ใครว่ารถออฟโรดจะต้องเป็นรถกระบะแรงหรือรถ SUV แรงม้า แรงบิดสูง ต้องใช้เครื่องยนต์ขนาด 2,500 ซีซีขึ้นไป ถึงจะผ่านเส้นทางออฟโรดที่รถทั่วไปเข้าไม่ได้เท่านั้น แต่รถ Suv ขนาดเล็ก อย่าง 2019 Suzuki Jimny ที่มาด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส K15B ความจุ 1,500 ซีซี ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 102 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 130 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4WD กับราคา MT 4WD 1,580,000 บาท และ AT 4WD 1,680,000 บาท และมีเพียง 90 คันในประเทศไทย ก็เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนคลับค่าย Suzuki อยู่พอสมควร เพราะไม่เพียงแค่รูปร่างหน้าตาดูกะทัดรัดน่ารักน่าใช้ เครื่องยนต์ก็ใช้เครื่องขนาดเล็กน่าจะประหยัดน้ำมันอยู่ไม่น้อย

ตัวเล็กแต่พร้อมลุยทุกที่

สำหรับ 2019 Suzuki Jimny นับเป็นรุ่นที่ 4 ในสายตระกูล โดยยังคงคอนเซปต์การออกแบบตัวรถให้มีขนาดเล็กน้ำหนักเบา แต่ระบบช่วงล่างเครื่องยนต์และการออกแบบเกียร์ถูกออกแบบมาเพื่อการวิ่งบนเส้นทางออฟโรดโดยเฉพาะ ใครว่ารถเล็กที่ใช้เครื่องยนต์แค่ 1,500 ซีซีจะไปไม่รอดในเส้นทางวิบากบอกเลยว่า Suzuki Jimny พิสูจน์ตัวเองมาแล้วตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา ซึ่งข้อดีของรถรุ่นนี้ ถ้าไม่นับเรื่องราคานำเข้าจำหน่ายในประเทศไทยที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถที่ผลิตขายในประเทศ บอกได้เลยว่าเป็นรถที่มีความเหมาะสมน่าใช้งานเป็นอย่างมาก

ด้วยรถขนาดเล็กที่มีความคล่องตัวเหมาะสมทั้งวิ่งในเมืองและต่างจังหวัด ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ตัวรถใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนน เมื่อเข้าสู่เส้นทางวิบากเต็มไปด้วยหลุมบ่อ ก็ยังสามารถปรับเข้าสู่โหมดขับเคลื่อน 4L และ 4H ได้ตามต้องการ ซึ่งผู้ใช้งานหลายคนมีบ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่แถบภูเขา ไม่ได้ใช้งานบรรทุกของหนักตลอดเวลาจะใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ก็ดูจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากเกินไป ใช้รถซีดานขับเคลื่อนล้อหน้าก็ดูไม่เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศ Suzuki Jimny จึงเป็นคำตอบที่ค่อนข้างโดนใจสายลุยที่ชอบความกะทัดรัดเรียบง่ายเป็นพิเศษ

มิติตัวถัง

การออกแบบภายนอกของตัว Suzuki Jimny มีขนาดความยาว 3,480 มม. ความกว้าง 1,645 มม. ความสูง 1,720 มม. ความยาวฐานล้อ 2,250 มม. ความสูงจากพื้นถนน 210 มม. ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว พร้อมยางขนาด 195/80 R15 ด้านท้ายติดตั้งยางอะไหล่เหมือนรถออฟโรดทั่วไป ด้วยมิติตัวถังที่ไม่ใหญ่มากนักทำให้ใครเห็นก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าน่ารักแต่แฝงความบึกบึนของรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมขอบมลไว้ได้อย่างลงตัว

ไฟหน้าใช้แบบแอลอีดี โปรเจคเตอร์ พร้อมที่ฉีดน้ำล้างตามสไตล์รถออฟโรด ไฟท้ายเองก็ใช้แอลอีดีเช่นกัน กันชนหน้า และซุ้มล้อทั้งหมด ใช้สีดำเพิ่มความหล่อเข้มของตัวรถ ซึ่งมีข้อดีอีกอย่างหนึ่งก็คือจบปัญหารอยขีดข่วน คราบโคลนและยางมะตอยเวลาผ่านเส้นทางที่กำลังซ่อมแซมถนน ที่จะทำให้รถดูหมองเร็วกว่าปรกติ การเปิดประตูท้ายรถใช้แบบเปิดข้างเพราะต้องติดตั้งชุดเก็บยางอะไหล่ไว้ด้านท้าย แต่สามารถเปิดได้กว้างพอที่จะเอาสัมภาระทุกอย่างใส่ไว้ในท้ายรถออฟโรดเล็กๆคันนี้

ภายในเล็กอยู่สบายอย่างพอเพียง

การออกแบบภายในของ Suzuki Jimny ยังคงแนวเรียบง่ายมีแผงหน้าปัด และอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการใช้งานซึ่งยังคงแนวทางการออกแบบเดิมอย่างชัดเจน ใครเคยนั่ง Suzuki มาก่อนเข้ามาจะรู้สึกคุ้นเคย ปรับตัวและสายตาได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นฝั่งคนนั่งที่ยังคงการออกแบบที่จับหน้าคอนโซล และช่องเก็บของเล็ก ๆ กลางคอนโซลเป็นหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้วสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เนตและโทรศัพท์มือถือ และโปรแกรมแผนที่ ช่องปรับแอร์แบบหมุน สามารถปรับอัตโนมัติได้ แผงแดชบอร์ดใช้รูปแบบอนาล็อก แสดงข้อมูลสถานะการทำงานของรถอย่างครบถ้วน ปุ่มปรับการทำงานเพิ่มลดเสียงรับสายโทรศัพท์ ปรับ cruise control มีพื้นฐานของรถออฟโรดรุ่นใหม่ที่ควรจะมี

คันเกียร์ในรุ่นอัตโนมัติ สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ 3 รูปแบบคือ 2H 4H และ 4L เลือกใช้ตามความเหมาะสมแก่สภาพเส้นทาง สำหรับในเมืองโหมด 2H มีอัตราการกินน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 10 -12 กม./ลิตร เมื่อเจอเส้นทางภูเขาสูงชันค่อยปรับไปใช้โหมด 4H และใช้ 4L เมื่ออยู่ในสภาพถนนทุรกันดาร หรือเส้นทางที่ต้องการประสิทธิภาพในการเกาะพื้นถนน

เมื่อเข้าไปนั่งภายในจะพบว่าเป็นรถที่เหมาะกับการเดินทางเพียงแค่ 2 คนอย่างมากไม่เกิน 3 คน ถึงแม้จะมีที่นั่งผู้โดยสารตอนหลังให้มา แต่ด้วยพื้นที่วางช่วงขาของผู้โดยสารตอนหลังค่อนข้างคับแคบ นั่งทางไกลมีอาการปวดเมื่อยแน่นอน ดูแล้วเหมาะกับการพับเบาะนั่งตอนหลังแล้วเปลี่ยนเป็นที่วางสัมภาระมากกว่า ซึ่งด้านหลังพนักพิงเบาะหลังมีการติดแผ่นพลาสติกรองรับการใช้งานเรื่องการบรรทุกของเอาไว้แล้ว

สมรรถนะในการใช้งาน

ในด้านการขับขี่ใช้งานจริงสิ่งแรกที่ผู้ซื้อต้องยอมรับให้ได้คือเรื่องช่วงล่างที่ผู้ใช้งานทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าแย่มาก ควรเปลี่ยนโช้คเป็นอันดับแรกแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การทำความเร็วในเส้นทางราบปรกติ สามารถทำได้ดีมีอัตราเร่งการเกาะถนนและความคล่องตัวดีเยี่ยม โดยเฉพาะเรื่องมุมมองรถยกสูงและการออกแบบตัวถังทรงกล่องที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อย่างเห็นได้ชัด

เมื่อถึงเส้นทางออฟโรด Suzuki Jimny ก็ไม่ทำให้เจ้าของผิดหวัง ออฟโรดรุ่นใหญ่วิ่งเส้นทางไหนได้ Suzuki Jimny ก็สามารถทำได้ไม่แตกต่างกัน สามารถเอาไปออกทริปกับ jeep Cherokee, Mitsubishi pajero หรือออฟโรดที่มีชื่อเสียงรุ่นอื่นได้อย่างไม่เคอะเขิน แถมในบ้างเส้นทางที่เล็กและแคบมาก ก็เห็นจะมีแต่ Suzuki Jimny ที่สามารถขับผ่านได้เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น แม้เครื่องยนต์จะเล็กแต่การออกแบบช่วงล่าง ระบบขับเคลื่อน รวมทั้งระบบช่วยขับขี่ที่มีให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Hold Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติขณะลงทางชัน Hill Descent Control และระบบล็อคเฟืองท้ายและระบบป้องกันการลื่นไหล Brake LSD Traction control ช่วยทำให้ Suzuki Jimny สามารถผ่านได้ทุกเส้นทางได้เป็นอย่างดี

ราคาค่าตัวที่แท้จริงของ Suzuki Jimny  จะอยู่ที่ประมาณ 800,000 บาท แต่ด้วยกำแพงภาษีในบ้านเราทำให้ราคากระโดดสูงถึง 1,680,000 บาท เลยทำให้ Suzuki Jimny ที่ดูน่ารักน่าใช้คันนี้ กลายเป็นรถที่มีราคาไม่น่ารักเท่าไหร่นัก แต่ทาง Suzuki ประเทศไทยเองก็ตั้งเป้าไว้สำหรับแฟนพันธ์แท้ Suzuki Jimny หรือผู้ที่ต้องการรถขับเล่นเป็นคันที่ 3 – 4 ของบ้าน สำหรับขับรถเที่ยวกับเพื่อน ๆ กลุ่มออฟโรด ในช่วงวันหยุดแบบไม่คิดอะไรมาก หากคุณอยู่ในกลุ่มเป้าหมายนี้แล้วรถออฟโรดทรงกล่องคันนี้ จะตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน