2019 ฮอนด้า เอชอาร์-วี (New 2019 Honda HR-V) รุ่นปรับโฉมใหม่ ทำการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อสู้ศึกตลาดคอมแพคท์เอสยูวี ด้วยการใส่ชุดแต่งอาร์เอสเข้าไปเพิ่มเติมในรุ่นสูงสุด รวมถึงการเพิ่มออพชั่นทางเลือกของสีตัวถังภายนอกและห้องโดยสารภายในในรุ่นรองลงมา
นอกเหนือจากบรรยากาศของห้องโดยสารใหม่ที่ดูเรียบหรูขึ้นแล้ว ฮอนด้ายังคงจุดขายด้านอรรถประโยชน์ในการใช้งานเอาไว้เหมือนเดิม ด้วยอุปกรณ์ในห้องโดยสารที่ยอดเยี่ยม แม้จะยังไม่ได้เน้นระบบไอทีอันหรูหราเวอร์วังอลังการเหมือนคู่แข่งบางรายก็ตาม
ด้วยชื่อชั้นของฮอนด้าเองก็ย่อมมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นอยู่ และการปรับทุกอย่างของฮอนด้าในครั้งนี้ พวกเขาตัดสินใจไม่ปรับราคาจำหน่ายของเอชอาร์-วี ซึ่งเราจะลงไปดูในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ว่ารถของพวกเขานั้น ยังน่าใช้งานอยู่หรือไม่
ข้อดีที่ฮอนด้า เอช-อาร์วี น่าจะครองใจผู้บริโภค
1.ฮอนด้าคือผู้นำในตลาดนี้
เอชอาร์-วี คือหนึ่งในผู้บุกเบิกตลาดคอมแพคท์ เอสยูวีในประเทศไทย และพวกเขาก็ทำยอดขายได้อย่างยอดเยี่ยมในอดีต ก่อนการมาถึงของคู่แข่งบางรายที่เน้นการทำตลาดด้วยราคาจำหน่ายและออพชั่นที่ล้นเหลือ อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ของความเป็นฮอนด้าก็ยังเหนือกว่าอยู่ดีบนท้องถนน
2.เพิ่มออพชั่นแต่คงราคา
การที่ฮอนด้าใส่ออพชั่นต่าง ๆ เพิ่มเข้ามาในส่วนของชุดแต่งและทางเลือกด้านสีที่เพิ่มเข้ามา โดยไม่ทำการปรับราคาขึ้นนั้น มองในมุมของผู้บริโภคที่เลือกซื้อ นี่คือการคืนกำไรของฮอนด้า ที่ทำให้ลูกค้าได้ของเล่นที่หลากหลายเพิ่มขึ้น โดยที่ไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายอะไรเพิ่มเติม
3.มิติตัวถังที่ดูสปอร์ตขึ้น
การใส่ชุดแต่งอาร์เอสเข้าไปในรุ่นท๊อป ทำให้ฮอนด้า เอชอาร์-วี อาร์เอส มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ขนาดตัวถังกว้างขึ้น 18 มิลลิเมตร ยาวขึ้น 52 มิลลิเมตร และเตี้ยลง 15 มิลลิเมตร ซึ่งมากพอที่จะทำให้รถยนต์สำหรับครอบครัวดูมีความสปอร์ตขึ้นมาพอตัว
4.ห้องโดยสารที่ครบครัน
แม้จะทำตลาดมาสักพักแล้ว แต่ห้องโดยสารของรถรุ่นนี้ก็ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นห้องโดยสารที่ออกแบบมาอย่างดี มีความกว้างขวาง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกพื้นฐานครบครัน ในรุ่นท็อปมาพร้อมหลังคาซันรูฟเปิดด้วยไฟฟ้า และการตกแต่งแบบสปอร์ตรอบคัน
5.อุปกรณ์ความปลอดภัยไม่น้อยหน้า
คอมแพคท์ เอสยูวีรุ่นแรกของประเทศไทย ที่มาพร้อมระบบเตือนและช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำหรือ CBAS และมาพร้อมถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ทำให้คู่แข่งต้องปรับตัวตาม
6.เครื่องยนต์ที่ไว้วางใจได้
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.8 ลิตร ที่มาพร้อมกำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 172 นิวตันเมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติซีวีที ให้สมรรถนะพอตัว และการบำรุงรักษาที่ไม่ยาก อะไหล่ก็หาง่ายด้วยนะ
7.ราคาขายต่อที่ดีกว่าคู่แข่ง
ด้วยภาพลักษณ์ของรถยนต์ฮอนด้า ประกอบกับราคาตั้งที่เหนือกว่าคู่แข่งหลายราย แน่นอนว่าในตลาดรถยนต์มือสองเมื่อทำการขายต่อ ราคาจำหน่ายของฮอนด้า เอชอาร์-วีเอง ก็เหนือกว่าคู่แข่งหลาย ๆ รายเช่นกัน แถมยังมีความต้องการที่ไม่น้อย สำหรับผู้ที่สนใจรถกลุ่มนี้
เรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของ
1.ราคาตั้งต้นที่สูงมากในตลาด
อาจจะเป็นเพราะฮอนด้า เอชอาร์-วี คือผู้นำตลาดที่เปิดตัวมาก่อน และด้วยความเป็นฮอนด้า ทำให้พวกเขาตั้งราคาจำหน่ายรถรุ่นนี้ที่ 9.49 แสนบาทถึง 1.119 ล้านบาทใน 3 รุ่นย่อย ซึ่งถือเป็นราคาจำหน่ายที่สูงมาก และโดนคู่แข่งที่ตามมา สร้างสงครามราคาอย่างรุนแรง จนรถรุ่นนี้กลายเป็นรถราคาแพงไปเลย
2.ออพชั่นที่เริ่มแข่งไม่ได้
คู่แข่งรายใหม่ที่มาไม่ได้แค่ทำราคามาท้าชนเท่านั้น แต่พวกเขาทำการติดตั้งระบบและอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายอย่างเหนือชั้น มาพร้อมเทคโนโลยีและความสมาร์ทต่าง ๆ มากมาย ที่มากพอจะทำให้คนซื้อรถกลุ่มนี้เกิดอาการไขว้เขวไปหาแบรนด์รถยนต์ขนาดเล็กกันบ้าง
3.ตัวรถมีอายุมากพอสมควร
ฮอนด้า เอชอาร์-วี เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยมาได้สักพักใหญ่ ๆ และก็มีข่าวลือว่ารุ่นใหม่นั้น น่าจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้ พร้อมด้วยเครื่องยนต์และเทคโนโลยีใหม่มากมาย ใครซื้อตอนนี้ก็มีโอกาสเสี่ยงที่รถกำลังจะตกรุ่น แต่ก็น่าจะมีแคมเปญเยอะอยู่สำหรับช่วงนี้
ถ้ารอได้ก็รอรุ่นใหม่ไปเถอะ
ในมุมมองของเรา หากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของฮอนด้า เอชอาร์-วี ที่ต้องการซื้อรถคันนี้จริง ๆ แต่ไม่ได้รีบร้อนจะใช้รถอะไรมาก ก็รอรุ่นใหม่เปิดตัวมาก่อนก็ได้นะ เพราะถ้าเปิดตัวมาแล้วไม่ชอบรุ่นใหม่ ก็น่าจะกลับมาซื้อรุ่นเดิมได้ในราคาที่ดีกว่าปัจจุบันแน่นอน
แต่หากจำเป็นต้องรีบใช้รถ พูดตรง ๆ ก็คือฮอนด้านั้นมีดีกว่าคู่แข่งรายใหม่ ๆ ในเรื่องของภาพลักษณ์ของแบรนด์และความสบายใจในการเข้าศูนย์บริการเท่านั้น เพราะเรื่องตัวรถนั้น หากเทียบกับคู่แข่งแบบด้านต่อด้าน ต้องเรียกว่ามีจุดที่เปรียบเทียบกันไม่ได้เต็มไปหมด
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังสามารถทำยอดจำหน่ายเอชอาร์-วีได้เรื่อย ๆ นั่นก็หมายความว่ารถมันก็มีดีในแบบของตัวมันเอง และฮอนด้าเองก็มีความสามารถในการสร้างกลุ่มลูกค้าของเอชอาร์-วี ด้วยโปรโมชั่นและแคมเปญที่เหนือกว่าคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกันในตอนนี้แน่นอน