ประเทศจีน ที่เป็นสมรภูมิหลักของหลายค่ายรถยนต์ในการเลือกที่จะเปิดตัวรถยนต์ใหม่ ๆ รวมถึงกลายเป็นศูนย์การพัฒนาและวิจัยรถยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่น ๆ อีกด้วย
ด้วยเหจุนี้เอง เราจึงสามารถเห็นแบรนด์ย่อยของ Honda (ฮอนด้า) ในประเทศจีนที่หลากหลาย ทั้ง Honda Technology Investment Co. Ltd., Guangqi Honda Automobile Co. Ltd., และ Dongfeng Honda Automobile Co. Ltd. ที่จะเป็นจุดสำคัญในการเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า
และพวกเขามีแผนที่จะเปิดตัว e:N Series (อี:เอน ซีรีส์) รถยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำ ทั้งหมด 5 รุ่น ภายใน 5 ปี
แบรนด์ e:N ใหม่
เริ่มแรก Honda ได้มีการเปิดตัวแบรนด์ย่อยใหม่ e:N สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ที่จะมาพร้อมกับรถถึง 5 รุ่นด้วยกัน ในขณะนี้ยังมี 3 รุ่นที่เป็นคอนเซ็ปท์ ส่วนในรุ่นที่ 4 จะมาในรูปแบบของ SUV ไฟฟ้า 2 เวอร์ชั่น
นอกจานี้ยังมีการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ e:N Architecture ที่จะไม่ได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มที่มีขนาดฐานล้อต่างกัน แต่จะสามารถใช้งานได้ในหลากหลายตัวถัง เครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน โครงสร้างรถ และการวางแบตเตอรี่
สำหรับแพลตฟอร์มของรถขนาดเล็กไปจนถึงกลาง ขับเคลื่อนล้อหน้า คือ e:N Architecture F ที่สามารถนำมาใช้กับ SUV ซีดาน หรือแฮทช์แบ็คได้ด้วย ทำให้เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นระยะทางสั้น ๆ
สำหรับรถที่จะมีระยะไกลกว่า วิ่งได้ทั้งในเขตเมืองและนอกเมืองคือ e:N Architecture W ที่จะสามารถเลือกได้ทั้งมเตอร์ตัวเดียวขับเคลื่อนล้อหลัง หรือมอเตอร์สองตัวขับเคลื่อนสี่ล้อ มาในรถคันแรกคือ Honda e:NP1 ที่เปิดตัวไปในงาน Guangzhou Motor Show 2021 ล่าสุด
ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ใต้ท้องรถเพื่อระยะทางที่ยาวกว่า
e:N OS
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนไปข้างหน้า คือระบบ infotainment ภายในรถ ที่จะได้ระบบปฏิบัติการใหม่ e:N OS พร้อมระบบ AI ที่สามารถเรียนรู้จากนิสัยของผู้ขับขี่ได้ เพื่อเสนอเส้นทางที่ประหยัด รถไม่ติด หรือแสดงจุดชาร์จที่อยู่ใกล้ที่สุดได้
e:N OS จะยังสามารถใช้ร่วมกับ Honda SENSING และ Honda Connect 3.0 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุการชนให้เป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี 2050 แม้หนทางจะดูยาวไกล แต่ดูจากการพัฒนาของ Honda แล้ว พวกเขาไม่เคยปล่อยรถที่ยังไม่พร้อมต่อตลาดออกมาแน่นอน
e:N SUV และ e:N Coupe
ในงาน Guangzhou Motor Show ที่ผ่านมา ทาง Honda ได้นำรถคอนเซปท์มาให้ชมกัน 3 รุ่น คือ e:N COUPE, e:N SUV, และ the e:N GT ที่แม้จะดูเหลี่ยมและเป็นเส้นตรงมากเกินไป แต่มันก็ยังไม่ใช่ดีไซน์สุดท้าย
เนื่องด้วยเหตุผลความปลอดภัย ปลายแหลมที่ยื่นออกมาหน้ารถจะต้องถูกตัดออก นอกจากนี้เรายังไม่ทราบว่าจะได้ระบบขับขี่อัตโนมัตหรือไม่ แต่ก็ควรได้รับระบบระดับ 3 เช่นเดียวกับที่ติดตั้งในรุ่นเรือธง Honda Legend และได้รับการอนุมัติให้ใช้ในญี่ปุ่น
แต่เราต้องรออย่างน้อยสองปี และดูการเปลี่ยนแปลงในการผลิตจริง เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์กล่าวว่า จะเข้าสู่สายการผลิตตั้งแต่ปี 2022 ในตลาดที่พัฒนาแล้ว ซึ่งรวมถึงจีน ที่มีการวางแผนให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและเซลล์เชื้อเพลิงบริสุทธิ์ของฮอนด้าเป็น 40% ในปี 2030 80% ในปี 2025 และ 100% ในปี 2040
นี่เป็นเพียงหนังสือบทใหม่ของผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นเกี่ยวกับโครงการผลิตไฟฟ้าที่เริ่มต้นจากตลาดจีน แต่ในไม่ช้าพวกเขาจะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก
น่าเสียดายที่ประเทศส่วนใหญ่ไม่มีกฎหมายสำหรับยานพาหนะที่ใช้ระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ 3
ขณะเดียวกัน ถึงแม้จะยังไม่มีการยืนยันว่ารถยนต์ไฟฟ้าซีรีส์ e:N จะข้ามน้ำข้ามทะเลมาขายเมืองไทยหรือไม่ แต่เมื่อ Honda ยังไม่กล่าวถึง ก็หมายความว่าเรามีโอกาสได้สัมผัสตัวจริงเสียงจริงกันในอนาคต
หาก Honda ตัดสินใจจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเราหรืออาเซียน คาดว่าจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมเพื่อให้เข้ากับความต้องการใช้งานของคอรถยนต์ในไทย โดยเฉพาะการนำเสนอรถยนต์ขนาดเล็ก