เปิดตัว Honda HR-V e:HEV Minorchange ประกาศราคาอย่างเป็นทางการแล้วพบว่ารุ่นเริ่มต้นถูกลง ส่วนรุ่นย่อยอื่นราคาเท่าเดิมดังนี้
เปิดตัว Honda HR-V e:HEV Minorchange ประกาศราคาอย่างเป็นทางการแล้วพบว่ารุ่นเริ่มต้นถูกลง ส่วนรุ่นย่อยอื่นราคาเท่าเดิมดังนี้
ไฮไลต์จุดเปลี่ยนของ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่
ดีไซน์ภายนอกมีการออกแบบกันชนด้านหน้าดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ ให้มาในทุกรุ่นย่อย
ภายในห้องโดยสาร เพิ่มเติมฟังก์ชันการใช้งานใหม่ในทุกรุ่นย่อย ได้แก่
• การออกแบบคอนโซลกลางใหม่ ด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง โดยมาพร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์ มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการใช้งาน
• ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
• อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย โดยมาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง
• มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อม ใหม่! จอแสดงไฟเบรก
จุดเปลี่ยนใหม่ของรุ่น e:HEV RS
• กระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS
• ไฟท้ายแบบ Full LED Light Strip ดีไซน์ใหม่ สี Smoke
• ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว กับสีใหม่ สีดำ Berlina Black แบบ Diamond cut
• ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB)
• ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
• เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด
จุดเปลี่ยนใหม่ของรุ่น EL
• การออกแบบกระจังหน้าใหม่ สีเดียวกับตัวรถ
• เพิ่มเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
• เพิ่มอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
• เพิ่มแผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิด มาพร้อมไฟส่องสว่าง
• รุ่น E เพิ่มช่องปรับอากาศตอนหลัง
สีกากีใหม่
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่! สีกากีแซนด์ (มุก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน สะท้อนลุคสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้น เอกซ์คลูซีฟเฉพาะรุ่น e:HEV RS และ e:HEV EL สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) พร้อมด้วยสีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) สีเทา
เมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีขาวแพลทินัม (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก)
ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ ‘ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่’ มาพร้อมราคาแนะนำช่วงเปิดตัว 899,000 บาท ในรุ่น e:HEV E จำนวนจำกัด เพื่อให้เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น โดยมาพร้อมข้อเสนอรับฟรีประกันภัย 1 ปี และฟรี Honda Ultimate Care เมื่อจองตั้งแต่ 8 พ.ย. 67 – 31 ธ.ค. 67 และรับรถตั้งแต่ 28 พ.ย. 67 – 31 ม.ค. 68
พร้อมตอบรับลูกค้ากลุ่มหลักด้วยราคาเดิม ที่เพิ่มเติมความคุ้มค่ามากขึ้นสำหรับรุ่น e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาท และรุ่น e:HEV RS ราคา 1,179,000 บาท เมื่อจองตั้งแต่ 8 พ.ย. 67 – 28 ก.พ. 68 และรับรถตั้งแต่ 28 พ.ย. 67 – 28 ก.พ. 68 รับ ‘Honda Exclusive Care’ ประกอบด้วย ฟรีประกันภัย 1 ปี ฟรี Honda Ultimate Care อีกทั้งฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม. และฟรีรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี พร้อมรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ทุกรุ่นรับเพิ่มฟรี! บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท เมื่อจองตั้งแต่ 8 พ.ย. 67 – 27 พ.ย. 67 และรับรถตั้งแต่ 28 พ.ย. 67 – 31 ธ.ค. 67
พร้อมข้อเสนออื่น ๆ อาทิ ส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ 0.3%* สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) หรือดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ค่างวดเริ่มต้นเพียง 8,495 บาท หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10%
รวมถึงแคมเปญ ‘Honda Happy Trade-in’ ขายรถคันเดิมเพื่อออกรถยนต์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ รับเพิ่มบัตรน้ำมันสูงสุด 30,000 บาท
สัมผัสกับ ‘ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่’ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษฯ เดียวกัน ได้ทั้งที่โชว์รูมฮอนด้า ตั้งแต่ 28 พ.ย. 67 เป็นต้นไป และที่งาน Motor Expo 2024 ระหว่างวันที่ 29 พ.ย. 67 – 10 ธ.ค. 67
อ่านเพิ่มเติม : Honda Mugen มาโชว์ตัวในไทย แต่งหล่อให้ Accord และ HR-V
รายละเอียดสเปคทั้งหมดของ Honda HR-V e:HEV
การออกแบบภายนอกโฉบเฉี่ยวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ เรียบง่ายแต่ประณีตในทุกรายละเอียด สะท้อนความโดดเด่นอีกขั้นกับด้านท้ายที่มาพร้อมดีไซน์ท้ายลาดแบบ Fastback สู่ความสปอร์ตพรีเมียมรอบคัน
• ใหม่! การออกแบบด้านหน้าดีไซน์ใหม่ ยกระดับความสปอร์ตแกร่งยิ่งขึ้น มาพร้อมกระจังหน้าใหม่
สีเดียวกับตัวรถ (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E)
• ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED Light Strip
• ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (รุ่น e:HEV RS และรุ่น e:HEV EL)
• กันชนหน้า-หลังสีดำและสีเงิน (รุ่น e:HEV EL) และสีดำ (รุ่น e:HEV E)
• ชายกันกระแทกด้านข้างสีดำ (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E)
• สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต
• เสาอากาศครีบฉลาม
• ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E)
• ใหม่! สีภายนอกสีใหม่ สีกากีแซนด์ (มุก) พร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน สะท้อนลุคสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้น (รุ่น e:HEV RS และรุ่น e:HEV EL)
รุ่น e:HEV RS ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยการตกแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน
• ใหม่! การออกแบบด้านหน้าดีไซน์ใหม่ ยกระดับความสปอร์ตแกร่งยิ่งขึ้น มาพร้อมกับกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ตในดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS
• ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ที่มาพร้อม ใหม่! ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) และใหม่! ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
• ใหม่! ไฟท้ายแบบ Full LED Light Strip สี Smoke ในดีไซน์ใหม่ เสริมความสปอร์ตโดดเด่นยิ่งขึ้น
• ใหม่! ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว กับสีใหม่ สีดำ Berlina Black แบบ Diamond cut
• สัญลักษณ์ AMP UP บนกันชนหน้าด้านล่าง สะท้อนเอกลักษณ์ที่โดดเด่น
• กันชนหน้า-หลัง พร้อมชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยโครเมียม
• ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
• เผยมุมมองใหม่ด้วยหลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof)
• สีใหม่! สีกากีแซนด์ (มุก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน
• สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน Exclusive เฉพาะรุ่น e:HEV RS
การออกแบบภายใน
ภายในห้องโดยสารเสริมด้วยการตกแต่งด้วยโทนสีแดงและด้ายสีแดงแบบสปอร์ตในรุ่น e:HEV RS ส่วนทุกรุ่นย่อยมีการเปลี่ยนคอนโซลกลางในดีไซน์ใหม่ แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง โดยมาพร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์ พร้อมด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System ที่กระจายลมที่เหมาะสมทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร อีกทั้งให้ช่องปรับอากาศตอนหลังในทุกรุ่นย่อย
• ใหม่! ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
• ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
• มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อม ใหม่! จอแสดงไฟเบรก
• อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) (รุ่น e:HEV RS และใหม่! สำหรับรุ่น e:HEV EL)
• เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (รุ่น e:HEV RS และใหม่! สำหรับรุ่น e:HEV EL)
• ช่องเชื่อมต่อ USB ทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ทุกรุ่นย่อย ได้แก่ ใหม่! USB-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และ USB-A จำนวน 1 ช่อง (ด้านหน้า)
• แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิด มาพร้อมไฟส่องสว่าง (รุ่น e:HEV RS และ
ใหม่! สำหรับรุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E)
• ช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง (รุ่น e:HEV RS, รุ่น e:HEV EL และใหม่! สำหรับรุ่น e:HEV E)
• พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง, ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ และปุ่มควบคุมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING
• ลำโพงสูงสุด 8 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV RS)
• ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เปิด-ปิดแบบสัมผัส (รุ่น e:HEV RS)
• แผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย (รุ่น e:HEV RS)
ทุกรุ่นย่อย มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ในระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน สามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ มีแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร พาคุณไปได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง
ทุกรุ่นย่อย ยังมาพร้อมกับสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามความต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่
• ECON Mode - โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ตามรูปแบบการขับขี่
• Normal Mode - โหมดการขับขี่แบบปกติ สำหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป
• Sport Mode - โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต ที่ช่วยปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้พร้อมตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักดังนี้
• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
• ใหม่! ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
โดยระบบจะปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำ แยกอิสระซ้าย-ขวา อัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์การขับขี่ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถยนต์ด้านหน้าหรือรถที่กำลังสวนทางมา
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีด้านการขับขี่ระดับพรีเมียม อาทิ
• ใหม่! ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) (รุ่น e:HEV RS)
• ใหม่! เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV RS)
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ระบบที่ทำงานเพื่อช่วยควบคุมคันเร่งและเบรก เพื่อรักษาความเร็วได้อย่างเหมาะสมเมื่อขับรถลงจากทางลาดชัน
• ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
• ระบบ Auto Brake Hold
• ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น e:HEV RS และรุ่น e:HEV EL)
• ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) สามารถล็อกรถอัตโนมัติ เมื่อเดินออกห่างจากตัวรถในระยะ 1.5 เมตรขึ้นไป
• ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front and Rear Passenger Seat Belt Reminder)
• ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
• ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (Agile Handling Assist: AHA)
• พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า พร้อมอัตราทดเกียร์แบบแปรผัน (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
• กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ที่มีการพัฒนาคุณภาพของกล้องให้มีความละเอียดสูงขึ้น
• ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และ ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
• ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ช่วยป้องกันล้อล็อกเมื่อเบรกกะทันหัน และระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
บนพื้นถนนที่ลื่น
• ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist: VSA)
• ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA)
• สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal: ESS)
ขายรถเก่า-ซื้อคันใหม่ ไม่ยุ่งยาก ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
2022 Honda HR-V e:HEV E
แลก
เพิ่มรถของคุณ