลังงานใหม่ซึ่งครอบคลุมทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดอยู่ที่ 1,868,543 คันในปี 2022 ขยายตัวถึง 214.7% เมื่อเทียบกับปี 2021 ซึ่งทำยอดขายได้ที่ 593,745 คัน

หากนับเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า BYD สามารถทำยอดขายในปี 2022 ได้ที่ 911,140 คันเติบโตกระฉูดแตกถึง 184% เมื่อเทียบกับปี 2021 เรียกได้ว่าสามารถเพิ่มยอดขายได้เกือบสองเท่าตัว และดูทีท่าจะไม่หยุดเพียงเท่านี้

หากค่ายรถยักษ์ใหญ่สัญชาติจีนยังใส่เกียร์ห้าหน้าเดิมด้วยความเร็วเท่านี้ พวกเขาจะแซงหน้า Tesla ได้อย่างแน่นอนซึ่งค่ายรถอเมริกันทำยอดขายได้ที่ 1,313,851 คันในปีที่ผ่านมา

ย้อนกลับไปในปี 2021 ฝั่ง Tesla ทำยอดขายได้ที่ 936,222 คัน ขณะที่ BYD ทำได้ที่ 320,810 คัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าฝ่ายหลังขยายตัวด้วยอัตราความเร็วปานสายฟ้าแลบ

รุกตลาดต่างประเทศ

BYD ก้าวพ้นขอบเขตประเทศจีนเพื่อเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือเมืองไทยที่คอรถยนต์เริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้น

นอกจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง BYD ยังมีแผนการขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายและสร้างความมั่นคงในด้านสายการผลิตในประเทศต่าง ๆ อีกทั้งยังแตกไลน์แบรนด์ใหม่อีกด้วย

ในทางกลับกัน Tesla จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 4 รุ่นคงที่มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 โดยรถรุ่นล่าสุดที่พวกเขาเปิดตัวคือ Model Y นั่นเอง

ลำพังเพียงแค่ BYD เดินเกมรุกทำตลาดในประเทศอย่างเดียว พวกเขาก็สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างมหาศาล โดยเห็นได้จากยอดขายรถพลังงานใหม่ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาในแดนมังกรซึ่งอยู่ที่ 235,197 คัน นับเป็นสถิติใหม่แม้จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ตาม

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD ในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 111,939 คัน ขณะที่ Tesla ไม่เผยยอดขายรายเดือน แต่มีเฉพาะไตรมาสสุดท้ายที่ 405,278 คัน คำนวณคร่าว ๆ อยู่ที่ 135,092 คันต่อเดือน บ่งชี้ว่าค่ายรถจากจีนกำลังไล่จี้หายใจรดต้นคอมากเพียงใด