VOLT City EV ทั้งสองตัวถังนั้นมาพร้อมข้อดีหลายประการที่มากกว่าคู่แข่ง ได้แก่ ระยะฐานล้อที่ยาวกว่า เพิ่มพื้นที่ห้องโดยสาร ออพชั่นและระบบความปลอดภัยที่มากกว่า และอื่น ๆ อีกมากมาย
ซึ่งหากเทียบกับคู่แข่งที่มีตัวถัง 3 ประตูเหมือนกันจะพบว่ารถคันนี้จะมีแรงม้ามากกว่าทั้ง Wuling Mini EV และ Pocco MM ถึงเกือบสองเท่าเลยทีเดียว แต่ด้วยกำลังที่มากกว่านั้นจึงส่งผลให้ VOLT FOR-TWO สามารถขับได้เพียง 160 กม. ซึ่งน้อยกว่า Wuling แต่มากกว่า Pocco MM ส่วน VOLT FOR-FOUR นั้นสามารถขับขี่ได้ถึง 200 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเลยทีเดียว
แต่สำหรับ VOLT City EV นั้น ในช่วงแรกแม้จะนำเข้ามาทั้งคันจากประเทศจีน ก็ยังมาพร้อมพวงมาลัยขวา และรถจากแบรนด์ VOLT จะมีแผนการผลิตในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป ซึ่งแสดงถึงความตั้งใจในการทำตลาดในประเทศไทย
โดยปกติแล้ว รถยนต์ทรงแฮทช์แบ็คมักจะสามารถเปิดท้ายได้โดยตรงจากกลอนที่ประตูท้ายได้เลย แต่สำหรับ VOLT City EV นั้นต้องใช้การเปิดท้ายรถด้วยปุ่มด้านใต้พวงมาลัยแทน
VOLT FOR-TWO รุ่น 3 ประตู มี 2 ที่นั่ง
สำหรับ VOLT City EV รุ่น 3 ประตู หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า VOLT FOR-TWO นั้นมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารเพียง 2 คนเท่านั้น เมื่อเทียบกับคู่แข่งทั้งสองที่พยายามใส่ที่นั่งอีกสองที่มาให้ แต่ก็อาจเหมาะสำหรับวางของหรือเด็กเล็กเท่านั้น ทาง VOLT จึงตัดสินใจไม่ใส่ที่นั่งและให้พื้นที่เก็บของไปเต็ม ๆ
VOLT รุ่น FOR-FOUR ยังมีเบาะหลังที่ต้องนั่งชันเข่าอยู่
นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด เผยว่า VOLT City EV นั้นเหมาะกับการใช้งานในเมือง และเป็นรถคันที่สองของบ้าน ซึ่งเป็นจุดประสงค์ของรถประเภทนี้ในประเทศจีน ที่มองรถประเภทนี้เหมือนเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่งที่อำนวยความสะดวกกับเรา เน้นการใช้งาน ไม่ต้องมีอะไรที่หวือหวามาก
VOLT City EV เป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันเล็ก มีราคาอยู่ระหว่าง 325,000 - 415,000 บาท สามารถเดินทางด้วยไฟฟ้า เน้นการใช้งานในเมือง นั้นจะเหมาะสมกับการใช้งานของเราหรือไม่ ลองตัดสินใจกันดูครับ
หากต้องการจองรถคันนี้ใน 1,000 คันแรก สามารถจองได้ที่เว็บไซต์ของ VOLT City EV ได้ตั้งแต่ 4 ส.ค. 2565 ตั้งแต่เวลา 14.59 น. เป็นต้นไป