นิสสัน บริษัทรถยนต์จากญี่ปุ่น นำเสนอ 2019 นิสสัน นาวาร่า ทำตลาดประเทศไทย มีราคาเริ่มต้นด้วยรุ่นตัวถังตอนเดียว ซิงเกิลแค็บ 5.59 – 6.55 แสนบาท ตัวถัง 2 ประตู คิงแค็บ 6.37 – 8.72 แสนบาท และตัวถัง 4 ประตู ดับเบิลแค็บ 6.93 แสนบาท – 1.096 ล้านบาท ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ พละกำลังมี 2 ระดับ คือ 163 แรงม้ากับแรงบิด 403 นิวตันเมตร และ 190 แรงม้ากับ 450 นิวตันเมตร
นิสสัน นาวาร่า เป็นรถกระบะที่ผลิตโดยนิสสัน ในประเทศไทย โดยมีการเปิดตัวเวอร์ชั่น Black Edition ใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 ซึ่งได้รับการตกแต่งด้วยสีดำเพิ่มเติม ขณะที่รุ่นท็อป นิสสัน นาวาร่า ดับเบิล แค็บ 4WD VL 7AT มีความประหยัดน้ำมันประมาณ 13-14 กม.ต่อลิตร โดยมีน้ำหนักตัวถังรถ 1,998 กก.
New 2018 Nissan Navara (2018 นิสสัน นาวาร่า) รถกระบะจากค่ายนิสสัน (Nissan) ที่มีอายุอานามในการทำงานมานานเกือบจะที่สุดในตลาดปิกอัพในประเทศไทย แต่ก็ได้รับการปรับปรุงโฉมอีกครั้ง ด้วยการเน้นอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ ที่น่าใช้งานเพิ่มเติมเข้าไป
เดิมที่นั้น นาวาร่าเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าสายใช้งานและสายบรรทุกหนัก เนื่องจากขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและความสามารถในการขับขี่ที่สมบุกสมบัน และพวกเขาก็พยายามเพิ่มความคุ้มค่าให้กับตัวสินค้า ด้วยการใส่อุปกรณ์ด้านความสะดวกและความปลอดภัยเข้าไปอีกหลายรายการ
ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงแค่ในรุ่นท็อปอย่างดับเบิลแค็บ 4 ประตูเท่านั้น แต่การเปลี่ยนแปลงยังไล่ไปถึงยังรุ่นย่อยต่าง ๆ ที่ลดหลั่นกันไปอีก 7 รุ่น โดยทำการปรับราคาเล็กน้อยเมื่อเทียบกับบรรดาข้าวของที่ใส่เข้ามาในรถ ซึ่งหากมองด้านความคุ้มค่านั้น พวกเขาไม่แพ้ใครแน่นอนในขณะนี้
ราคาของรถปิกอัพรุ่นกลาง ๆ ที่อยู่ที่ระดับ 7-8 แสนบาท แต่ได้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพิ่มเติม ขณะที่หากต้องการกล้องมองรอบทิศทาง ถุงลมนิรภัยรอบคัน หรือระบบนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี ในรุ่นท็อป ก็จ่ายแค่ 1 ล้านบาทนิด ๆ เท่านั้น
แม้ด้านราคาจะไม่ใช่ปัญหาว่าคุ้มค่าหรือไม่ แต่คำถามคือ ตัวรถและระบบที่ติดตั้งมาให้นั้น เพียงพอหรือไม่กับการต่อกรกับคู่แข่งในตลาด เพราะกว่าจะมีการปรับโฉมอีกครั้ง ก็กินเวลาอีกพักใหญ่ ๆ วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบเหล่านี้กัน
ตารางราคาจำหน่าย New 2018 Nissan Navara ทุกรุ่น |
Nissan Navara Double Cab 2.5 VL 7AT 4WD |
1.09 ล้านบาท |
Nissan Navara Calibre Double Cab 2.5 VL 6MT |
9.635 แสนบาท |
Nissan Navara Calibre Double Cab 2.5 V 7AT |
9.405 แสนบาท |
Nissan Navara Calibre Double Cab 2.5 EL 7AT |
9.115 แสนบาท |
Nissan Navara Calibre Double Cab 2.5 EL 6MT |
8.69 แสนบาท |
Nissan Navara Calibre King Cab 2.5 V 7AT |
8.695 แสนบาท |
Nissan Navara Calibre King Cab 2.5 EL 6MT |
7.965 แสนบาท |
ตารางรายละเอียดทางเทคนิค New 2018 Nissan Navara Double Cab 2.5 VL |
มิติตัวถัง (กว้างxยาวxสูง) (มิลลิเมตร) |
1,850x5,255x2,820 |
ระยะฐานล้อ (มิลลิเมตร) |
3,150 |
ความสูงใต้ท้องรถ (มิลลิเมตร) |
220 |
เครื่องยนต์ |
YD25DDTi |
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี.) |
2,488 |
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) |
190/3,600 |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) |
450/2,000 |
ระบบส่งกำลัง |
อัตโนมัติ 7 สปีด |
ระบบขับเคลื่อน |
ขับเคลื่อน 4 ล้อ |
ระบบบังคับเลี้ยว |
แร็คแอนด์พีเนียน |
ช่วงล่างด้านหน้า |
อิสระปีกนกคู่ คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง |
ช่วงล่างด้านหลัง |
แหนบซ้อนพร้อมโช็คอัพ |
ระบบเบรกด้านหน้า |
ดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน |
ระบบเบรกด้านหลัง |
ดรัมเบรก |
ขนาดล้ออัลลอย (นิ้ว) |
18 |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) |
80 |
มาตรฐานไอเสีย |
ยูโร 4 |
รูปลักษณ์ภายนอกแข็งแกร่งยังไม่เชย
หากคิดว่านี่คือรถที่เปิดตัวมาแล้ว 6 ปี ก็ต้องถือว่าหน้าตาของนิสสัน นาวาร่านั้น ยังไม่ได้เชยหรือดูตกยุคไปแต่อย่างใด การออกแบบของพวกเขานั้นทำได้ดีมาก เพราะแม้จะผ่านมานานขนาดไหน หน้าตาของนาวาร่าก็ไม่ได้ดูจืดชืด แถมในเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ยังมีการติดตั้งชุดแต่งเพิ่มความดุดันเข้าไปอีก
กรอบโคมไฟที่ดุดัน มาพร้อมไฟส่องสว่างกลางวัน ดูลงตัวกับกระจังหน้าที่มาพร้อมโลโก้ขนาดใหญ่ ไฟตัดหมอกทรงกลมที่ติดตั้งที่มุมกันชนหน้า พร้อมชุดกันกระแทกใต้ตัวถัง ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรุ่นท็อป ลายที่เลือกมาใช้ก็สวยงามดุดี
ด้านท้ายโดดเด่นด้วยโคมไฟท้ายแบบสวยงามมีมิติลงตัว กันชนท้ายขนาดใหญ่ มิติตัวถังการออกแบบด้านหลังของตัวรถดูไม่น่าเบื่อ ฝากระโปรงขนาดใหญ่ทำให้การขนส่งสัมภาระทำได้อย่างง่ายดาย ซึ่งแม้จะผ่านมานานขนาดไหน นิสสัน นาวาร่าก็ยังไม่ได้ดูตกยุคไปแม้แต่น้อย
ห้องโดยสารภายในที่เน้นผู้ใช้งานเป็นหลัก
การออกแบบห้องโดยสารของนาวาร่านั้น เน้นการใช้งานของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นหลัก พวกเขาคือผู้ผลิตปิกอัพรายแรกของประเทศที่ให้ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังมา พร้อมทั้งติดตั้งระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกการปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา ได้
ห้องโดยสารโทนสีดำ พร้อมการตกแต่งสีเงินอย่างลงตัว เบาะที่นั่งหุ้มหนังขนาดใหญ่ที่รองรับน้ำหนักผู้โดยสารได้ในทุกตำแหน่ง มาพร้อมหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบสี 3 มิติ ที่สามารถให้ข้อมูลได้อย่างชัดเจน และยังรองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
นิสสันติดตั้งระบบกุญแจอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และติดตั้งระบบนิสสัน คอนเนคต์ ระบบอินโฟเทนเมนต์ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแอปเปิล คาร์เพลย์ ระบบนำทางและระบบสั่งการด้วยเสียง เรียกว่าให้มาอย่างครบครัน
ความแข็งแกร่งที่คิดค้นมาแต่ต้น
อย่างที่บอกว่านาวาร่านั้นขึ้นชื่อเรื่องของความแข็งแกร่งและความสามารถในการบรรทุกสินค้า ซึ่งไม่ได้เป็นราคาคุย เพราะนิสสัน นาวาร่านั้น มาพร้อมโมโนเฟรม แชสซีส์แบบชิ้นเดียวที่โครงสร้างเป็นเหล็กกล้า เพิ่มความแข็งแกร่งทั่วทั้งคัน
มาพร้อมเทคโนโลยีในการออกแบบเพื่อเพิ่มระยะต่ำสุดของรถจากพื้นถนน ระบบกันสะเทือนหน้าทำจากเหล็กกล้า เพื่อเพิ่มการทรงตัวและการเกาะถนนอันยอดเยี่ยม ทั้งในการขับขี่ปกติ การเข้าโค้ง รวมไปถึงการใช้งานขณะขับขี่แบบออฟโรด
ระบบการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อที่ใช้งานได้อย่างมั่นใจและง่ายดาย มาพร้อมระบบการปรับโหมดการขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตร และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ความเร็วต่ำ ซึ่งทำให้ผู้ขับข่าสามารถเลือกโหมดการขับขี่ที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
เครื่องยนต์สมรรถนะสูงที่ไว้ใจได้
หากมองว่านี่คือรถที่เปิดตัวมานานเกินครึ่งทศวรรษ ต้องบอกว่าหากย้อนไปในช่วงเวลาของการเปิดตัว นี่คือเครื่องยนต์ที่สมรรถนะสูงที่สุดรุ่นหนึ่งของตลาด นิสสันเลือกใช้เครื่องยนต์ YD25DDTi ขนาด 2,488 ซีซี พร้อมหัวฉีดคอมเมนเรลและเทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ในรุ่นท็อปของนาวาร่า
สมรรถนะของเครื่องยนต์นั้นให้กำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์ด้วยตนเอง ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
นอกเหนือไปจากสมรรถนะที่แน่นอนว่าไม่ได้เป็นรองใครหน้าไหน แม้แต่คู่แข่งที่เปิดตัวตามมาทีหลัง สมรรถนะก็ไม่ได้หนีกันมาก เครื่องยนต์รุ่นนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องการให้การบำรุงรักษาที่ง่ายดาย ไม่จุกจิก และสามารถใช้งานได้เป็นระยะเวลายาวนานอีกด้วยนะ
เพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยเต็มคัน
การปรับเปลี่ยนที่สำคัญจริง ๆ ของนาวาร่าในปี 2018 คือการเพิ่มอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ครั้งแรกของตลาดปิกอัพกับการติดตั้งกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ที่ช่วยทั้งเรื่อของการถอยจอด และการดูทิศทางรอบคันขณะขับขี่แบบออฟโรด เพิ่มความปลอดภัยให้กับรถในการใช้งาน
นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มถุงลมนิรภัยให้อีกรอบคันมากถึง 7 จุด ประกอบไปด้วย ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า 2 ตำแหน่ง ม่านนิรภัยที่ครอบคลุมถึงผู้โดยสารตอนหลัง 2 ตำแหน่ง และถุงลมนิรภัยสำหรับหัวเข่าคนขับอีก 1 ตำแหน่ง
ระบบความปลอดภัยอื่น ๆ รองรับด้วยมาตรฐานการชนอาเซียน เอ็นแค็ประดับ 5 ดาว มาพร้อมระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี เทคโนโลยีช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันการลื่นไถล และอื่น ๆ อีกมากมาย
ยังเป็นกระบะแถวหน้าที่น่าใช้งานอยู่
นิสสัน นาวาร่า โฉมใหม่นั้น น่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดโลกในช่วงปลายปี 2020 หรือต้นปี 2021 โดยคาดว่าประเทศไทยก็จะเป็นฐานการผลิตและสถานที่เปิดตัวของกระบะรุ่นใหม่ต่อไป ในฐานะตลาดที่ใหญ่สุดในโลกสำหรับปิกอัพขนาด 1 ตัน
ถามว่านาวาร่าในช่วงปลายอายุนั้นยังน่าใช้งานหรือไม่ คำตอบก็คือ หากไม่ได้สนใจเรื่องการที่รถกำลังจะตกยุค นี่คือรถปิกอัพที่มีความคุ้มค่าที่สุดในท้องตลาดขณะนี้ เพราะหากคุณตัดสินใจเลือกเป็นเจ้าของ คุณก็จ่ายถูกกว่าราคาเปิดไปมากมาย ด้วยแคมเปญโปรโมชั่นที่มีอยู่
เครื่องยนต์ที่ให้สมรรถนะไม่แพ้ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ในตลาดปัจจุบัน อุปกรณ์ที่มีมาให้แบบเต็มที่ หลาย ๆ อย่างยังเหนือกว่าคู่แข่งรายใหม่ ๆ ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะช่องแอร์ตอนหลังและกล้อง 360 องศา ยังเป็นออพชั่นที่โดดเด่นกว่าคนอื่นเหมือนเช่นเคย
ถามว่านาวาร่าใหม่ที่จะเปิดตัวในอนาคตจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง หากให้คาดเดาก็น่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาที่ต้องดุดันกว่านี้ ตัวถังที่ควรจะต้องตีโป่งตามสมัยนิยม และแน่นอนว่าเครื่องยนต์น่าจะเปลี่ยนมาใช้ 2.3 ลิตรเทอร์โบ ที่ใช้อยู่ในนิสสัน เทอร์ร่า (Nissan Terra) แต่อาจจะปรับสเปกให้แรงขึ้น
แต่นั่นคือเรื่องของอนาคต เพราะนิสสัน นาวาร่า ที่ทำตลาดอยู่ ยังมีความน่าใช้งานอยู่เหมือนเดิม และคุณสามารถขับขี่มันได้ในชีวิตประจำวันแบบไม่อายใคร เพราะถ้าใครถาม คุณก็สามารถตอบกลับได้เลยว่า คุณเลือกซื้อรถที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและเหมาะกับการขับขี่ที่แท้จริง