ซีอีโอ Ferrari ชี้เหตุผลที่คิดถูกแล้วยังไม่ใช้ไฟฟ้าในเอสยูวี

หัวเรือใหญ่ Ferrari (เฟอร์รารี่) ยืนยันบริษัทฯ กำลังเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่นเข้าสู่ยุคระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า  ยืนยันแทบมอบไม่เห็นอุปสรรคหรือภัยคุกคามในอนาคต

เบเนเดตโต วิคนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Ferrari ให้สัมภาษณ์สื่อหลายสำนัก พูดคุยเกี่ยวกับอนาคตของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคแห่งระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่เขามีความมั่นใจอย่างยิ่ง

โดยปกติแล้ว วิคนา วัย 53 ปีแทบจะไม่พบปะกับสื่อมวลชนมากนักนับตั้งแต่รับตำแหน่งซีอีโอของค่ายม้าลำพองเมื่อ 17 ปีที่แล้ว แต่ดูเหมือนเขาต้องการเน้นย้ำว่า Ferrari ภายใต้การกุมบังเหียนของเขากำลังไปได้สวยกว่าที่หลายคนคาดคิด

กำลังเดินมาถูกทางแล้ว

วิคนา ยืนยันว่าระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นสิ่งใหม่ที่ลูกค้ารถซูเปอร์คาร์ต้องเรียนรู้ที่จะสัมผัสประสบการณ์ขับขี่ ซึ่งเขามั่นใจว่า Ferrari ที่ใช้ขุมพลังไฟฟ้านั้นจะให้ความตื่นเต้นเร้าใจไม่ต่างจากเครื่องยนต์สันดาป

“รถยนต์ไฟฟ้าถูกผลักดันด้วยนโยบายของภาครัฐซึ่งตัดสินใจว่าผู้บริโภคควรใช้รถประเภทนี้แล้ว ไม่ว่านั่นจะถูกหรือผิด ตลาดก็กำลังพลิกโฉมหน้า” วิคนา กล่าวเพิ่มเติม

ซีอีโอ Ferrari เปิดเผยด้วยว่าบริษัทฯ กำลังดำเนินตามแผนการเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นแรกภายในปี 2025 และจะออกทำตลาดอย่างเป็นทางการในปี 2026

ปัจจุบัน Ferrari กำลังเตรียมพร้อมส่งมอบ Purosangue รถเอสยูวีรุ่นแรกที่ยังมาพร้อมเครื่องยนต์สันดาปภายใน ซึ่งวิคนายืนยันว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

“เราได้รับยอดจองรถ Purosangue รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 4 เท่า แต่ผมมั่นใจว่ารถเอสยูวีรุ่นนี้จะมีสัดส่วนยอดขายไม่เกิน 20% ของยอดขายทั้งหมดตลอดอายุการทำตลาด ส่วนที่เหลือจะเป็นพื้นที่ของรถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริด” วิคนา กล่าว

เมื่อถามว่าอะไรคือภัยคุกคามของ Ferrari วิคนาตอบอย่างมั่นใจว่าเขายังไม่เห็นว่าบริษัทฯ จะต้องเผชิญกับอุปสรรคหรือภัยคุกคามใหญ่หลวงในอนาคต แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องจับตามองคือคนรุ่นใหม่จะมีมุมมองเกี่ยวกับสินค้าราคาแพงอย่างไร และต้องมีการใส่ใจในเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น

“เมื่อผมพูดว่าเราต้องมุ่งหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2030 ผมหมายความว่าเราต้องทำให้ได้ภายในกรอบเวลาดังกล่าว ผมต้องการลดปริมาณคาร์บอนลงให้ได้มากที่สุด” วิคนา กล่าว