Shell กางแผนฟื้นตัว เพิ่มปั๊มรับมือ EV และใช้น้ำมัน B7 เป็นเกรดพรีเมี่ยม

Shell ผู้ให้บริการน้ำมันรายใหญ่ แถลงแผนงานหลังจากเจอโควิด-19 เล่นงานหนัก เพราะปริมาณรถยนต์บนท้องถนนลดลงครึ่งนึง ทำยอดขายเชื้อเพลิงรถยนต์ลดลง 10% กับสายการบินหยุดให้บริการ ทำให้ยอดขายเชื้อเพลิงเครื่องบินลดลงถึง 80% พอพ้นช่วงวิกฤตินี้มา เชลล์ก็สร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยการเปิดแผน EnergyAmbition ต้อนรับทุกกระแสในโลกอนาคต

EnergyAmbition เป็นแนวคิดใหม่สำหรับการดำเนินธุรกิจระยะฟื้นฟูหลังโควิด-19 โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจใน 5 ด้านคือ

A = Advanced Energy

การใช้นวัตกรรมพลังงาน ซึ่งล่าสุดนี้ก็มีกระแสการปรับน้ำมันดีเซลไปใช้ B10 เป็นมาตรฐาน ส่วนดีเซลเกรดพรีเมี่ยม V-power ไนโตร+ เป็นประเภท B7 ที่ใส่สารชะล้างเขม่าเพิ่มขึ้นมา พร้อมช่วยกำจัดคราบตะกรันในระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย

B = Brand Trust 

การเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจ เห็นได้จาก โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ที่คาดว่าเสร็จกลางปีหน้า, โครงการวางท่อน้ำมันใหม่ไปในเส้นทางภาคเหนือและภาคอีสาน พร้อมได้รับความไว้ใจจากชุมชน ด้วยการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคนไทย เช่น โครงการพลังงานเพื่อชุมชน โครงการเชลล์เติมสุข ฯลฯ

C= Carbon Footprint

การดำเนินงานเพื่อลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีการติดตั้ง Solar Rooftop ให้ครบ 100 สถานีในปีหน้า และจะมีการจัดพื้นที่ว่างรองรับให้เครื่องชาร์จไฟแก่ EV ภายในบริเวณปั๊มน้ำมันอีกด้วย ตอนนี้เริ่มติดตั้งกับพาร์ทเนอร์ไปบ้างแล้วบางแห่ง

D = Digitalisation

การนำเทคโนโลยีดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซใหม่ๆ เช่น การชำระเงินแบบไร้สัมผัส Pay at Pump ที่สถานีบริการเชลล์ กับร้าน DeliCafe ทุกสาขา ตามด้วยบริการ Home Delivery ส่งอาหารจาก DeliCafe และบริการแบบ Online-to-Offline ให้ลูกค้าสามารถสั่งน้ำมันเครื่อง ผ่านลาซาด้า พร้อมนัดวันเวลา เลือกสถานีบริการน้ำมันเชลล์ที่จะทำการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเชลล์ได้อย่างสะดวกสบาย ปลอดภัย และประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย

E = Empowering People

การเสริมพลังคนทั้งภายในและภายนอกองค์กร ให้มีพลังที่ดีในการดำเนินชีวิต เพื่อรับมือกับผลกระทบจากโควิด-19 และชีวิตวิถีใหม่ New Normal ซึ่งรวมถึงการดำเนินโครงการพัฒนาทักษะด้านต่างๆ การส่งเสริมศักยภาพพนักงาน และการสนับสนุนจิตอาสา ทั้งนี้ได้มีการจัดการอบรมให้กับ Service Champions หรือพนักงานให้บริการที่ประจำอยู่ที่สถานีบริการน้ำมัน รวมไปถึงบุคลากรของร้านค้าที่เป็นพันธมิตรกับเชลล์ทั่วประเทศ นอกจากนี้ เชลล์ยังได้มีการปรับสภาพแวดล้อมและสถานที่ทำงาน โดยคำนึงถึงสุขภาพกายสุขภาพจิตของพนักงานเป็นสำคัญ

นอกจากนี้เชลล์ให้ความสำคัญกับงานขายเชื้อเพลิงหน้าลาน โดยขยายปั๊มเพิ่มปีละ 30 สถานี โดยยังไม่มีแผนการยุบเชื้อเพลิงชนิดใดออกไปทั้งสิ้น ทำให้แบรนด์เชลล์ยังได้รับความนิยมตั้งแต่รถบ้าน จนถึงซูเปอร์คาร์ อย่างที่เคยเป็นมาตลอด และพร้อมรับมือกับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตด้วย