เผย Isuzu (อีซูซุ) กำลังวางแผนพัฒนารถกระบะพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรก บ่งชี้ว่าเราอาจได้เห็นใน D-Max (อีซูซุ ดีแม็กซ์) เจนเนอเรชั่นต่อไป
การพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าถูกพูดถึงในรายงานแผนธุรกิจระยะกลางหรือ Mid-Term Business Plan 2024 Progress Report ของ Isuzu ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การมุ่งสู่การปล่อยมลพิษคาร์บอนเป็นศูนย์ในระยะยาว
แผนธุรกิจดังกล่าวมุ่งเน้นที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์พลังงานทางเลือกออกจำหน่ายในหลากหลายเซกเมนท์ ตั้งแต่รถบรรทุกขนาดใหญ่ รถบัสไปจนถึงรถกระบะขนาดกลางซึ่งเชื่อว่าคอรถยนต์ชาวไทยน่าจะให้ความสนใจมากที่สุด
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
เริ่มศึกษาแผนรถกระบะไฟฟ้า
แผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์พลังงานทางเลือกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือผลิตภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและจะออกจำหน่ายในอีกไม่ช้า เริ่มจากรถบรรทุกขนาดเล็กพลังงานไฟฟ้าซึ่งจะเปิดตัวทำตลาดญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป
ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ 1 ยังรวมถึงรถบัสขนส่งผู้คนที่จะออกจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Isuzu และ Hino เตรียมเปิดตัวภายในปี 2024 และรถบรรทุกพลัง LNG ที่ใช้ชื่อว่า GIGA
ขณะที่กลุ่มที่ 2 ได้แก่รถบรรทุกขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่ขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจนฟิวเซล รถบัสไฮโดรเจนฟิวเซล และรถบรรทุกขนาดกลางพลังงานไฟฟ้าสำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา
ไฮไลท์ของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่ 2 คือรถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่ทาง Isuzu ยืนยันว่าได้เริ่มต้นศึกษาด้านการวิจัยและพัฒนา พร้อมระบุว่า “Coming Soon” หรือเตรียมเปิดตัวเร็ว ๆ นี้
กลยุทธ์ของ Isuzu มีความคล้ายคลึงกับคู่แข่งสำคัญอย่าง Toyota ที่ต้องการแสวงหาพลังงานทางเลือกหลากหลายรูปแบบเพื่อมุ่งสู่การมีคาร์บอนเป็นศูนย์ ไม่ได้จำกัดเฉพาะระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ 100% อย่างเดียว
สำหรับในประเทศไทย Isuzu มั่นใจว่าตลาดรถยนต์กำลังฟื้นตัวและจะทำยอดขายได้ถึง 9 แสนคันภายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการจำหน่ายรถยนต์ในปีนี้ ยังมีเรื่องปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์สำหรับการผลิตรถยนต์ ซึ่งหากยังขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ก็อาจจะส่งผลต่อการผลิตรถยนต์ในภาพรวมที่ทำให้ไม่ถึงเป้า
ยอดขายรวมของ Isuzu เมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 184,160 คัน แบ่งเป็นรถปิกอัพ Isuzu D-Max จำนวน 150,741 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดรถปิกอัพ 44.1% รถอเนกประสงค์ Isuzu MU-X ขายได้ 16,439 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 31.6% สำหรับรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ขายได้ 16,980 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 50.6%
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });