ท่ามกลางความเชื่องช้าในการเปิดตัวและเปิดราคาของ Haval H6 (ฮาวาล เอช6) ที่อาจจะทำให้หลาย ๆ คนเกิดอาการหงุดหงิด แบรนด์คู่แข่งสัญชาติจีนทั้ง MG (เอ็มจี) ที่เข้ามาก่อนก็เริ่มขยับตัวรักษาฐานของตัวเอง รวมถึงคู่แข่งหน้าใหม่อย่าง Changan (ฉางอาน) ก็เริ่มเดินหน้ากดดันด้วยการเปิดการศึกษาตลาดในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา
การเปิดตลาดในประเทศไทยสำหรับแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนเป็นเรื่องที่ต้องจับตามองในช่วงต่อไปนี้ จากการที่ค่ายรถยนต์จากแดนมังกรหลายแบรนด์ต้องการเดินหน้าหาตลาดใหม่ในโลก และความสำเร็จระดับหนึ่งของเอ็มจีก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกรทวอลล์มอเตอร์ตัดสินใจเดินหน้าเข้ามาทำการเปิดตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ
เพราะฉะนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรหากจะมีแบรนด์รถยนต์รายอื่น ๆ ที่ต้องการเข้ามาทำการศึกษาตลาดในประเทศไทยบ้าง ซึ่งคราวนี้เป็นของแบรนด์ฉางอาน ที่นอกจากจะเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่แล้ว ยังมีดีกรีผู้ดับความซ่าของเอช6 ในประเทศจีน ด้วยการส่ง Changan CS75 ทำยอดขายแซงได้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี
และยิ่งตอกย้ำความน่าจะเป็นนี้มากขึ้น เมื่อมีผู้พบเห็นฟลีตรถยนต์หลากหลายรุ่นของฉางอานในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ระบุว่า นี่คือเหล่ารถยนต์ที่พวกเขานำเข้ามาเพื่อทำการศึกษาตลาดในประเทศไทย และมีการทำโฟกัสกรุ๊ปกับผู้บริโภคไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และกำลังจะนำรถยนต์เหล่านี้ส่งกลับคืนไปยังประเทศจีน
หากดูจากบรรดารถที่นำเข้ามาทำตลาดและมีรูปหลุด ๆ มาให้พวกเราเห็นกัน นอกเหนือจากกลุ่มเอสยูวี ที่มีการนำเข้ามาทำเซอร์เวย์ถึง 2 รุ่นแล้ว พวกเขาก็ยังสนใจในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการหาทางเลือกใหม่ ๆ ให้กับตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางในประเทศไทย เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ ๆ ในอนาคต
ไม่ใช่แบรนด์หน้าใหม่แต่อย่างใดนะ
จริง ๆ แล้ว ฉางอานก็ไม่ใช่แบรนด์ใหม่ในตลาดจีนหรือตลาดไทย พวกเขามีประสบการณ์ในการทำตลาดรถยนต์มามากกว่า 3 ทศวรรษในตลาดจีน และก็ไม่ใช่แบรนด์เล็ก ๆ เพราะฉางอานถือเป็นท็อป 4 ของแบรนด์รถยนต์ท้องถิ่นของประเทศจีน ที่มีการขยายตลาดและเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ของพวกเขาไปในหลายตลาดทั่วโลก
สำหรับในประเทศไทยเอง แม้ตลาดรถยนต์นั่งหรือเอสยูวีของพวกเขาจะยังไม่เป็นที่รู้จัก แต่กับตลาดรถยนต์พาณิชย์แล้ว หลาย ๆ คนต้องเคยได้ยินชื่อของทีซีฉางอาน ซึ่งเป็นบริษัทที่จำหน่ายและให้บริการเกี่ยวกับรถปิกอัพขนาดเล็ก อันเป็นบริษัทในเครือของตันจง ที่ดูแลและบริหารแบรนด์ Subaru (ซูบารุ) อยู่ในประเทศไทยนั่นเอง
และในช่วงที่ผ่านมา ทางฉานอาน ออโตโมบิล ก็ได้ส่งรถยนต์และเอสยูวีในเครือของตัวเองหลายคันเข้ามายังประเทศไทย เพื่อทำการวิจัยทางการตลาด โดยได้เชิญลูกค้าและกลุ่มผู้ใช้รถเข้าไปให้ข้อมูลและรับชมรถกันอย่างเต็มที่ เพื่อเก็บข้อมูลไปใช้ในการประเมินตลาด เพื่อตัดสินใจว่าจะบุกประเทศไทยดีหรือไม่ในอนาคต
สินค้าไม่แตกต่าง เอสยูวี-ไฟฟ้า อาจพ่วงรถยนต์
ถ้าดูจากบรรดารถที่ทางฉางอานเอาเข้ามาทำการเซอร์เวย์ตลาดแล้วล่ะก็ จะพบว่าสินค้าที่พวกเขามีก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากแบรนด์จีนที่ตัดสินใจเข้ามาทำตลาดก่อนหน้านี้ โดยมีไฮไลท์หลัก ๆ อยู่ที่ตลาดรถเอนกประสงค์หรือเอสยูวีหลายรูปแบบ รวมไปถึงตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และพ่วงมาด้วยรถยนต์นั่งขนาดกลางตามที่เห็น
แน่นอนว่าสินค้าหลักที่โดดเด่นมาก ๆ ก็คือรถยนต์เอนกประสงค์ที่เข้ามาท้าทายการเป็นผู้นำตลอดเกือบ 8 ปีของฮาวาล เอช6 ก็ได้แก่ Changan CS55 (ฉางอาน ซีเอส55) รวมไปถึงรถยนต์เอนกประสงค์ที่ใช้พลังงานทดแทน ไม่ว่าจะเป็นระบบปลั๊กอินไฮบริดหรือไฟฟ้า พวกเขามีการพัฒนารถที่หลากหลายบนพื้นฐานโครงสร้างเดียวกันเกือบทั้งหมด
นอกจากนี้ ก็ยังมีรถยนต์นั่งขนาดกลางอย่าง Changan Eado (ฉางอาน เอโด) รถยนต์นั่งราคาถูกอันดับ 2 ของค่ายเข้ามาทำการสำรวจตลาดเช่นเดียวกัน ซึ่งหากดูจากแนวทางการทำวิจัยของฉางอานแล้ว ก็ดูเหมือนว่าพวกเขานั้นสนใจตลาดประเทศไทยอยู่เอาเรื่อง ส่วนจะกลายมาเป็นแบรนด์จีนเบอร์ 3 ในประเทศไทยได้หรือไม่ อีกไม่นานคงได้รู้กัน
ย้อนอดีตแบรนด์รถยนต์จีนในประเทศไทย
หากจะนับว่าเอ็มจีคือผู้นำตลาดรถยนต์จากประเทศจีนในประเทศไทย ด้วยประสบการณ์การบุกตลาดอย่างโชกโชนในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา เป็นแบรนด์รถยนต์จากแดนมังกรรายแรกที่เปิดโรงงานและขยายเครือข่ายการจำหน่ายอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด จนกลายเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยรายแรก ก็คงจะเป็นการพูดที่ไม่เต็มที่นัก
เพราะเอาจริง ๆ ก่อนหน้านี้ อุตสาหกรรมยานยนต์จากประเทศจีนนั้น พยายามที่จะเดินหน้าเข้ามาปักหลักในประเทศไทยกันหลายต่อหลายครั้ง แม้แต่แบรนด์ใหญ่อย่าง Geely (จีลี่) ก็เคยลงมาคลุกฝุ่นจนถอนตัวกันแทบไม่ทันมาแล้ว และมีอีกหลายแบรนด์ที่เข้ามาอยู่ได้ไม่นานก็ต้องทอดทิ้งลูกค้าไป ทิ้งให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์รถยนต์จีนนั้นแย่เอาเรื่อง
และก็คงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้การเข้ามาทำตลาดของเอ็มจีในตอนแรกนั้น พวกเขาพยายามที่จะสื่อสารไปจนถึงรากเหง้าของแบรนด์ว่าตัวเองนั้นเป็นรถจากสหราชอาณาจักร กว่าจะยอมรับกันแบบเต็มปากก็เมื่อผ่านมาได้สักพักใหญ่ ๆ แต่ก็เป็นการปูทางให้ GWM นั้นเข้ามาได้อย่างง่ายดายขึ้น ก็เป็นรถจีนที่มีตลาดทั่วโลกจะบอกว่าเป็นชาติอื่นคงไม่ได้
แม้การเข้ามาของเกรทวอลล์มอเตอร์จะเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการตั้งไข่แบบยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะออกมาในทิศทางไหน จะออกหมู่หรือจ่า เพราะจะขายของตัวไหน วางราคายังไง ก็ยังบอกไม่ถูก ยังคงต้องรอความชัดเจนของพวกเขาเองให้มากกว่านี้ก่อน หากจะให้วิจารณ์ว่าเขาจะไปได้สวยระดับเอ็มจีหรือทำได้ดีกว่าผู้บุกเบิกรถยนต์จากจีนกันแน่
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจากนี้ไป ผู้ประกอบการรถยนต์ในประเทศจีนก็ต้องเดินหน้าหาตลาดใหม่ ๆ กันมากขึ้น ซึ่งตลาดรถยนต์ที่ยังเติบโตและน่าสนใจอยู่ก็น่าจะมีชื่อของตลาดประเทศไทยและอาเซียนรวมอยู่ด้วย หากจะมีแบรนด์อย่างฉางอานหรือจีลี่กลับเข้ามาทำตลาดกันใหม่ในอนาคตก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และเป็นเรื่องน่ายินดีเสียด้วยซ้ำ
การแข่งขันนั้นดีเสมอ อย่างน้อยผู้บริโภคก็มีทางเลือกใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นยังไงล่ะ...