ทำไมบริษัทญี่ปุ่นต้องพัฒนาเซ็นเซอร์ป้องกันเด็กถูกทิ้งจนเสียชีวิตในยานพาหนะ?

บริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยีอิเลคโทรนิครายใหญ่ของญี่ปุ่นเดินหน้าพัฒนาเซ็นเซอร์ที่ช่วยตรวจจับว่ามีเด็กถูกทิ้งอยู่ในรถหรือไม่ ป้องกันโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

เซ็นเซอร์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดถูกนำมาใช้ในการพัฒนาซึ่งสามารถแยกความแตกต่างระหว่างตุ๊กตาขนาดใหญ่เท่าเด็กเล็กกับเด็กตัวจริงได้อย่างแม่นยำ พร้อมกับสามารถตรวจจับเด็กที่นั่งอยู่ในมุมอับสายตาอย่างบริเวณเบาะแถวหลังของรถตู้ได้

เทคโนโลยีดังกล่าวถูกจัดแสดงที่งาน CEATEC ซึ่งจัดขึ้นในเมืองชิบะของประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา

เซ็นเซอร์ความละเอียดสูง

Alps Alpine บริษัทผู้พัฒนาเซ็นเซอร์ดังกล่าวระบุว่าเทคโนโลยีนี้สามารถตรวจจับการมีอยู่ของมนุษย์ได้ด้วยคลื่นวิทยุความถี่สั้นระดับมิลลิเมตร โดยสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวที่น้อยที่สุดได้อย่างการหายใจของเด็กเล็กที่ถูกคลุมด้วยผ้าห่มอีกชั้นหนึ่ง

เมื่อเซ็นเซอร์ดังกล่าวตรวจจับได้ว่ามีเด็กเล็กอยู่ในรถก็จะแจ้งเตือนด้วยเสียงหรือแสงไฟกะพริบทันทีเพื่อให้ผู้ใหญ่ได้รับทราบ

สำนักข่าว Asahi ระบุว่าเซ็นเซอร์ที่ใช้คลื่นวิทยุในการทำงานนั้นถูกพัฒนาขึ้นโดย Volvo เช่นกันและมีรายงานว่าเตรียมติดตั้งในรถยนต์สัญชาติสวีเดนในอีกไม่ช้า

ขณะที่ Mitsubishi Electric Corp. ก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถวิเคราะห์ผู้โดยสารในรถยนต์ ส่วน Murata Manufacturing Co. กำลังพัฒนาเซ็นเซอร์ติดตั้งในเบาะที่นั่งเด็กเพื่อตรวจจับการใช้งานและวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ด้วย

หากยังจำกันได้ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เกิดโศกนาฏกรรมในเมืองไทย เมื่อเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งถูกทิ้งไว้ในรถตู้ตลอดทั้งวันจนเสียชีวิต โดยผลชันสูตรศพระบุสาเหตุการตายเกิดจากภาวะโลหิตล้มเหลวจากอาการฮีตสโตรก

งานวิจัยหนึ่งชี้ว่า อุณหภูมิในรถที่จอดทิ้งไว้กลางแดดสามารถสูงขึ้นได้เร็วมาก แค่เพียง 5 นาทีก็สูงถึง 75% ของอุณหภูมิสูงสุดแล้ว และภายใน 15 นาทีจะถึงจุดที่อุณหภูมิในรถสูงสุด การที่เด็กอยู่ในรถที่จอดกลางแดดเพียง 20 นาทีในอุณหภูมิตั้งต้น 28 องศาเซลเซียส ทำให้เด็กอยู่ในภาวะที่อันตรายอย่างยิ่ง

เหตุเศร้าสลดดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นในบ้านเราเท่านั้น  แต่ในประเทศญี่ปุ่นก็มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน โดยล่าสุดในเดือนกันยายน เด็กหญิงวัย 3 ปีในจังหวัดชิสุโอกะเสียชีวิตจากการถูกทิ้งไว้ในรถ ส่วนเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เด็กชายวัย 5 ปีจากจังหวัดฟุกุโอกะก็เสียชีวิตในรถโรงเรียน

นั่นทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังวางแผนนโยบายบังคับให้มีการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยในรถโรงเรียนทั่วประเทศ