Lamborghini ชี้เหตุผลระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแรงกว่าเครื่องยนต์ แต่มีหนึ่งจุดต้องระวัง

หัวเรือใหญ่ Lamborghini (ลัมบอร์กินี่) ฟันธงว่าเทคโนโลยีไฮบริดและไฟฟ้าจะทำให้รถซูเปอร์คาร์เข้าสู่ “ยุคใหม่” ในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับเครื่องยนต์สันดาป

สเตฟาน วินเคิลแมนน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Lamborghini กล่าวว่าระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าจะสร้างโอกาสมากมาย โดยเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างรถเอสยูวีพลังไฟฟ้าที่มีมิติตัวถังขนาดเล็กกว่า Urus ซึ่งยังใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในดั้งเดิม

“ผมคิดว่าเราเล็งเห็นโอกาสที่เปิดกว้างในอีกหลายปีข้างหน้า เราสามารถสร้างสมรรถนะที่ดีกว่าในปัจจุบันได้อย่างแน่นอน” วินเคลแมนน์ กล่าวเพิ่มเติม “อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้ายังมาพร้อมความท้าทายที่เราต้องเผชิญ”

แรงจริงแต่ต้องควบคุมได้

ซีอีโอของค่ายรถซูเปอร์คาร์ตรากระทิงชี้ว่าการสร้างซูเปอร์คาร์ในยุคพลังงานไฟฟ้าให้ดี ไม่เพียงต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะในด้านอัตราเร่งที่เร้าใจเท่านั้น แต่ต้องมีการควบคุมที่เชื่องมือด้วย

“การสร้างบุคลิกใหม่ของตัวรถคือสิ่งที่เราให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และเรากำลังเดินหน้าพัฒนาอยู่ในเวลานี้” วินเคิลแมนน์ กล่าว

ขณะเดียวกัน รายงานข่าวระบุว่า Lamborghini ยังกำลังกำลังเฝ้ารอพัฒนาการของการใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์ใหม่ที่มีมลพิษลดลงซึ่ง Porsche บริษัทร่วมเครือ Volkswagen Group กำลังทำการวิจัยและพัฒนาอยู่ในเวลานี้

วินเคิลแมนน์ชี้ว่าเชื้อเพลิงสังเคราะห์อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากตัวเขาเองมองว่านโยบายการแบนเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลภายในปี 2035 อาจประสบปัญหาติดขัดและอาจต้องเลื่อนกรอบเวลาออกไปในท้ายที่สุด

“หากการแบนเครื่องยนต์สันดาปถูกเลื่อนออกไปก็จะเป็นประโยชน์สำหรับเรา เชื้อเพลิงสังเคราะห์คือโอกาสมีค่าที่เรามองเห็น” วินเคิลแมนน์ กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ยอดขาย Lamborghini อยู่ที่ 5,090 คัน เพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีรายได้อยู่ที่ 1.3 พันล้านยูโรและมีผลกำไรจากการปฏิบัติงานอยู่ที่ 425 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

วินเคิลแมนน์เปิดเผยว่าระยะเวลาการรอรับรถในเวลานี้อยู่ที่ประมาณ 18 เดือน ไม่ว่าลูกค้าจะจับจองรุ่นใดก็ตาม

ค่ายรถซูเปอร์คาร์จากอิตาลีทุ่มเงินลงทุน 1.8 พันล้านยูโรในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าซึ่งครอบคลุมทั้งไฮบริดและไฟฟ้าล้วน โดยคาดว่ารถอีวีรุ่นแรกจะเปิดตัวออกทำตลาดภายในปี 2028