2025 Mazda 6e คันแรกออกจากไลน์ผลิตในจีนแล้ว เตรียมส่งออกทั่วโลก คาดขายไทยปลายปี

Mr.Argus
Mr.Argus · 2025-04-04 05:20

Mazda 6e สเปคส่งออก จากโรงงานที่จีน

เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา รถยนต์ Mazda 6e ซึ่งเป็นรุ่นส่งออกของ Mazda EZ-6 สำหรับตลาดต่างประเทศ รวมถึงยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ออกจากสายการผลิตอย่างเป็นทางการที่โรงงาน Changan-Mazda ในหนานจิง ประเทศจีน ใช้ชื่อรุ่น 6 แล้วเพิ่มตัวอักษร “e” ในชื่อรุ่นนี้เพื่อให้ระบุได้ง่ายว่าเป็นรถยนต์ขนาดกลางระดับเดียวกับ Mazda 6 แต่เป็นพลังไฟฟ้า

สเปคไม่เหมือน Deepal

2025 Mazda 6e ที่ออกจากสายพานการผลิตนี้ยังเป็นสเปคสำหรับตลาดยุโรป จะมี 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น Long Range ที่มีกำลัง 180 กิโลวัตต์ (241 แรงม้า) พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 80 กิโลวัตต์ชั่วโมง และระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน WLTP ที่ 552 กิโลเมตร และรุ่น Standard ที่มีกำลัง 190 กิโลวัตต์ (255 แรงม้า) พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 68.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง และระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน WLTP ที่ 479 กิโลเมตร ​
เมื่อเทียบกับสเปค Changan Deepal L07 ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร แบตเตอรี Lithium Ternary (NMC) ขนาดความจุ 66.8 kWh ขับเคลื่อนล้อหลัง ระยะวิ่งไกลสุด 540 กม. (NEDC)

Mazda 6e หรือใจจีนชื่อ EZ-6

ดีไซน์ Mazda 6e

แม้ใช้โครงสร้างเดียวกับ Changan Deepal L07 แต่ชิ้นส่วนภายนอกถูกออกแบบตามแนวคิด Kodo Soul of Motion ของ Mazda โดยมีรายละเอียดการออกแบบ เช่น ประตูแบบไร้กรอบ กระจังหน้าที่สามารถส่องสว่างได้ มือจับประตูแบบซ่อน และสปอยเลอร์หลัง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับถุงลมนิรภัย 9 จุด ซึ่งมีปริมาตรรวม 350 ลิตร และพื้นที่ป้องกันถึง 25,000 ตารางเซนติเมตร

สเปคพวงมาลัยขวามาปลายปี

ในอนาคต ความร่วมมือระหว่าง Mazda และ Changan มีแผนจะเปิดตัวรถ SUV รุ่นใหม่ในปี 2025 ตามที่ประธานบริษัท Mazda Motor Corporation นาย Katsuhiro Moro ได้กล่าวไว้

ส่วนประเทศไทย ยังรอไปก่อน เพราะไม่มีพวงมาลัยขวาออกมาจากโรงงานในตอนนี้ แม้ว่าทางมาสด้าจะยืนยันการทำตลาดขายในไทยแล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงการพัฒนาพวงมาลัยขวาใหม่หมด คาดว่าจะมีข่าวดีในตอนปลายปี ตามอายุการวิจัยและพัฒนาของรถยนต์พวงมาลัยทั่วไป

เตรียมเปิดตัว Mazda 6e ในไทยปลายปี 2025

แผนการ Mazda ไทย

Mazda ประเทศไทยประกาศนโยบายจาก CEO บินจากญี่ปุ่นมาแถลงด้วยตัวเอง ยืนยันการเปิดตัว Mazda 6e ในปีนี้ และยังมีรุ่นใหม่อื่นๆเตรียมถล่มตลาดไทยอีก โดยลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท ในประเทศไทย เพื่อพัฒนาศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (xEVs) ตั้งเป้าผลิต รถยนต์คอมแพ็คเอสยูวีไฟฟ้า 100,000 คันต่อปี สำหรับตลาดในประเทศและส่งออกทั่วโลก
1. แนวคิด Multi-Solution & Intentional Follower
ภายในปี 2573 มาสด้าวางแผนให้ 100% ของยอดขายทั่วโลก เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ใช้กลยุทธ์เปลี่ยนผ่าน 3 เฟส: เริ่มจาก HEV, PHEV และ BEV ก่อนเข้าสู่ยุคไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
2. แผนพัฒนาตลาดไทย
เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 5 รุ่น ระหว่างปี 2568 – 2570 เริ่มจาก Mazda 6e (BEV) ในปี 2568 นี้
นอกจากนี้จะตั้งไทยเป็น ฐานการผลิต รถยนต์ xEVs พร้อมพัฒนาแบตเตอรี่และเกียร์ไฟฟ้า
3. การปรับโครงสร้างองค์กรและเครือข่ายผู้จำหน่าย
ปรับองค์กรให้เป็น Agile และ Insight-Driven ใช้แพลตฟอร์ม VOF (Voice of Fans) วิเคราะห์ความคิดเห็นลูกค้าแบบเรียลไทม์
มีการพัฒนา Mazda NEXTperience Hub ให้บริการลูกค้าผ่านออนไลน์และออฟไลน์ ยกระดับศูนย์บริการ 84 โชว์รูมทั่วประเทศ รองรับการซ่อมรถยนต์มากขึ้น
4. วิสัยทัศน์แบรนด์ใหม่: “Joy Drives Lives”
เน้นการสร้าง ประสบการณ์ลูกค้าแบบไร้รอยต่อ ถ่ายทอดแนวคิด Omotenashi หรือการบริการแบบญี่ปุุ่น
มาสด้าตอกย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย โดยลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีและฐานการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พร้อมเดินหน้าสู่อนาคตยานยนต์ที่ยั่งยืนตามแนวทาง “Customer-Centric”

รอลุ้นราคาว่าจะเทียบเท่า Deepal L07 หรือไม่ โดยรุ่นจีนรุ่นดังกล่าวเปิดตัวในไทยมีราคา 1,329,000 บาท

อ่านเพิ่มเติม : New Mazda CX-5 Minorchange ปรับหน้าใหม่ เพิ่มความไฮเทค

Mr.Argus

Mr.Argus

Toyota
Honda
Nissan
Mitsubishi
Mazda
Suzuki
Isuzu
Ford
Mercedes-Benz
BMW
Aston Martin
Audi