**บทความนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเจ้าของรถ 2021 Haval H6 และมาจากเว็บไซต์ประเทศจีน ไม่ได้เป็นมุมมองของ AutoFun  

หลังการทดลองขับและการตัดสินใจที่ยากที่สุด สุดท้ายผมก็เลือก Haval H6 (ฮาวาล เอช6) เจนเนอเรชั่น 3 และวันที่ 30 กันยายนก็ได้จองรถ ตอนที่เลือกดูรถก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่เมื่อวางเงินดาวน์จองรถแล้วก็รอรถแทบไม่ไหว ผมถามเซลล์เกือบทุกวันว่าสามารถรับรถได้หรือยัง หลังจากการรอคอย 10 วัน ผมก็ได้ Haval H6 เจนเนอเรชั่นที่ 3 สมใจ

หลังรับรถและตรวจเช็คอย่าละเอียดแล้ว ผมก็ขับรถออกไปเที่ยวทันที เลขไมล์แค่สัปดาห์เดียวเกือบเท่ากับเลขไมล์ครึ่งปีแรกของปีนี้ ผมชอบรถคันนี้มาก ๆ เวลาได้ขับผมจะรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขทุกครั้ง และวันนี้ผมก็อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การใช้รถให้ทุกคนได้รู้กัน 

การออกแบบภายนอกของ Haval H6 เจนเนอเรชั่นที่ 3 มีการปรับรูปลักษณ์ด้านหน้าจากทรงตัว “U” เป็นรูปแบบหกเหลี่ยมมา ซึ่งผมว่าให้ความรู้สึกถึงดูดีมีระดับ

ท่อไอเสียถูกซ่อนอยู่ด้านหลังของตัวรถ แต่ผมคิดว่าให้มันออกมาน่าจะดูดีดีกว่า เพราะผมรู้สึกว่าถ้าท่อไอเสียออกมาสวยและดูหรูหรามากกว่า

ฟิล์มรถเป็นของแถมที่ได้จากร้าน ผมอยากแนะนำให้เลือกฟิล์มที่มีคุณภาพและสีเข้ม เพราะฟิล์มจะช่วยให้กันแสดงยูวีภายในและทำให้ภายในรถมีความเป็นส่วนตัวอีกด้วย

เนื่องจากผมมีครอบครัวใหญ่ ดังนั้นผมจึงต้องเลือกรถที่มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง และผมคิดว่า H6 ก็ตอบสนองผม ด้วยฐานล้อที่ยาวถึง 2,700 มิลลิเมตร จึงทำให้ภายในมีพื้นที่ห้องโดยสารมากขึ้น 

การออกแบบภายในใช้โทนสีดำเป็นหลัก ออกแบบง่าย ๆ ปุ่มกดมีไม่เยอะ ฝีมืองานประกอบประณีตมาก ให้ความรู้สึกหรูหราเวลาขับขี่ 

ไฮไลท์การออกแบบภายในคือแดชบอร์ด LCD ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ ที่สำคัญในรุ่น MAX นี้ยังมี HUD head up display หน้าจอแสงผลที่อยู่เหนือมาตรวัด ทำให้ดูข้อมูลได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน
การออกแบบแดชบอร์ดก็มีความละเอียดประณีตมาก การจัดวางอุปกรณ์ใช้งานง่าย ยังมีช่องเก็บของอยู่ตรงกลางด้วย

ในรถยนต์ทั่วไปแน่นอนว่าต้องมีคันเกียร์สำหรับขับขี่ แต่ใน Haval H6 เจนเนอเรชั่นที่ 3 ไม่ได้ติดตั้งคันเกียร์ แต่บังคับเกียร์ด้วยการหมุนแบบลูกบิด เพียงแค่หมุนเบา ๆ และเหยียบคันเร่ง ก็สามารถออกเดินทางได้ในทันที ซึ่งมีความสะดวกมาก

ทั้งหมดนี้เป็นแค่ความเห็นส่วนตัว ตอนนี้ได้รถและได้ทดลองขับเรียบร้อยซึ่งผมก็ไม่รู้สึกกังวลแล้ว ผมได้เล่าประสบการณ์การขับขี่เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจกับคนที่กำลังลังเลอยู่ ผมคิดว่าควรทดลองขับก่อนเพื่อจะได้รู้ว่ารถคันนี้ตอบโจทย์เราไหม และเราจะได้มีรถคู่ใจให้ขับขี่อย่างมีความสุข