โปรโมชั่นเฉพาะรุ่น e:HEV

Honda City รุ่น e:HEV ตัวถังซีดาน ลดราคาลง 40,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษ เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 1 กันยายน 2567 โดยรับดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี หรือลูกค้าสามารถเลือกผ่อนเริ่มต้น 7,265 บาท/เดือน (คำนวณจาก ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี รุ่น e:HEV SV เงื่อนไขดาวน์ 20%) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% ส่วนการรับประกัน Honda City e:HEV ยังคงให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

ลดราคา City e:HEV

ราคา Honda City e:HEV ตัวถังซีดาน ถูกปรับลดราคาทั้ง 2 รุ่นย่อย ถูกลงกว่าเดิม 40,000 บาทเหลือเพียงเท่านี้

• รุ่น e:HEV RS     ราคา 799,000 บาท
• รุ่น e:HEV SV     ราคา 729,000 บาท

ราคาฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ยังคงเดิม มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อยดังนี้

• รุ่น RS       ราคา 749,000 บาท
• รุ่น SV       ราคา 679,000 บาท
• รุ่น V         ราคา 629,000 บาท
• รุ่น S         ราคา 599,000 บาท

สเปคและออพชั่นเด่น

Honda City ตัวถังซีดานรุ่น e:HEV ใช้ระบบฟูลไฮบริดทำงานร่วมกับเครื่องยนต์แบบขนาน มีกำลัง 127 แรงม้า แรงบิด 253 นิวตันเมตร น้ำมัน 1 ถังวิ่งไกล 800 กิโลเมตร มีระบบความปลอดภัย Honda SENSING ที่มาพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) พร้อมระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) กับถุงลม 6 ตำแหน่ง ฯลฯ

ออพชั่นเด่นประกอบด้วย ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)

สีตัวถัง Honda City

สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) (เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS) สีขาวแพลทินัม (มุก) (เฉพาะรุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า (เฉพาะรุ่น S และ V)

อ่านเพิ่มเติม: ทำไม 2023 Honda City e:HEV รุ่น SV ใหม่ ถึงน่าซื้อมากที่สุด