มิตซูบิชิ ค่ายรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น เปิดตัว 2019 มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต จำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 5 รุ่นย่อย คือ 2WD GT ราคา 1.299 ล้านบาท รุ่น 2WD GT-Premium ราคา 1.469 ล้านบาท และรุ่น 4WD GT-Premium ราคา 1.599 ล้านบาท พร้อมกับมี มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท เอดิชั่นอีก 2 รุ่น ได้แก่ 2.4 GT-Premium 2WD ELITE EDITION ราคา 1.524 ล้านบาท และ 2.4 GT-Premium 4WD ELITE EDITION ราคา 1.629 ล้านบาท ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ดีเซล MIVEC VG Turbo Clean-Diesel ขนาด 2.4 ลิตร 181 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร

2019 มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต เป็นรถยนต์อเนกประสงค์บนพื้นฐานเดียวกับรถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน ออกทำตลาดรถกระบะดัดแปลงอเนกประสงค์หรือพีพีวีในประเทศไทย เปิดตัวโฉมล่าสุดในปี 2562 มีอัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 14 กม.ต่อลิตร

2020 Mitsubishi Pajero Sport (2020 มิตซูบิชิ ปาเจโร่สปอร์ต) ประสบความสำเร็จพอสมควรในการวางจำหน่ายจากรุ่นที่แล้ว

ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปรับโฉมมีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเห็นเด่นชัดคือภายนอกด้านหน้าปรับดีไซน์ใหม่โดยใช้เอกลักษณ์ Dynamic Shield เหมือนกับ Xpander และ Triton ทำให้กลุ่มรถยนต์ของมิซูบิชิมีเอกลักษณ์และความกลมกลืนกันมากขึ้น

และเป็นเรื่องปกติของทางมิซูบิชิที่จะออกตัวแต่งพิเศษ 2020 Mitsubishi Pajero Sport Elite Edition (2020 มิตซูบิชิ ปาเจโร่สปอร์ต อีลิท อีเดชั่น) ภายหลังจากที่ตัวปกติวางจำหน่ายไปแล้ว

เราจะพาไปรู้จักมิตซูบิชิ ปาเจโร่สปอร์ต อีลิท อีเดชั่น ที่มาพร้อมกับชุดแต่งพิเศษ กับค่าตัว 1.629 ล้านบาท ว่าจะคุ้มค่าแค่ไหนหากท่านจะต้องเลือกซื้อรถยนต์รุ่นนี้

ภายนอกดีไซน์หรูผสมความบึกบึน

มิซูบิชิเลือกการดีไซน์ใหม่แบบ Dynamic Shield ทำให้มีสไตล์หรูหราขึ้น แต่ยังซ่อนความสปอร์ตแข็งแกร่งไว้ด้วยชุดแต่งอีลิท อีเดชั่นที่ให้กระจังหน้าสีดำ ถัดมาเป็นไฟหน้าโปรเจคเตอร์รมดำ แบบ Bi-LED พร้อมระบบปรับระดับลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติ

เติมความหรูด้วยฝากระโปรงที่มีคำว่า Pajero Sport รวมถึงชายล่างสีดำ ราวหลังคาสีดำ เสาอากาศทรงครีบฉลามสีดำ และสปอยเลอร์หลังสีดำที่เติมความดุดันได้เป็นอย่างดี กลมกลืนด้วยล้ออัลลอยรูปแบบใหม่สีดำขนาด 18 นิ้ว

ทางมิซูบิชิได้เน้นการออกแบบชุดแต่งให้มีความเข้ากับตัวรถและสีที่เลือกใช้ยังเป็นสีดำซึ่งสามารถตัดกับสีของตัวรถที่มีขายอย่างสีขาว และสีดำได้เป็นอย่างที่ ซึ่งมองโดยรวมแล้วดูสวยงามไม่แพ้รุ่นอื่นเช่นกัน

ภายในออกแบบใหม่หรูหราและทันสมัย

จุดที่โดดเด่นที่สุดของทางมิซูบิชิ ปาเจโร่สปอร์ต อีลิท อีเดชั่นนั้นคงไม่พ้นหนังหุ้มเบาะ โควเล่ โมดูเร่ (QUOLE MODURE®) ที่มีคุณสมบัติพิเศษสะท้อนความร้อนจากแสงแดด ทำให้ไม่อมความร้อน จึงเหมาะกับเมืองไทยอย่างมาก และยังได้รับการตกแต่งแบบ Horizontal Stripe มีสีน้ำตาลที่ให้ความโดดเด่นกว่ารุ่นปกติอีกด้วย

รวมถึงความอเนกประสงค์ของการปรับเปลี่ยนรูปแบบของเบาะแถว 2 ที่สามารถพับได้แบบ 60:40 และเบาะแถว 3 ที่สามารถปรับแบนราบไปกับพื้นห้องโดยสารได้ ทำให้สามารถขนสัมภาระขนาดใหญ่ได้โดยที่ไม่ต้องกังวลอะไร

ใส่ความทันสมัยด้วยจอแสดงมาตรวัดข้อมูลการขับขี่ LCD ขนาด 8 นิ้ว เมนูภาษาไทย พร้อมเชื่อมต่อและแสดงข้อมูลจากหน้าจอระบบสัมผัส SDA ที่ทำงานร่วมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง รวมถึงเครื่องเสียงหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android ที่มีลำโพงมาให้ถึง 6 ตัว

จอ Wide Screen ขนาด 12.1 นิ้วพร้อมรีโมท เชื่อมต่อ HDMI และ USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และใส่ใจกับผู้โดยสารตอนหลังมากขึ้นด้วยหูฟังอินฟราเรด 2 ชุด พร้อมแผงควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลังแบบแยกอิสระ รวมถึงช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังอีกด้วย

เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร พร้อมระบบขับสี่ที่ยอดเยี่ยม

ทางมิซูบิชิยังคงมั่นใจในเครื่องยนต์ตัวเดิมจึงยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซลรหัส 4N15 ขนาด 2.4 ลิตร พร้อมวาล์วไอดีและเทอร์โบแปรผัน ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 ที่ 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัจฉริยะ 8 จังหวะ ให้ความนุ่มนวลและการต่อเกียร์ที่ไหลลื่น

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ SS4 II ที่สามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full Time All Wheel Control เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในถนนที่มีความลื่น หรือช่วงฝนตก และหากคุณต้องการขับบนเส้นทางขรุขระสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4HLc หรือ 4LLc ได้อย่างง่ายดายด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมปุ่ม Off-Road ที่สามารถเลือกรูปแบบการส่งกำลังเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวเส้นทางได้ถึง 4 รูปแบบ (Gravel ,Mud/Snow ,Sand ,Rock)

ระบบและอุปกรณ์ความปลอดภัยที่คุ้มค่า

อุปกรณ์ที่ใส่มาในรุ่นท็อปอย่าง มิตซูบิชิ ปาเจโร่สปอร์ต อีลิท อีเดชั่น กับค่าตัว 1.629 ล้านบาทนั้นถือว่าไม่น้อยไปกว่าคู่แข่งมากนัก ทั้งระบบ Brake Auto Hold ที่สามารถช่วยในเรื่องของความเมื่อยล้าในการเหยียบเบรกของช่วงการจราจรที่ติดขัดได้ รวมถึงระบบเปิด - ปิดฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี

ในด้านของอุปกรณ์ความปลอดภัย มั่นใจด้วยถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งที่ครอบคลุมถึงผู้โดยสารแถวที่ 3 และจุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX ที่เบาะแถวที่ 2 รวมถึงระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ทำให้ลดโอกาศการเกิดอุบัติเหตุได้

กล้องมองภาพรอบคัน สามารถมองผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งจากรอบตัวรถ และสามารถประมวลผลแสดงภาพแบบ Bird's Eye View ผ่านหน้าจอในรถได้ ระบบสัญญานเตือนจุดอับสายตาบนกระจกข้าง รวมถึงระบบสัญญานเตือนขณะเปลี่ยนเลน

เพิ่มความสบายและความปลอดภัยด้วยระบบ ล็อคความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ ที่จะทำงานร่วมกับเรดาห์ด้านหน้ารถ หากตรวจพบว่ารถคันหน้ามีความเร็วต่ำกว่าจะปรับลดความเร็วอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่าง และหากรถคันหน้าพ้นจากระยะของเรดาห์จะปรับความเร็วมาสู่ค่าเดิมที่ตั้งไว้

ให้ความคุ้มค่ากับราคาที่เหมาะสม

ในตลาดรถยนต์ PPV นั้นมีรถยนต์หลายรุ่นให้เลือก เรทราคาจะอยู่ไม่ต่างกันมาเท่าไร แต่ด้วยเจ้ามิตซูบิชิ ปาเจโร่สปอร์ต อีลิท อีเดชั่นตัวท็อปสุดนั้น ค่าตัวอยู่ที่ 1.629 ล้านบาท เรียกได้ว่าฟังก์ชั่นและประสิทธิภาพที่ได้มานั้นถือว่าคุ้มค่าไม่แพ้กับเจ้าอื่นเลย

และหากคุณมีงบน้อยกว่านั้นสามารถเลือกตัวรองไล่ลงมาได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นตัวชุดแต่งหรือว่าตัวธรรมดานั้น อาจจะต่างกันแค่ฟังก์ชั่นบางอย่าง แต่รูปลักษณ์และเครื่องยนต์นั้นไม่ต่างกันเลย โดยรุ่นก่อนปรับโฉมตัวชุดแต่งของปาเจโร่สปอร์ตก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้รถรุ่นอื่นในตลาดเลย