ระบบ keyless entry อาจเป็นระบบที่กันขโมยได้ไม่ดีนัก เป็นผลมาจากช่องโหว่ของสัญญาณวิทยุที่ใช้ในการปลดล็อครถ Ford (ฟอร์ด) เลยได้คิดค้นกุญแจที่สามารถป้องกันการโจรกรรมที่พบบ่อยที่สุดในตอนนี้ที่เรียกว่า การแทรกสัญญาณกุญแจรถยนต์
- โจรเหล่านี้ใช้วิธีอะไร?
- ผู้ผลิตรถยนต์ต่างผลิตระบบป้องกันในเบื้องต้น
- Ford ต่อยอดให้ดีกว่า
- แต่มีวิธีที่น่าจะดีกว่าอยู่แล้วนะ
ระบบการเข้าออกรถโดยไม่ใช้กุญแจ หรือ keyless entry ช่วยให้เราสามารถปลดล็อคและสตาร์ทรถได้ง่ายขึ้นเพราะไม่ต้องใช้กุญแจอีกต่อไป ตัวกุญแจจึงสามารถเก็บไว้ในกระเป๋าและใช้งานรถของเราได้อย่างง่ายดาย
ความง่ายดายเหล่านี้ยังส่งผลไปยังเหล่าโจรที่ค้นพบว่าการขโมยรถที่ใช้กุญแจแบบนี้ทำได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แต่เหตุใดที่สิ่งนี้มันถึงเป็นไปได้ เพราะกุญแจเหล่านี้ถูกคิดค้นมาเพื่อป้องกันการโจรกรรม ไม่ใช่ทำให้งานของเหล่าโจรนั้นง่ายขึ้น?
โจรเหล่านี้ใช้วิธีอะไร?
โจรเหล่านี้จะใช้วิธีที่เรียกว่า “key fob relay attack” หรือ “การแทรกสัญญาณกุญแจรถยนต์” ซึ่งเกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดสัญญาณวิทยุจากตัวกุญแจไปยังรถ ดังนั้นรถจะคิดว่าผู้ขับขี่ได้เข้าใกล้รถและรถจะปลดล็อคให้เองอัตโนมัติ หลังจากนั้นโจรก็เข้าไปในรถแล้วกดปุ่มสตาร์ทแล้วขับรถไปได้เลย
การแปลงสัญญาณกุญแจแบบนี้ เหล่าโจรจะใช้อุปกรณ์วิทยุราคาถูกที่สามารถหาซื้อได้ตามอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์นี้จะทำงานคล้ายกับเครื่องรับส่งวิทยุมือถือ หรือ walkie-talkie สำหรับกุญแจ
โดยจะมีโจรคนหนึ่งที่มีอุปกรณ์หาตำแหน่งกุญแจเดิมหรือเจ้าของรถ และอีกคนหนึ่งอยู่ที่ข้างรถที่พวกเขาพยายามจะขโมย เมื่อสร้างการเชื่อมต่อแล้ว ประตูจะปลดล็อคและสตาร์ทรถได้ เป็นเหตุที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าเราควรเก็บกุญแจของเราไว้ในกระป๋องเหล็กหรือควรเก็บไว้ในตู้เย็น
ผู้ผลิตรถยนต์ต่างผลิตระบบป้องกันในเบื้องต้น
ด้วยเหตุนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะปรับปรุงระบบกุญแจแบบนี้ ในกุญแจที่มีระบบ Keyless ยุคใหม่จะสามารถทำให้ตัวกุญแจอยู่ใน sleep mode ขณะที่ไม่มีการเคลื่อนไหว เพื่อป้องกันการส่งสัญญาณวิทยุใด ๆ ออกมา
แต่ Ford ต่อยอดให้ดีกว่า
แต่ดูเหมือนว่า Ford จะพบหนทางที่ดีกว่านี้ พร้อมกับจดสิทธิบัตรไว้แล้วในชื่อว่า “system for preventing vehicle key fob relay attacks” หรือ “ระบบเพื่อป้องกันการถูกโจมตีด้วยการแทรกสัญญาณกุญแจรถยนต์” ซึ่งในสิทธิบัตรได้อธิบายถึงวิธีการยืนยันตัวตนแบบใหม่ที่ทำให้รถรู้ว่าตัวกุญแจเดิมอยู่ใกล้รถจริงหรือไม่
ข้อมูลจากสิทธิบัตรที่ถูกยื่นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2020 และถูกเผยแพร่ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2022 ที่ผ่านมา ระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่จะสามารถรับส่งข้อมูลรวมถึงเวลาและสถานที่ที่มีการใช้กุญแจด้วย
ดังนั้น ระบบนี้จะสามารถระบุได้ว่าคนที่กำลังจะปลดล็อครถนั้นเป็นเจ้าของรถหรือคนอื่น ตัวอย่างเช่น ตัวรถรู้แล้วว่าตำแหน่งกุญแจห่างจากรถไปมากจากที่เจ้าของเดินออกจากรถ ตัวรถก็จะไม่ตอบสนองหากอยู่ดี ๆ ก็มีสัญญาณของกุญแจปรากฏขึ้นใกล้ ๆ รถ
ใช้ NFC แทนดีกว่าไหม
แม้ว่าวิธีนี้จะยังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ เพราะอุปกรณ์ปลอมแปลงก็ยังสามารถเลียนแบบกุญแจได้แม้จะเข้าใกล้รถ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
เพื่อเป็นการป้องกันการถูกโจมตีโดยการแทรกสัญญาณกุญแจรถยนต์เช่นนี้ อาจเปลี่ยนมาใช้ระบบที่สามารถทำงานได้ในระยะที่ใกล้มากแทน ในรถรุ่นใหม่ ๆ มีการใช้ระบบ NFC สำหรับการปลดล็อคและสตาร์ทรถ ซึ่งดูจะมีความปลอดภัยที่มากกว่าการใช้สัญญาณวิทยุที่สามารถดักใช้จากระยะไกล ๆ
อ่านเพิ่มเติม : Ford จดสิทธิบัตรระบบเลี้ยวแบบ “รถถัง” และกระดานกันลื่นที่กลืนกับดีไซน์รถเพื่อชาวออฟโรด