Porsche Taycan (ปอร์เช่ ไทคานน์) ในรุ่น GTS เปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ประเทศไทย ซึ่ง GTS คือไลน์อัพพิเศษของปอร์เช่ ที่มีการตกแต่งพิเศษที่ไม่เหมือนรุ่นอื่น แม้แต่รุ่นที่แพงกว่าอย่าง Turbo และ Turbo S
Porsche Taycan GTS จะถูกวางอยู่ในตำแหน่งตรงกลางระหว่าง Taycan 4S และ Taycan Turbo ทางปอร์เช่ต้องการให้ Taycan GTS เป็นตัวแทนของความสปอร์ตที่กลมกล่อมและลงตัวอย่างแท้จริง
ความพิเศษของ Taycan GTS จะอยู่ที่ออพชั่นและสมรรถนะที่ให้มาเป็นมาตรฐานของรุ่นนี้
ไม่ได้แรงที่สุด ขับพอสนุก
Taycan GTS ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 598 แรงม้า (440 กิโลวัตต์) เมื่อใช้ระบบ Launch Control จะมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
มาพร้อมแบตเตอรี่แบบ Performance Battery Plus ขนาด 93.4 kWh ซึ่งมีกำลังไฟ 800 โวลต์ ซึ่งสามารถรองรับความร้อนในเวลาที่เราขับขี่อย่างต่อเนื่องได้ สามารถรองรับการชาร์จที่ความเร็วสูงสุด 270 kW ซึ่งทั้งสองตัวถังสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 5 - 80% ในเวลา 22.5 นาที
ด้วยกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ที่มี ทำให้ Taycan GTS สามารถขับได้เฉลี่ย 424 – 504 กม. ต่อหนึ่งชาร์จ และมีประสิทธิภาพที่ 24.1 – 20.3 kWh/100 กม. ตามมาตรฐาน WLTP
ช่วงล่างที่ปรับให้เข้ากับรุ่น GTS โดยเฉพาะ
ในด้านการขับขี่ ในรุ่นนี้จะมีช่วงล่างแบบถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ (adaptive air suspension) พร้อมระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว PASM ซึ่งปรับให้เข้ากับรุ่น GTS โดยเฉพาะ เพื่อการขับขี่ที่ดุดันมากขึ้นจากรุ่น 4S
มิติของ Taycan GTS จะมี ความยาว/ความกว้าง/ความสูง อยู่ที่ 4,963/1,966/1,381 มม. มีระยะฐานล้อ 2,900 มม.
สีตัวรถตัดกับสีดำขาดกระจุย
ภายนอกก็มีการตกแต่งด้วยสีดำรอบคัน ตั้งแต่ชายด้านล่าง ล้ออัลลอย และส่วนของหลังคา ทำให้โดยรวมจะเป็นสีของตัวรถตัดกับสีดำแบบไม่มีสีอื่นมาปะปน ให้ลุคความดุดันโดยไม่จำเป็นต้องเป็นรุ่นที่แรงที่สุด
ในขณะเดียวกัน ภายนอก ด้านหน้าเพิ่มความดุดันจากเดิมด้วยชุดแต่ง SportDesign และรวมไปถึงด้านข้างด้วย โลโก้ GTS ที่สเกิร์ตด้านข้าง การตกแต่งที่ขอบหน้าต่างเป็นสีดำเงาทั้งหมด ด้านหลังติดตั้งดิฟฟิวเซอร์แบบพิเศษ และโลโก้บอกชื่อรุ่นสีดำด้าน
ล้ออัลลอย 20 นิ้วจาก Taycan Turbo S ลาย Aero Design พ่นในสีพิเศษ Satin Black เฉพาะรุ่นนี้ และสามารถเพิ่มออพชั่นเป็นล้ออัลลอย 21 นิ้ว ลาย RS Spyder Design ในสีเดียวกัน (แบบในภาพ) ไฟหน้าแบบ Matrix PDLS Plus แบบรมดำ และกระจกข้างที่ด้านล่างเป็นสีดำตัดกับสีของตัวรถ
นอกจากนี้ ยังมีหลังคาแก้วมาพร้อม Panoramic Sunroof แบบใหม่ ที่มาพร้อมระบบ Sunshine Control (หรือ Variable Light Control) ที่มีให้เลือกเฉพาะรุ่น GTS เท่านั้น พร้อมกันนี้ยังมีฟิล์ม liquid crystal ที่สามารถสั่งการด้วยระบบไฟฟ้า โดยฟิล์ม liquid crystal จะรับหน้าที่ปรับเปลี่ยนหลังคากระจกโปร่งแสง
โดยหลังคาดังกล่าวได้รับการแบ่งพื้นที่มาเป็น 9 ส่วน และสามารถตั้งค่าความโปร่งแสงแบบใส (Clear)
และกรองแสงแบบด้าน (Matt) แล้วยังมีฟังก์ชั่น Semi และ Bold ให้เลือกใช้งานเพิ่มเติม อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าการทำงานล่วงหน้าได้อีกด้วย
ภายในเส้นใย Race-Tex
ภายในจะตกแต่งด้วยเอกลักษณ์ของรุ่น GTS คือเส้นใยไมโครไฟเบอร์จาก Race-Tex ที่เหมือนกับ GTS รุ่นพี่ และเพื่อให้เข้ากันเราสามารถมี GTS Interior Package เป็นออพชั่นเสริม ซึ่งจะเพิ่มเติมตะเข็บสีแดง Carmine red หรือสีขาว Chalk ภายในรถ และยังมี Sport Chrono instrument dial และโลโก้ปอร์เช่ที่พรมของรถ รวมถึงการตกแต่งบนพวงมาลัย คอนโซลกลาง และแผงประตู ที่เป็นคาร์บอนแบบด้านทั้งหมด
ราคาเริ่มต้นที่ 8.89 ล้านบาท
Porsche Taycan GTS มีราคาเริ่มต้นที่ 8.89 ล้านบาท แต่ไม่มีทางที่คนซื้อปอร์เช่จะพอใจเท่านี้อย่างแน่นอน หากใครชอบการตกแต่งแบบที่เห็นในภาพนี้ จะมีราคาอยู่ที่ 10.25 ล้านบาท เพราะราคาของสีแดง Carmine Red ดังที่เห็นก็มีราคา 1.5 แสนบาทแล้ว
หากสนใจ Porsche Taycan GTS สามารถลองมาสัมผัสตัวจริงได้ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม - 3 เมษายน พ.ศ. 2565 เวลา 12.00 – 22.00 น. (วันธรรมดา) และ 11.00 – 22.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ)
อ่านเพิ่มเติม : รวมรถใหม่น่าสนใจในงาน Motor Show 2022 ครบทุกค่าย