ผู้บริหารสูงสุดของ Lamborghini (ลัมโบร์กินี) กล่าวว่ายังจะไม่ทำ EV ล้วนออกมาจำหน่ายในเร็ววันนี้ เพราะว่าเขาเข้าใจดีว่าผู้คนยังติดภาพลักษณ์ของการมีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ และกำลังจะกลายเป็นไฮบริดแน่นอน
ยังไม่ทำ EV ล้วนเพราะว่า?
ผู้บริหารสูงสุดของ Lamborghini คือนาย Stephan Winkelmann ให้สัมภาษณ์ว่า เขารู้ดีว่าโลกกำลังมุ่งไปในกระแสการลดมลพิษ และแม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะละทิ้งการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไปมากแค่ไหน แต่รถแบรนด์กระทิงดุนี้ ก็ยังจะไม่ทำ EV ล้วนออกมาจำหน่ายในเร็ววันแน่นอน มาฟังเหตุผลประกอบกัน ก่อนที่จะเกิดดราม่าหาว่ายี่ห้อนี้ไม่รักโลก
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
เหตุผลที่ลัมโบกินียังไม่ทำ EV ล้วนออกมาขายในตอนนี้ เพราะว่าเขาเข้าใจดีว่าผู้คนยังติดภาพลักษณ์ของการมีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ เสียงท่อกระหึ่ม และกำลังแรง ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่สั่งสมมานาน และไม่ได้จะล้มล้างง่าย ๆ และเขาต้องการจะรักษาไว้
คนแรกที่ทำก่อนไม่สำคัญเท่าคนที่ทำดีสุด
อีกทางหนึ่ง ด้วยกระแสของรถยนต์รักโลกที่แพร่หลายไปทั่วโลก ซึ่งค่ายกระทิงดูนี้ก็ยังต้องทำตามอย่างแน่นอน แต่เป็นการทำตามกระแสลดมลพิษโดยยังไม่ทิ้งแก่นหลักของการมีเครื่องยนต์สันดาปที่แข็งแกร่ง นาย Winkelmann กล่าวอย่างหนักแน่นและเสริมว่า “ในด้านการใช้พลังงานไฟฟ้า คนแรกที่ทำก่อนไม่สำคัญเท่ากับการเป็นคนที่ทำดีสุด”
ภายในปี 2024 ทางบริษัทมีแผนที่จะยกเครื่องกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยปลั๊กอินไฮบริด 3 รุ่น เริ่มจากโฉมโมเดลเชนจ์ของ Aventador และ Huracan ตามด้วย Urus เอสยูวียอดนิยมรุ่นใหม่ การเลือกใช้พลังไฮบริด เพราะเป็นเชื้่อเพลิงที่อยู่ตรงกลางระหว่างรถยนต์แก๊สและรถยนต์ไฟฟ้า ปลั๊กอินไฮบริดซึ่งมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า ประหยัดน้ำมันกว่า และความสามารถในการขับไฟฟ้าล้วนในระยะทางสั้น ๆ จะเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างไฮบริดและ EV เต็มรูปแบบ
อ่านเพิ่มเติม : Lamborghini เตรียมเป็นค่ายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบในปี 2023 พร้อมพัฒนารถ 4 ประตู สู้ Taycan?
เป็นไฮบริดไปก่อน
ระบบไฮบริดเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ Lamborghini เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในแบบที่ตลาดและผู้บริโภค "ยอมรับและเข้าใจได้" Winkelmann กล่าว การรวมมอเตอร์ไฟฟ้าที่สะอาดกับเครื่องยนต์สันดาปขนาดใหญ่ ทำให้บริษัทสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่เป็นปฏิปักษ์ได้สองกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคนยุคเก่าที่รักเครื่องยนต์สันดาป และกลุ่มลูกค้าที่อายุน้อยกว่า ซึ่งให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า พวกเขากล่าวหาว่า "ลัมโบกินียังมีรถใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นอย่างมาก และพวกเขาต้องการให้คุณปฏิบัติตามการลดปล่อยมลพิษ'" Winkelmann กล่าว "เราต้องดำเนินการตามนั้นโดยไม่ลดคุณค่าของแบรนด์"
อ่านเพิ่มเติม : ลือ Lamborghini Urus อัพหน้าใหม่อาจได้เครื่อง PHEV พร้อมพลังถึง 820 แรงม้า
แผนทำ EV ในอนาคต
ภายในปี 2025 Lamborghini ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อย CO2 ลงครึ่งหนึ่ง และต่อไปในช่วงประมาณปี 2027 หรือ 2028 Lamborghini จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดคันแรก ซึ่งเป็นรถยนต์ 4 ที่นั่ง "ใช้งานได้ทุกวัน" ตามที่ Winkelmann กล่าว นอกจากนี้ยังจะมีการเปิดตัว Urus EV ซึ่งเป็นรุ่นที่มียอดขายสูงสุดอีกด้วย
“บริษัทลัมโบกินีมองเห็นโอกาสที่จะรักษาซูเปอร์คาร์แบบไฮบริดไว้ได้นาน ด้วยการมาถึงของเชื้อเพลิงสังเคราะห์ในอนาคต ซึ่งอาจช่วยให้เครื่องยนต์สันดาปมีการปล่อยมลพิษที่เป็นอันตรายน้อยที่สุด แต่ถ้าหากเชื้อเพลิงสังเคราะห์เกิดไม่แพร่หลาย และกฎหมายมลพิษจะบังคับไปสู่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนแล้วล่ะก็ Lamborghini ก็พร้อมจะไปทางไฟฟ้า เพียงแต่ว่ากำลังดำเนินการทีละขั้น” นาย Winkelmann กล่าวส่งท้าย
อ่านเพิ่มเติม : ชมคันจริงในไทย 2021 Lamborghini Huracan STO เล็ก-แรง-เบา เปิดราคา 29.99 ล้านบาท
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });