การขับรถแช่ขวาในที่นี้ นิยามถึงบุคคลที่ขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ อยู่ในเลนขวาสุด โดยไม่มีท่าทีจะแซงรถอื่น หรือไม่มีท่าทีจะเบี่ยงออกภายในระยะทางสั้น ๆ ส่งผลให้ รถต่อท้ายไม่สามารถใช้แซงได้ เกิดปริมาณรถชะลอตัวสะสม ส่งผลเสียต่อความคล่องตัวของการจราจรส่วนรวม
ถึงแม้หลายคนจะรู้อยู่แล้วว่าการขับช้าแช่ขวามันไม่ดีอย่างไร แต่บางคนก็ห้ามใจตนเองไปขับแช่ขวาไม่ได้ พร้อมกับยกเหตุผลสุดคลาสสิคขึ้นมาประกอบ
ขับเร็วตามกฎหมายแล้วนะ
นี่คือเหตุผลสามัญประจำตัวคนที่ขับช้าแช่ขวา โดยมีความคิดผิด ๆ ที่ว่า เมื่อเราขับเร็วสุดเท่าที่กฎหมายกำหนดแล้ว ก็จะสามารถแช่เลนขวาได้ ทั้งที่จริง ๆ แล้วเป็นตรรกะที่ผิด เพราะเลนขวาเป็นเลนที่เอาไว้ให้รถแซง แม้ว่ารถคันนั้นจะขับเร็วเกินกฎหมายกำหนด เขาก็มีสิทธิ์ใช้เลนขวาในการแซงได้อย่างถูกต้อง ส่วนการขับเร็วเกินกฎหมายนั้นไม่ถูกต้องเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็ต้องให้ใบสั่งกันต่อไป สรุปง่าย ๆ คือคุณต้องไม่ขับแช่ขวา โดยอ้างว่าขับเร็วตามกฎหมาย แล้วไปกีดขวางคันที่เร็วเกิน
แอบแช่ขวาตอนไม่มีรถตามได้ไหม
ถ้าบางคนถามว่า ในเมื่อถนนไม่มีรถตามหลัง การขับแช่ขวาทำได้มั้ย ในเมื่อมั้นไม่ได้เดือนร้อนใคร? คำตอบนี้อาจจะไม่ถูกต้องสมบูรณ์แบบ แต่มันเป้นเรื่องของการฝึกวินัยการขับรถให้เป็นนิสัย แม้ว่าจะไม่มีใครเห็นก็ตาม แต่ถ้าอดใจไม่ไหวจริง เห็นถนนว่าง ๆ อยากลิ้มลองการแช่เลนบ้าง ก็ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร แต่ถ้าติดเป็นนิสัย เลิกไม่ได้ เรามีวิธีเลิกแช่ขวาที่ได้ผลกับหลายคนมาแล้ว
ฝึกการมองกระจกหลัง
ขั้นตอนแรกของการเลิกแช่เลนขวา คือการฝึกมองกระจกหลัง ดูว่ามีใครตามหลังในระยะช่วงคันรถหรือไม่ ซึ่งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วไป มีกระจกมองหลัง และกระจกบานหลังที่ชัดเจน ยกเว้นรถกระบะรถตู้บรรทุก ที่มีสัมภาระหลังบดบังทัศนวิสัย ซึ่งสามารถใช้กระจกมองข้างทดแทนได้ ในการดูว่ามีใครมาเร็วกว่าเราหรือไม่ ซึ่งการที่มีรถต่อท้ายเรา ก็ย่อมจะต้องหลีกทางให้ตามมารยาทพื้นฐาน ที่ผู้เขียนเดาว่าหลายคนมีอยู่แล้ว
ฝึกการเปลี่ยนเลน
บางคนชอบแช่ขวาเพราะขี้เกียจเปลี่ยนเลนหลบหลีก อาจจะเกิดจากทักษะการขับขี่ส่วนบุคคลที่เก่งไม่เท่ากัน หรือเกิดจากปัญหาตัวรถที่ไม่พร้อมเปลี่ยนเลนบ่อย ๆ เช่น บรรทุกหนักหรือมีทรงสูง แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคในการฝึกฝน เพียงแค่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายทันทีที่เราตัดสินใจหลบซ้าย จากนั้นขณะที่ไฟเลี้ยวยังกระพริบต่อเนื่องก็ชำเลืองกระจกซ้ายให้โล่งจนแน่ใจ จากนั้นก็บิดพวงมาลัยอย่างช้า ๆ
เมื่ออยู่เลนซ้ายต้องการใช้เลนขวา ก็ทำแบบเดียวกัน โดยต้องดูให้แน่ใจว่าไม่มีรถอยู่เลนขวาวิ่งมาในระยะสายตา จากนั้นก็เปลี่ยนทิศทางรถให้มาใช้แซงขวาได้ การเปลี่ยนเลนสลับไปมานี้ ต่างจากการมุดแบบเปลี่ยนเลนแทรกตามช่องว่างจราจร แต่เป้นการเปลี่ยนเลนเพื่อหลีกรถที่เร็วกว่าเท่านั้น
รถช้ากว่าคันอื่น ชิดซ้าย
บนถนนสายใหญ่ขนาดมากกว่า 4 เลน มักจะมีป้ายคำเตือนว่า รถช้ากว่าคันอื่น ชิดซ้าย อันเป็นคำแนะนำว่าเลนขวามีไว้แซงเท่านั้น หากแซงแล้วมีคันอื่นเร็วกว่าตามมาทันรถคุณ ก็ต้องเบี่ยงเข้าเลนซ้ายโดยเร็วที่สุด ดังนั้นพวกรถที่ติดสติ๊กเกอร์ว่า “โง่อยู่ได้..ซ้ายก็มี” จึงเป็นเหมือนการประจานตนเองว่ามีความเข้าใจผิดไปจากมาตรฐานสังคมที่อยู่ร่วมกัน
อ่านเพิ่มเติม : สรุปให้ฟัง กฎกระทรวงใหม่ กำหนดความเร็วใหม่ 120 กม./ชม. แช่เลนขวาห้ามต่ำกว่า 100 กม./ชม.
แช่ขวาปรับ 1,000
พ.ร.บ.จราจรฯ พ.ศ.2522 ระบุไว้ว่า ผู้ขับขี่รถทุกคันจะต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้าย รวมถึงห้ามมิให้ผู้ขับขี่ ขับรถแซงหน้ารถคันอื่นด้านซ้าย ซึ่งช่องด้านขวาใช้ได้ต่อเมื่อขับรถด้วยความเร็วสูงกว่าด้านซ้าย หรือเมื่อต้องการแซง หากเข้าช่องขวาเพื่อแซงคันอื่นแล้วแต่ไม่ยอมกลับเข้าช่องซ้าย ถือว่ามีความผิดทางกฎหมายเช่นกัน หรือสรุปได้ว่า การขับแช่ในช่องทางขวาแม้จะใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนดก็ถือว่าผิด มีโทษปรับสูงสุด 1,000 บาท
อ้างว่าทำมาหากิน
ไม่เพียงรถส่วนตัวเท่านั้นที่แช่เลนขวา ยังมีรถเพื่อการพาณิชย์ทั้งหลาย เช่น รถกระบะ รถตู้ ที่แช่เลนขวายาว โดยอ้างว่าเป็นคนทำมาหากิน จึงเข้าใจไปเองว่าต้องได้รับความเห็นอกเห็นใจ และคิดเข้าข้างตนเองว่าควรได้รับการอำนวยความสะดวกกว่ารถประเภทอื่น ทั้งที่จริงแล้ว ทุกคนล้วนมีทำมาหากินเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ได้ใช้ถนนเป็นส่วนหนึ่งของงานเท่านั้น
ปัจจัยภายนอก
ปัญหารถแช่เลนขวานั้น ไม่เพียงเกิดจากนิสัยส่วนบุคคลแล้ว ยังเกิดจากปัจจัยภายนอกเช่น เลนซ้ายมีรถบรรทุกวิ่งยาว จึงต้องแซงขวายาว จากความสบายกลายเป็นความเคยชินติดตัว หรือปัจจัยเลนซ้ายมีสภาพถนนไม่ดี ทำความเร็วได้ไม่มาก รถหลายคันจึงไม่ชอบเข้าเลนซ้ายจนเคยตัวเช่นกัน
การจับปรับรถแช่ขวา ยังไม่เคยเกิดขึ้นอย่างจริงจังเท่ากับการจับปรับรถผิดกฎจราจรแบบอื่น ๆ เพราะไม่ได้เป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตโดยตรง เพียงแต่มันกีดขวางการจราจร ทำรถติดสะสม ทำให้คนที่เร่งรีบกว่าคุณต้องเสียเวลา เสียโอกาส เสียจังหวะแซง เสียอารมณ์ และทำให้เกิดการขับปาดหน้ากันในหลายกรณีที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ดังนั้นการขับชาแช่ขวา แม้ไม่ได้ก่ออุบัติเหตุโดยตรงก็จริงอยู่ แต่มันเป็นสิ่งที่น่ารำคาญอันดับต้น ๆ ของการจราจรในประเทศนี้เลยก็ว่าได้
อ่านเพิ่มเติม : รถกระบะคอกสูง-บรรทุกหนัก ทำไมไม่ซื้อรถบรรทุก 4 ล้อใช้แทน ฟังเหตุผลแล้ว เห็นด้วยหรือไม่?