Mitsubishi eK X EV รถที่เคยมีแผนจะผลิตขายในอินโดนีเซีย ถึงขั้นมีการคุยกับรัฐมนตรีแล้ว แต่ปัจจุบันกลับยังไม่มีแม้แต่เงา มาวิเคราะห์สาเหตุพบว่าน่าจะไม่คุ้มการผลิตขาย

เรื่องเริ่มต้นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นาย Agus Gumiwang Kartasasmita ไปเยือนญี่ปุ่นเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2022 ได้รับคำมั่นสัญญาใหม่จากผู้บริหารของ Mitsubishi ซึ่งจะทำให้อินโดนีเซียเป็นฐานการผลิตและส่งออก โดยรุ่นที่คาดหวังกันในตอนนั้นคือ Mitsubishi eK X EV

รัฐมนตรีเล็งรุ่น eK

ระบบนิเวศของรถยนต์ไฟฟ้าในอินโดนีเซีย ตำแหน่งของอินโดนีเซียถือเป็นกลยุทธ์ทั้งในด้านการจัดหาวัตถุดิบและการแปรรูปส่วนประกอบแบตเตอรี่หลักที่จำเป็นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยเหตุนี้ นาย Agus จึงหวังว่า Mitsubishi จะสามารถมีส่วนร่วมในการผลิตยานยนต์ปล่อยคาร์บอนต่ำ ด้วยเทคโนโลยีไฮบริดหรือรถยนต์ไฟฟ้าล้วน โดยเฉพาะรถยนต์ประเภท kei เช่นในญี่ปุ่น เนื่องจากมีศักยภาพที่ดีในอินโดนีเซีย

"เรายังคงสนับสนุนให้ Mitsubishi ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ในอินโดนีเซียโดยใช้แบตเตอรี่ขนาดเล็กกว่าโดยใช้แบตเตอรี่ 20 kWh และระยะขับเคลื่อน 170 กิโลเมตร" นาย Agus กล่าวเสริม

วิ่งไกล 180 กม.

ข้อมูลจำเพาะของรถยนต์ไฟฟ้า Mitsubishi eK X EV ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมต้องการ
รุ่นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมอ้างถึงคือ Mitsubishi eK X EV หรือ eK Cross EV ในญี่ปุ่น จากข้อมูลข้อมูลจำเพาะ รถยนต์ขนาดเล็กคันนี้มีแบตเตอรี่ 20 kWh สามารถวิ่งได้ไกล 180 กิโลเมตรเมื่อชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง สามารถใช้เดินทางระหว่างเมืองใหญ่ 2 แห่งในประเทศได้ ทำให้สามารถติดตั้งจุดชาร์จไฟรับรองไว้ให้ที่ปลายทางได้

สเปคใช้ในเมือง

สเปค Mitsubishi eK X EV มีความยาวรวม 3,395 มม. ความกว้าง 1,475 มม. และความสูง 1,655 มม. มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 63 แรงม้า และแรงบิด 195 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนสองล้อหน้า  ด้วยแรงบิดเกือบจะเท่ากับเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี ทำให้หมดห่วงเรื่องการขึ้นทางชันหรือขึ้นภูเขา รองรับทั้งการชาร์จเร็วและปกติ โดยการชาร์จเร็วใช้เวลาประมาณ 40 นาทีได้ไฟฟ้าเต็ม 80% ในขณะที่การชาร์จปกติใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงจนกว่าจะเต็ม

สาเหตุเพราะต้นทุน

หลังจากผ่านไป 3 ปีจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการผลิตรถ Mitsubishi eK X EV ออกขายในอินโดนีเซียเลย แม้แต่ข่าวเปิดตัวรถรุ่นนี้ก็ไม่มีเผยแพร่ ซึ่งสื่อมวลชนสายรถยนต์ได้วิเคราะห์สาเหตุไว้ 2 ข้อหลักคือ

การแพร่หลายของรถไฟฟ้าจีน เนื่องจากภายใน 3 ปีนี้ มีการบุกตลาดอินโดนีเซียด้วย EV แบรนด์จีนหลายรุ่น ทำราคาถูกเนื่องจากผลิตเยอะและรัฐบาลจีนให้เงินสนันสนุนต้นทุนถูก เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของรถญี่ปุ่นซึ่งผลิตน้อยและไม่มีรัฐบาลสนับสนุน จึงมีต้นทุนแพงกว่า

ระยะทางสั้นเกิน

อีกสาเหตุหนึ่งคือ สเปคตัวรถเองวิ่งได้แค่ 180 กม. สำหรับประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่นั้น นับว่าไม่เหมาะสมที่จะผลิตขายเลย เพราะไม่ตอบโจทย์ผู้คนที่เดินทางระหว่างเมืองใหญ่แบบไม่หยุดชาร์จ และไม่ตอบโจทย์ในพฤติกรรมการโดยสารคนเยอะตามแบบ MPV 7 ที่นั่งซึ่งเป็นที่นิยมมากกว่า

อย่างไรก็ตาม Mitsubishi ยังมีการผลิตรถตู้ขนของพลังไฟฟ้าในชื่อ L100 EV ขายในราคาแปลงเป็นเงินไทยได้ประมาณ 660,000 บาท เป็นรถตู้ทึบ ไม่มีรุ่นโดยสาร ขายได้เฉพาะกลุ่มขนส่งขนาดเล็กเท่านั้น ยังไม่แพร่หลายในปัจจุบัน

อ่านเพิ่มเติม : 2023 Mitsubishi eK X EV ไฟฟ้าจิ๋วใช้ง่าย ค่าตัว 6.47-7.91 แสนบาท วิ่งได้ 180 กม. เตรียมขายในราคูเทน