พรีวิว 2024 Denza D9 ลองใช้ฟังก์ชั่นเด่น ลองขับขี่ในระยะทาง 150 กม. เปรียบเทียบระหว่าง 2 รุ่นย่อย Premium และ Performance AWD ที่มีราคาต่างกัน 700,000 บาท มาหาคำตอบกันว่าสมควรจะเพิ่มเงินซื้อรุ่นท็อปหรือไม่ ?
ภายนอกแทบเหมือนกัน
พรีวิว 2024 Denza D9 ลองใช้ฟังก์ชั่นเด่น ลองขับขี่ในระยะทาง 150 กม. เปรียบเทียบระหว่าง 2 รุ่นย่อย Premium และ Performance AWD ที่มีราคาต่างกัน 700,000 บาท มาหาคำตอบกันว่าสมควรจะเพิ่มเงินซื้อรุ่นท็อปหรือไม่ ?
ภายนอกแทบเหมือนกัน
ภายนอกแทบไม่แตกต่าง หากใครไม่ช่างสังเกต จะแยกไม่ออกเลยว่ารุ่นไหนเป็นตัวท็อป มีเพียงจุดสังเกตตรงที่เส้นไฟเดย์ไลท์ตรงขอบกระจังหน้า กับโลโก้ AWD ที่ท้ายรถเท่านั้น ทำให้คนที่อยากอวดความสวยงามอย่างเดียว ก็สามารถซื้อรุ่นเริ่มต้นได้เลย มันมีการตกแต่งหรูหราเหมือนรุ่นท็อปอยู่แล้ว
ควรแต่งให้ดูแพงได้อีก
แต่นั่นอาจเป็นข้อเสียของคนซื้อรุ่นท็อป ที่อยากได้ความแตกต่างให้สมกับที่เพิ่มเงิน 7 แสนบาท แนะนำให้เปลี่ยนลายกระจังหน้าเป็นแบบเม็ดเพชรแบบสเปคจีน หรือเพิ่มสีตัวถังทูโทน จะทำให้รุ่นท็อปดูแตกต่างสมราคาจากรุ่นเริ่มต้นกว่านี้
ภายในได้จอกับวัสดุเพิ่ม
ภายในมีความแตกต่างกันมากขึ้นเล็กน้อย สิ่งที่เห็นชัดที่สุดคือ วัสดุเพดานรุ่น Premium เป็นผ้า แต่รุ่นท็อป Performance AWD ได้หนังกลับ และยังได้ระบบแสดงผลบนกระจกหน้า ขนาด 12 นิ้ว (W-HUD) กับออพชั่นกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ พร้อมแสดงภาพจากกล้องหลังติดตั้งในตัว นับว่าพอมีความแตกต่างให้เห็นด้วยตาอยู่บ้าง แต่ถ้ารุ่นท็อปเพิ่มหน้าจอเพดาน หรือเพิ่มฉากกั้นห้องโดยสาร จะทำให้รถดูแพงสมกับราคา 2,699,900 บาทยิ่งขึ้นไปอีก
สมรรถนะเกินพอ
ด้านสมรรถนะคือความแตกต่างที่สัมผัสได้ โดยในรุ่นเริ่มต้นจะมีกำลัง 308 แรงม้า กับแรงบิด 360 นิวตันเมตร ก็นับว่าแรงมากพอกับการแบกน้ำหนักรถ 2.7 ตันให้เร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ภายใน 9.5 วินาที ทำให้คนนั่งเกิดการหลังติดเบาะมากพอแล้ว
แต่ถ้าหากใครเท้าหนักจัดจ้านเกินกว่าปกติ ยังมีรุ่น Performance AWD ที่มีกำลัง 368 แรงม้า กับแรงบิด 470 นิวตันเมตร พารถหนัก 2.8 ตันกว่าๆ ให้เร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ภายใน 6.9 วินาที ซึ่งอาจจะเกินความจำเป็นของใครหลายคน อีกทั้งพละกำลังมหาศาลนี้ แลกด้วยระยะทางวิ่งได้สูงสุด ลดลงจากรุ่น Premium 600 กม. เหลือ 580 กม. เป็นการเสียสละระยะทางวิ่งที่คุ้มค่าสมรรถนะหรือไม่ คุณต้องไปลองเอาเองครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่รุ่นท็อปแตกต่างอย่างชัดเจน นั่นคือช่วงล่างรุ่นมาตรฐาน Premium ด้านหลังเป็นแบบ มัลติลิงก์ มีโช๊คไฟฟ้าปรับความหนืดอัตโนมัติตามความเร็วรถ ส่วนรุ่น Performance AWD ได้ระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟ DiSus-C มีโช๊คอัพที่สามารถยุบและยืดที่มากกว่าระบบกันสะเทือนทั่วไปหลายเท่า สามารถปรับแต่งความแข็งกระด้างและความนุ่มนวลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการสั่นสะเทือนรวมถึงอาการของรถทั้งคัน เพื่อประมวลผลแล้วควบคุมโซลินอยด์วาล์วในโช้คอัพ ทำให้รถมีความนิ่มนวลต่างจากโช๊คอัพทั่วไปชัดเจน สามารถขับรูดฝาท่อ เนินชะลอ หรือรอยต่อสะพานได้ที่ความเร็วสูง โดยรถไม่เสียอาการแต่อย่างใด
ข้อเสียของการมีโช๊คอัพปรับไฟฟ้านี้ คือมีเสียงการเปิด-ปิดโซลินอยวาล์ว ดังอย่างต่อเนื่อง หากนั่งตอนแรกอาจจะรู้สึกรำคาญบ้าง แต่เมื่อโดยสารไปแบบไม่จับผิด ทำให้เราเกิดความเคยชินกับเสียงช่วงล่างนี้ไปเอง
อ่านเพิ่มเติม : ชมคันจริง Denza D9 EV รถตู้จีน ที่จะมาฆ่า Alphard ด้วยออพชั่นไฮเทค ในราคาถูกกว่าครึ่ง
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่คุณต้องไปลองเป็นผู้โดยสารในรถรุ่นนี้ด้วยตัวเอง เพื่อจะได้คำตอบว่า จะเพิ่มเงิน 7 แสนเพื่อกับสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้หรือไม่ ?
ข้อมูลขนาดตัวถัง
ความยาว 5,250 มม.
ความกว้าง 1,960 มม.
ความสูง 1,920 มม.
ระยะฐานล้อ 3,110 มม.
ระยะห่างของล้อ คู่หน้า/คู่หลัง 1,675/1,675 มม.
รัศมีวงเลี้ยงแคบสุด 5.95 เมตร
ความสูงใต้ท้องรถไม่รวมน้ำหนักบรรทุก 155 มม.
ความสูงใต้ท้องรถรวมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 140 มม.
ความจุสัมภาระด้านท้าย 410 ลิตร
ความจุสัมภาระด้านท้ายสูงสุด 2,310 ลิตร
ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค
ระบบขับเคลื่อน
รุ่น Premium ขับเคลื่อนล้อหน้า
รุ่น Performance AWD ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
กำลังรวมสูงสุด
รุ่น Premium 308 แรงม้า
รุ่น Performance AWD 368 แรงม้า
แรงบิดรวมสูงสุด
รุ่น Premium 360 นิวตัน-เมตร
รุ่น Premium 470 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง (วินาที)
รุ่น Premium ภายใน 9.5 วินาที
รุ่น Performance AWD ภายใน 6.9 วินาที
ระบบกันสะเทือน
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัท
ระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ มัลติลิงก์
มาพร้อมกับดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายอากาศทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
รุ่น Premium ติดตั้ง ระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติตามความเร็วแบบ FSD
รุ่น Performance ครั้งแรกกับการติดตั้งระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ DiSus-C ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD ในประเทศไทย
กำลังการชาร์จ
รองกรับการชาร์จกระแสสลับ AC – กำลังสูงสุด 11 กิโลวัตต์ (3 เฟส)
รองรับการชาร์จกระแสตรง DC แบบ CCS2 - กำลังสูงสุด166 กิโลวัตต์
อ่านเพิ่มเติม : 2024 BYD Xia รถตู้พลังไฮบริด เปิดตัวในจีน พร้อมฆ่าอัลฝาดด้วยราคาแปลงเงินไทย 1.44 ล้านบาท
ขายรถคันเดิมเพื่อซื้อรถมือสองคุณภาพดีได้ง่ายและสะดวก
Hyundai IONIQ 5 premium
แลก
เพิ่มรถของคุณ