Mitsubishi XForce ผ่านการชน Asean NCAP 5 ดาวด้วยเกณฑ์การทดสอบดังนี้

Mitsubishi XForce รถคอมแพ็กต์เอสยูวี แบบไฮบริด (HEV) รุ่นใหม่ ได้รับคะแนนสูงสุดระดับ 5 ดาว จากการประเมินมาตรฐานความปลอดภัยยานยนต์ของอาเซียนหรือ ASEAN NCAP 2024 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ครอบคลุมการทดสอบสมรรถนะด้านความปลอดภัยของรถยนต์ใหม่ในภูมิภาคอาเซียน โดยได้รับคะแนนสูงสุดเท่ากับรุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่ได้รับในช่วงต้นปี 2024

การรับรองจาก ASEAN NCAP (New Car Assessment Program for Southeast Asia) ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำการทดสอบความปลอดภัยของรถยนต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีรายละเอียดดังนี้:

รถยนต์ที่ได้รับการทดสอบ: Mitsubishi XFORCE

วันที่ทดสอบ: มิถุนายน 2024 (June 2024)

ระดับความปลอดภัยที่ได้รับ: 5 ดาว (ระดับสูงสุด)

เกณฑ์การให้คะแนน

เกณฑ์การประเมินของ ASEAN NCAP (ASEAN New Car Assessment Program) ถูกออกแบบมาเพื่อประเมินความปลอดภัยของรถยนต์ที่จำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้ระบบการให้คะแนนแบบสมัยใหม่ (2021-2025 Protocol) ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 หมวดหลักดังนี้:

การปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ (Adult Occupant Protection – AOP)

• คิดเป็น 40% ของคะแนนรวม

• ประเมินจากการทดสอบการชนด้านหน้า (Frontal Offset Impact), การชนด้านข้าง (Side Impact), การช่วยเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย, ระบบเตือนการชน ฯลฯ

• ใช้หุ่นจำลอง (Crash Test Dummies) เพื่อตรวจสอบการบาดเจ็บที่หัว, คอ, หน้าอก, ขา ฯลฯ

การปกป้องผู้โดยสารเด็ก (Child Occupant Protection – COP)

• คิดเป็น 20% ของคะแนนรวม

• ประเมินจากการทดสอบการชน พร้อมติดตั้งเบาะนิรภัยเด็ก (Child Restraint Systems – CRS)

• รวมถึงระบบยึดเบาะ ISOFIX, คำแนะนำการติดตั้ง, สติกเกอร์เตือนเกี่ยวกับถุงลม

ระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัย (Safety Assist – SA)

• คิดเป็น 20% ของคะแนนรวม

• ประเมินจากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น:

  • ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)

  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)

  • ระบบเตือนจุดบอด (BSW)

  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW)

  • ระบบแจ้งเตือนไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

ความปลอดภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ (Motorcyclist Safety – MS)

• คิดเป็น 20% ของคะแนนรวม

• เป็นหมวดเฉพาะของ ASEAN NCAP ที่ไม่พบในภูมิภาคอื่น

• เน้นการปกป้องผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เช่น:

  • ระบบตรวจจับรถจักรยานยนต์

  • ระบบเตือนขณะเลี้ยว

  • กล้องมองรอบคัน (เพื่อเพิ่มการมองเห็น)

  • โครงสร้างฝากระโปรงหน้าเพื่อดูดซับแรงกระแทก (สำหรับคนเดินถนนและผู้ขับขี่จักรยานยนต์)

คะแนนรวม และการให้ระดับดาว

• คะแนนรวมทั้งหมด = 100 คะแนน

• การให้ระดับดาวมีตั้งแต่ 1 ดาว (ต่ำ) ถึง 5 ดาว (สูงสุด)

• การได้ระดับ 5 ดาว ต้องมีคะแนนรวมสูง และไม่มีจุดด้อยรุนแรงในแต่ละหมวด

คะแนนการทดสอบความปลอดภัยโดย ASEAN NCAP ในปี 2024 รถยนต์ Mitsubishi XFORCE ได้รับคะแนนรวม 79.15 จาก 100 คะแนน ซึ่งส่งผลให้ได้รับการจัดอันดับความปลอดภัยระดับ 5 ดาว โดยมีรายละเอียดคะแนนในแต่ละหมวดดังนี้:

• การปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ (Adult Occupant Protection – AOP): 34.89 คะแนน จากคะแนนเต็ม 40 คะแนน
• การปกป้องผู้โดยสารเด็ก (Child Occupant Protection – COP): 17.03 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน
• ระบบช่วยเหลือความปลอดภัย (Safety Assist – SA): 14.85 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน
• ความปลอดภัยของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ (Motorcyclist Safety – MS): 12.39 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน

คุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่สำคัญของ Mitsubishi XFORCE

ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง Mitsubishi Safety Sensing ซึ่งประกอบด้วย 6 ฟังก์ชันหลัก ได้แก่

1. ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติถึงจุดหยุดนิ่ง (Adaptive Cruise Control – ACC)
2. ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation – FCM)
3. ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตาและขณะเปลี่ยนเลน (Blind Spot Warning / Lane Change Assist – BSW / LCA) 
4. ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert- RCTA)
5.  ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam – AHB)
6. ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification – LCDN) 

นอกจากนี้ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี ยังเสริมความปลอดภัยด้วยโครงสร้างตัวถัง RISE 2 (Reinforced Impact Safety Evolution) ซึ่งช่วยดูดซับแรงกระแทกและลดการเสียรูปของห้องโดยสารในกรณีเกิดการชน พร้อมถุงลมนิรภัย SRS 6 จุด เพิ่มความปลอดภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

ออล-นิว มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เอชอีวี เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนมีนาคม 2568 โดยพัฒนาต่อยอดจากรุ่น Xforce ซึ่งเปิดตัวในประเทศอินโดนีเซียเมื่อปี 2566 และได้รับการติดตั้งระบบไฮบริด (HEV) เป็นครั้งแรก SUV ขนาด 5 ที่นั่งรุ่นนี้พัฒนาภายใต้แนวคิด “เพื่อนคู่ใจ สำหรับชีวิตที่เร้าใจ” โดยใช้ระบบไฮบริดที่ได้รับการพัฒนามาจากเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) อันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มอบทั้งอัตราประหยัดน้ำมันที่สูงขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอัตราเร่งที่ทรงพลัง เสริมด้วยระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) มีโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ และเทคโนโลยีควบคุมล้อทั้งสี่ ช่วยเสริมความปลอดภัยและเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่บนทุกสภาพถนนที่หลากหลาย

(ขอบคุณข้อมูลจาก aseancap)