Lotus Eletre (โลตัส อิเลเทอร์) ซึ่งเป็นรถยนต์ SUV ไฟฟ้าแท้รุ่นแรกภายใต้ Lotus ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วทั่วโลก ชื่อของรถยนต์ใหม่ "Eletre " มาจากภาษาฮังการีซึ่งแปลว่า "ชีวิตใหม่" ซึ่งเป็นไปตามวิธีที่ตระกูลโลตัสรุ่นเริ่มต้นด้วย "E"
- งานดีไซน์เน้นลู่ลม
- ออพชั่นและความปลอดภัย
- แรงและขับได้ไกล
- ผลิตจริงปีนี้
- 2022 Lotus Emira เปิดตัวในไทยแล้ว
2022 Lotus Eletre อยู่ในตำแหน่ง SUV ขนาดกลางถึงใหญ่ ซึ่งสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม EPA โดยมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบมอเตอร์คู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ให้กำลังสูงสุดมากกว่า 600 แรงม้า ทั้งตัวยังมีการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ซึ่งมาจากแบรนด์โลตัส
งานดีไซน์เน้นลู่ลม
2022 Lotus Eletre มีขนาดตัวถัง ความยาว 5,103 ความกว้าง 2,019 และความสูง 1,630 มม. ส่วนระยะฐานล้อ 3,019 มม. รูปลักษณ์ภายนอกมีการออกแบบที่ดุดันมาก โดยแยกมีกลุ่มไฟหน้าไฟ อยู่ในกันชน และไฟ LED ในเวลากลางวันรูปทรงแหลมคมอยู่ด้านบน มีการออกแบบเส้นไฟแนวตั้งภายใน มีสไตล์ที่เกรี้ยวกราดมาก และมีการออกแบบลิ้นหน้าช่องเปิดการกระจายความร้อนแบบแอ็คทีฟ และสามารถให้แรงกดได้ 51 กก. นอกจากนี้ ยังมีช่องลมคู่ที่ฝากระโปรงหน้า และมีช่องลมขยายไปถึงบังโคลนด้านข้างตามลำดับ ช่วยแหวกลมง่ายขึ้น
ที่ด้านข้างของตัวรถ 2022 Lotus Eletre มีสีหลังคาและตัวถังต่างกัน ส่วนเอวใช้สันนูนแบบหยัก และเน้นรูปทรงต่อจากบังโคลนหน้าและหลังเพื่อให้เข้ากับส่วนเว้านูน ได้ที่จับประตูแบบซ่อน และกระจกมองหลังแบบอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก รวมถึงการติดตั้ง LiDAR 128 ตรงที่คิ้วล้อหน้าแต่ละข้าง และอีกชุดที่ด้านหน้า ด้านหลัง และตรงกลางของหลังคา มีการออกแบบที่หดได้เพื่อให้รถไม่ต้องกังวลเรื่องระดับความสูง ในกรณีที่แรงต้านลมต่ำ จะส่งผลต่อประสิทธิภาพแอโรไดนามิกไปอีก
ที่ส่วนท้ายของรถ รถใหม่ติดตั้งสปอยเลอร์หลังแบบสองชิ้นบนหลังคา ไฟท้ายใช้ไฟ LED แถบยาวตามแบบสมัยนิยม และมีการออกแบบช่องลม 2 แบบที่บริเวณมุาด้านหลัง ทำให้เกิดแอโรไดนามิกที่ดี นอกจากนี้ ยังมีดิฟิวเซอร์รีดอากาศด้านหลังขนาดใหญ่ถึง 2 ชั้น ซึ่งเพิ่มแรงกดได้เป็นอย่างดี จุดเด่นอีกอย่างของ Lotus Eletre คือใช้สปอยเลอร์หลังไฟฟ้าแบบแอคทีฟ ซึ่งเมื่อเปิดออกสามารถสร้างแรงกดได้มากถึง 116 กก.
ออพชั่นและความปลอดภัย
สำหรับการตกแต่งภายใน 2022 Lotus Eletre ใช้การออกแบบแนวไซไฟ ตัวอย่างเช่น รถทั้งคันมีหน้าจอ 5 ส่วน ที่หน้าจอควบคุมมีจอแสดงผลในรถยนต์ 1 พันล้านสี ส่วนแถบคอนโซลทั้งหมดติดตั้งจอ LCD แบบเต็มพื้นที่ขนาด 12.6 นิ้ว ยังมีระบบการมองเห็นแบบ AR HUD ขนาด 29 นิ้ว และด้านหลังติดตั้งหน้าจอกลางแบบพับได้ขนาด 9 นิ้ว
ด้านระบบเสียงใช้บริการแบรนด์อังกฤษ KEF Premium เป็นระบบ 1380 วัตต์พร้อมลำโพง 15 ตัวที่มี Uni-QTM และเทคโนโลยีเสียงเซอร์ราวด์ ผู้ใช้ยังสามารถเลือกรุ่นอัพเกรด ที่มีกำลัง 2160 วัตต์ รวมถึงลำโพง 23 ตัวและการกำหนดค่าเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น Uni-Q และระบบเสียงเซอร์ราวด์ 3 มิติ
2022 Lotus Eletre มีเซ็นเซอร์ช่วยคนขับ 34 ตัว นอกจาก 4 lidars ที่กล่าวถึงข้างต้นแล้ว ยังรวมถึงกล้อง SMP 7 ตัว, เรดาร์คลื่น 6 มม., กล้องมองภาพรอบทิศทาง 2MP 4 ตัว, เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้องในรถยนต์ 1 ตัว สามารถเรนเดอร์ภาพขั้นสูง ภาพ 3 มิติ และฟังก์ชันอื่นๆ
เรดาร์และเซนเซอร์ต่าง ๆ นี้ทำงานคู่กับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (ACC), ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (CMSF), การจดจำป้ายจราจร (TSI), ระบบเตือนการเปิดประตู (DOW), การแจ้งเตือนก่อนชนด้านหลัง ( RCTA), ระบบช่วยเปลี่ยนเลน (LCA), การตรวจจับเด็ก (CPD), ระบบช่วยรักษาช่องทางฉุกเฉินขั้นสูง (LKA+), ระบบเบรกฉุกเฉินขณะจอด (PEB), ระบบป้องกันการชนด้านหลัง (CMSR) ฯลฯ
แรงและขับได้ไกล
ในส่วนของขุมพลังนั้น 2022 Lotus Eletre มาพร้อมกับมอเตอร์กำลังสูงและแรงบิดสูงที่มีชื่อรหัสว่า EDS2 ซึ่งจัดวางไว้ที่ด้านหน้าและด้านหลัง ให้กำลังสูงสุดมากกว่า 600 แรงม้า ในส่วนของระบบเกียร์ ติดตั้งระบบเกียร์ 2 สปีดที่มอเตอร์เพลาหลัง บวกกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เจ้าหน้าที่กล่าวว่าอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 2.95 วินาทีเท่านั้น และอัตราเร่ง 0-200km/h น้อยกว่า 12 วินาที ช่วงล่างยังมาพร้อมกับล้อ 5 ก้านแบบใบพัด 2 สีขนาด 23 นิ้ว สามารถติดตั้งระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก 10 ลูกสูบได้ และมีระบบบังคับเลี้ยวที่ล้อหลังด้วย
จุดเด่นของ 2022 Lotus Eletre อีกอย่างคือมีชุดแบตเตอรี่ 100kWh ที่สามารถแล่นได้ไกลถึง 600 กิโลเมตรภายใต้สภาวะ WLTP และถ้าหากใช้อัตราการชาร์จ 350kW จะสามารถขับได้ 120 กิโลเมตร (WLTP) โดยชาร์จแค่ใน 5 นาที และขับได้ 400 กิโลเมตร (WLTP) โดยชาร์จแค่ 20 นาที
อ่านเพิ่มเติม : ลือกระหึ่ม Lotus เตรียมคัมแบ็คอาเซียน มาเลเซียเปิดรับจอง Evija ส่วนไทยลือเปิดตัวครึ่งปีหลัง
ผลิตจริงปีนี้
2022 Lotus Eletre จะผลิตในโรงงานใหม่ของอู่ฮั่น ประเทศจีน และจะเข้าสู่การผลิตอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ส่วนประเทศไทย จะเข้ามาทำตลาดปีหน้า เพราะโลตัสกำลังเตรียมพัฒนาสเปคพวงมาลัยขวาอย่างรวดเร็ว (เพื่อเอาใจตลาดอังกฤษบ้านเกิด) ดังนั้นจะทราบราคาขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ อาจจะประกาศได้ในงานมอเตอร์โชว์ 2023 เป็นต้นไป
อ่านเพิ่มเติม : ชมบูท Lotus โชว์ Elise Sport 220/Exige Sport 350 ล็อตสุดท้าย พร้อมเปิดจอง Emira รถน้ำมันรุ่นสุดท้ายของโลตัส
2022 Lotus Emira เปิดตัวในไทยแล้ว
แบรนด์โลตัสในไทยปัจจุบันนี้ เพิ่งเปิดตัวรุ่น Emira เป็นประเทศแรกในอาเซียน แสดงถึงเจตนาที่จะบุกบ้านเราอย่างจริงจัง วางตัวเป็นรถสปอร์ตพรีเมี่ยม มาแทนที่รุ่น Evora เดิม เพิ่มเติมด้วยความสบายในการขับขี่ โดยยังไม่ทิ้งเรื่องความเกาะถนนขับสนุกคล่องตัว อันเป็นดีเอ็นเอของแบรนด์นี้
อ่านเพิ่มเติม : เหตุใด 2022 Lotus Emira หันไปใช้เครื่อง Mercedes- AMG แทนของ Toyota
ขุมพลังของ Emira จะมีให้เลือก 2 แบบ โดยช่วงเปิดตัว จะวางจำหน่ายในรุ่น 'First Edition' ที่ผลิตจำนวนจำกัด ใช้เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร ซุปเปอร์ชาร์จ ซึ่งให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 4.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 288 กม./ชม. และจะมีเครื่องยนต์ใหม่เป็นครั้งแรกในรอบสิบปี จะมาจากAMG ซึ่งก็คือเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ ซึ่งให้กำลัง 360 แรงม้า
2022 Lotus Emira ขายแล้วในไทย ด้วยราคา 11.9 ล้านบาท ในขณะที่รุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ AMG คาดว่าจะมีราคาที่ต่ำกว่านี้ ในปีนี้เตรียมพบการเปิดตัวรุ่น 4 สูบได้เลยครับ