มีการกล่าวว่า BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) และ McLaren (แมคลาเรน) กำลังมีการร่วมมือกันทำโครงการที่จะเปิดตัวซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้าและครอสโอเวอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงขึ้นมาในอนาคต

• แอบมีความสัมพันธ์กันมานาน
• ต้องการแพลทฟอร์มคาร์บอนไฟเบอร์ของ McLaren
• อะไรที่ทำให้ BMW จะร่วมมือกับ McLaren?

แอบมีความสัมพันธ์กันมานาน

จากรายงานก่อน ๆ ระบุว่า BMW และ McLaren ได้จุดประกายความสัมพันธ์กันมาหลายปีแล้ว และในเวลาหนึ่งมีการเสนอว่า BMW อาจเข้าซื้อกิจการ McLaren Automotive อีกด้วย 

แต่ในตอนนี้เป็นที่เข้าใจกันว่าการร่วมมือของทั้งสองบริษัทอาจทำให้ McLaren เปิดตัวซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้าเพื่อเป็นคู่แข่งโดยตรงกับซุปเปอร์คาร์รุ่นใหม่ของ Audi และรถสปอร์ตไฟฟ้าสองรุ่นจาก Mercedes-AMG ในขณะเดียวกัน BMW สามารถเปิดตัวครอสโอเวอร์ไฟฟ้าที่เป็นรถรุ่นเรือธงด้านสมรรถนะของค่ายได้

ต้องการแพลทฟอร์มคาร์บอนไฟเบอร์ ของถนัด McLaren

เว็บไซต์ Car Magazine ระบุว่ารถที่เกิดจากการร่วมมือทั้งสองตัวถังนั้นจะใช้แพลทฟอร์มร่วมกันที่มีคาร์บอนไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ McLaren มีความเชี่ยวชาญ

และยังระบุว่า McLaren สามารถติดตั้งให้รถมีมอเตอร์ไฟฟ้าถึงสี่ตัวและให้กำลังสูงสุดที่ 1,088 แรงม้า ซึ่งแมคลาเรนเคยคิดไว้ว่าอาจจะเป็นรถโปรดักชั่นเร็วที่สุดของค่าย

ดังที่กล่าวมาข้างต้น ในส่วนของ BMW นั้นจะสร้างรถที่ต่างออกไปจาก McLaren เพราะบริษัทไม่ชอบความคิดในการสร้างรถออกมาเหมือนกันแต่ติดยี่ห้อต่างกัน ด้วยเหตุนี้ BMW จึงให้รถรุ่นนี้อยู่ตรงกลางระหว่าง 8-Series Gran Coupe รุ่นปัจจุบันและเอสยูวีแบบดั้งเดิม เพื่อเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Porsche Taycan แต่ไม่มีการยืนยันว่า BMW รุ่นดังกล่าวจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าร่วมกับซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้าของ McLaren หรือไม่

อ่านเพิ่มเติม : แบตเตอรี่แบบใหม่ทำให้ BMW iX ขับขี่ได้ 900 กม. ตั้งแต่ออกจากโรงงาน

อะไรที่ทำให้ BMW จะร่วมมือกับ McLaren?

ในการพูดคุยกับนิตยสาร Car Magazine แหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อของ BMW ได้อธิบายถึงการร่วมมือกับ McLaren ไว้ดังนี้

“McLaren นั้นรวดเร็วกว่า ขนาดเล็กกว่า ยืดหยุ่นกว่า และเต็มใจรับความเสี่ยงที่ใหญ่กว่า” 

“พวกเขาดำเนินการผลิตในปริมาณน้อยด้วยต้นทุนที่เราทำได้แค่ฝันถึง แต่สินทรัพย์หลักของพวกเขาคือความรู้ด้านคาร์บอนไฟเบอร์”

รายละเอียดอื่น ๆ ของโครงการยังไม่มีการเปิดเผยในตอนนี้ แต่มีรายงานว่าเราอาจเห็นอะไรบางอย่างออกมาในระหว่างปี 2026 และ 2028

อ่านเพิ่มเติม : จริงหรือที่ McLaren อาจต้องพัฒนา SUV ไฟฟ้าภายในปี 2030 เพื่อช่วยบริษัท?