ซีอีโอ Mazda ตำหนินักการเมืองสำหรับนโยบายแบนรถเครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2035


ซีอีโอของ Mazda Europe ได้กล่าวในเชิงต่อต้านสำหรับนโยบายแบนรถเครื่องยนต์สันดาปในยุโรปภายในปี 2035 ว่า การนำรถไฟฟ้าเข้ามาเร็วเกินไปอาจขัดขวางนวัตกรรมใหม่ ๆ
- ไม่ได้เกลียดรถไฟฟ้า แต่ปัญหาอยู่ที่นักการเมือง
- ความคิดเห็นไปในทางเดียวกับ Toyota
ซีอีโอของ Mazda Europe ไม่ได้เกลียดรถไฟฟ้า
Martijn ten Brink ซีอีโอของ Mazda Europe กล่าวกับ Top Gear ว่าในความคิดของเขานั้น เขากำลังต่อสู้กับการแบน (รถน้ำมัน) และพบว่ามันน่าหงุดหงิด ปัญหาของเขานั้นไม่เกี่ยวกับการไม่ชอบรถยนต์ไฟฟ้า
แต่เขามองเห็นประเด็นที่ว่า หากเราเลือกหนทางสำหรับเทคโนโลยีไร้มลพิษ (รถยนต์ไฟฟ้า) แล้ว อาจเป็นการขัดขวางนวัตกรรมที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้
“สิ่งที่น่าอายที่ผมพบคือ เราได้เลือกเทคโนโลยีหนึ่งไปแล้ว และนวัตกรรมที่จะเกิดขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับว่าเราตั้งเป้าหมายไปในทิศทางไหน แต่คุณคงไม่ได้บอกวิศวกรและนักพัฒนาหรอกว่าจะไปในทิศทางนั้นได้อย่างไร”
อ่านเพิ่มเติม : วิศวกรเฉลยว่าทำไม Mazda MX-30 ถึงขับได้แค่ 209 กม. แต่ได้รางวัล JCOTY
ปัญหาอยู่ที่นักการเมือง
ผู้ที่ ten Brink มีปัญหาด้วยคือเหล่านักกฎหมายและนักการเมือง โดยเขากล่าวว่า “ผมมีปัญหาด้วยความจริงที่ว่า (เหล่านักการเมือง) เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะไปเป้าหมายนั้นอย่างไร และมีหนทางเดียวเลยคือรถยนต์ไฟฟ้า คุณจะทิ้งสิ่งอื่น (ที่มี) ไปจริง ๆ หรือ? แม้จะเป็นทางเลือกที่คุณยังไม่รู้เลยว่ามีอยู่?”
“ผมคิดว่านั่นคือความอัปยศของนักการเมือง” เขากล่าว “นั่นไม่ใช่งานของเขา งานของพวกเขาคือเรียกร้องให้อนาคตมีการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ แต่การที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นควรขึ้นอยู่กับความเป็นผู้ประกอบการและความสร้างสรรค์”
ความคิดเห็นไปในทางเดียวกับ Toyota
ผู้บริหารของ Toyota ก็มีท่าทีเช่นเดียวกับซีอีโอของ Mazda Europe แม้ว่าค่ายสามห่วงจะได้รับคำวิจารณ์มากมาย แต่ก็ยังพัฒนารถยนต์ไปในทิศทางที่ต่างจากค่ายรถอื่น ๆ เพราะแทนที่ที่จะสร้างเพียงรถยนต์ไฟฟ้า แต่ Toyota ยังสร้างทางเลือกสำหรับผู้บริโภคมากมาย ได้แก่ รถไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด ไปจนถึงรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน
ซีอีโอ Mazda Europe กล่าวว่า Mazda จะต้องพร้อมสำหรับนโยบายใหม่ ๆ ในอนาคต หมายความว่า มาสด้าจะต้องเร่งในการแข่งขันในตลาดอีวี แต่เมื่อพิจารณาว่า Mazda MX-30 คืออีวีรุ่นเดียวที่ขายอยู่ตอนนี้ก็พบว่าไม่ใช่อะไรง่ายนัก
อย่างไรก็ตาม ten Brink กล่าวว่าการบังคับให้ผู้ผลิตรถใช้แบตเตอรี่เพื่อแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจะทำให้การลงทุนในด้านอื่น ๆ จะหมดลงไป
“ผมคิดว่านี่คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ ผมคิดว่าการขายรถที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ภายในปี 2035 นั้นดีแล้ว แต่การสร้างรถไฟฟ้าโดยต้องใช้แบตเตอรี่ผมคิดว่ามันน่าเสียดายไปหน่อย ความคิดเห็นส่วนตัว (นะ)”
Oliver Zipse ซีอีโอของ BMW ก็มีความคิดเห็นไปในทางเดียวในเรื่องของการแบนเครื่องยนต์สันดาปที่เร็วเกินไป แต่ด้วยเหตุผลที่ต่างไป คือ “การละทิ้งเทคโนโลยีที่ทำให้คุณสามารถมีตำแหน่งทางการตลาดในระดับโลกนั้นเป็นเรื่องอันตราย” เขากล่าวในเวลานั้น
เขายังกล่าวว่า BMW จะพร้อมสำหรับกฎหมายต่าง ๆ ในอนาคต และจะนำเสนอรถยนต์ให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
อ่านเพิ่มเติม : เปิดตัว 2023 Mazda MX-30 e-Skyactiv R-EV คืนชีพโรตารี่เพิ่มระยะให้อีวี วิ่งได้เกือบ 600 กม.


Salin
แบรนด์รถยนต์ยอดนิยมในไทย
ข่าวล่าสุด
รีวิวเจาะลึก New Trident 660 และ New Tiger Sport 660 จาก Triumph!!!
Honda RVF750 RC45 ตำนานแห่งยุคทองของการแข่งขันซูเปอร์ไบค์!!!
รีวิวบทสรุป All New Yamaha NMAX Tech MAX กับระบบ YECVT ว่าดีอย่างไร จำเป็นหรือไม่ ?
ร่วมทริป Honda Bigbike Xventure ตะลุยมรดกโลก นครวัด-นครธม ณ ประเทศเขมร!!!
2025 New Honda X-ADV เปิดตัวพร้อมราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย!!!
รถยอดนิยม
- เป็นที่นิยม
- ล่าสุด
-
DEEPAL S07
ยังไม่คอนเฟิร์ม
-
Deepal L07
THB 1,329,000
-
Hyundai IONIQ...
THB 1,699,000 - THB 2,399,000
-
Volvo EX30
THB 1,590,000 - THB 1,890,000
-
Honda City
THB 579,500 - THB 839,000
-
Land Rover...
THB 3,000,000 - THB 8,599,000
-
MG Maxus...
THB 2,499,000 - THB 2,699,000
-
Ford Ranger
THB 528,000 - THB 1,519,000
-
MG ES
THB 959,000
-
Honda CR-V
THB 1,369,000 - THB 1,759,000