![Subaru Forester ได้ “ดี” จากการทดสอบระบบเตือนให้คาดเข็มขัด แล้วทำอย่างไรถึงจะ]()
ในการทดสอบความปลอดภัยล่าสุดของสถาบันประกันความปลอดภัยบนทางหลวง (IIHS) ของอเมริกา จะมีคะแนนจากประสิทธิภาพของระบบการเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยเพิ่มมาด้วย โดยมีเอสยูวีขนาดเล็กและขนาดกลางเพียง 2 ใน 26 คันเท่านั้นที่ได้คะแนนในเกณฑ์ “ดี”
- Subaru สองคันได้ “ดี”
- ระบบเตือนดี ต้องดัง
- Honda HR-V ได้คะแนน “แย่”
- ระบบเตือนจะดีขึ้นไม่ต้องรอเปลี่ยนโฉม
- ผู้ผลิตรถควรให้ความสำคัญกับระบบเตือนนี้
![Subaru Forester ได้ “ดี” จากการทดสอบระบบเตือนให้คาดเข็มขัด แล้วทำอย่างไรถึงจะ]()
Subaru Ascent เอสยูวี 3 แถว 7 ที่นั่ง
เป็น Subaru ถึงสองคัน
รถทั้งสองคันที่ได้คะแนนดี ได้แก่ Subaru Ascent และ Subaru Forester และมีอีกเพียง 5 คันที่ได้เกณฑ์รองลงมาคือ “ยอมรับได้ (Acceptable)” และตามมาอีกเจ็ดคันที่ได้ “เกือบแย่ (Marginal)” และ 12 คันสุดท้ายได้ “แย่ (Poor)” ในการทดสอบครั้งนี้
การทดสอบของ IIHS ถูกออกแบบมาเพื่อกำหนดจำนวนยานพาหนะที่อยู่เหนือหรือเกินกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ การทดสอบนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้ผู้ผลิตรถยนต์สร้างระบบเตือนความจำที่กำหนดให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะสวมเข็มขัดนิรภัย การวิจัยของ IIHS ยังชี้ว่าระบบเตือนดังกล่าวช่วยให้ปลอดภัยขึ้นได้
![Subaru Forester ได้ “ดี” จากการทดสอบระบบเตือนให้คาดเข็มขัด แล้วทำอย่างไรถึงจะ]()
Subaru Forester อีกคันที่ได้คะแนน "ดี"
ระบบเตือนดีทำให้คนกลับมาคาดเข็มขัดได้มากขึ้น
การเก็บข้อมูลจากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการไม่มีระบบนี้ทั้งหมด 50 คน โดย IIHS ระบบเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยจะต้องมีประสิทธิภาพมากกว่าการเตือนสั้น ๆ ที่เงียบ ๆ นอกจากนี้ ยังพบว่าระบบเตือนที่ดีจะทำให้คนคาดเข็มขัดนิรภัยมากขึ้นถึง 34% จากกลุ่มคนที่ไม่ได้คาดเข็มขัดเป็นประจำ หากยึดตามสถิตินี้ เราจะสามารถช่วยชีวิตคนได้มากถึง 1,500 คนต่อปี
David Harkey ประธานของ IIHS กล่าวว่า “ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ใช้เข็มขัดนิรภัย โดยเฉพาะที่เบาะหน้า แต่สำหรับคนที่ไม่ได้คาดเข็มขัดกลายเป็นเคสของผู้เสียชีวิตจำนวนมาก”
“เกือบครึ่งหนึ่งของคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุปี 2019 นั้นไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย”
![Subaru Forester ได้ “ดี” จากการทดสอบระบบเตือนให้คาดเข็มขัด แล้วทำอย่างไรถึงจะ]()
ระบบเตือนดี ต้องดัง
ระบบเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยที่ดีตามมาตรฐาน IIHS จะเป็นลักษณะที่ต้องทำตามเกณฑ์เท่านั้น ในเอสยูวีของ Subaru ทั้งสองคันนั้นใกล้เคียงกับสิ่งที่สถาบันนี้ต้องการ ด้วยเสียงเตือนที่ดัง พร้อมกับไอคอนเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยสีแดงบนมาตรวัด มีไฟอีกดวงที่บอกว่าแถวที่สองคาดเข็มขัดแล้วหรือไม่ และเสียงจะไม่หยุดจนกว่าคนขับจะคาดเข็มขัดนิรภัย
ในมาตรฐานของรถที่ได้คะแนน “ดี” หากที่นั่งแถวหน้าไม่ได้คาดเข็มขัด หรือที่นั่งด้านหลังไม่ได้คาดเข็มขัดนานถึง 30 วินาที เสียงเตือนของรถจะต้องมีความดังมากพอที่จะได้ยินทั้งห้องโดยสารและต้องยาวนานกว่า 90 วินาที ส่วนรถคันไหนที่ไม่มีไฟเตือนคาดเข็มขัดสำหรับที่นั่งแถวหลังจะถูกตัดสิทธิ์จากคะแนน "ดี" ทันที
![Subaru Forester ได้ “ดี” จากการทดสอบระบบเตือนให้คาดเข็มขัด แล้วทำอย่างไรถึงจะ]()
Honda HR-V ได้คะแนน "แย่" แต่เป็นโฉมนี้นะ
Honda HR-V ได้คะแนน “แย่”
หนึ่งในรถที่ได้คะแนน “แย่” ในการทดสอบครั้งนี้คือ Honda HR-V เนื่องด้วยเสียงเตือนที่ค่อนข้างเบาและยากที่จะได้ยินหากมีเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร เสียงเตือนจะมีเพียง 5 วินาทีก่อนจะหยุดไปประมาณ 25 วินาทีจึงจะส่งเสียงเตือนขึ้นอีกครั้งอีกห้าวินาที เราจะเห็นไฟไอคอนเตือนเข็มขัดนิรภัยสีแดงอยู่ แต่ไม่มีการบอกถึงการคาดเข็มขัดของเบาะแถวหลัง
ทั้งนี้ การทดสอบครั้งนี้ทำในประเทศอเมริกา HR-V จะเป็นโฉมเก่า ส่วน HR-V โฉมปัจจุบันนั้นมีระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลังมาให้แล้ว ส่วน HR-V เวอร์ชั่นอเมริกาเจเนอเรชั่นใหม่จะมาในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะต่างจากที่ขายในบ้านเรา
อ่านเพิ่มเติม : ทำไม Volvo C40 Recharge ถึงคว้ารางวัลความปลอดภัยสูงสุดจากการทดสอบของ IIHS ?
![Subaru Forester ได้ “ดี” จากการทดสอบระบบเตือนให้คาดเข็มขัด แล้วทำอย่างไรถึงจะ]()
Subaru Ascent
ระบบเตือนจะดีขึ้นไม่ต้องรอเปลี่ยนโฉม
IIHS แนะนำว่า รถที่ได้คะแนนไม่ดีในการทดสอบนี้สามารถปรับจูนซอฟท์แวร์แบบง่าย ๆ ได้ในภายหลัง คะแนนจะสามารถเพิ่มจาก “แย่” เป็น “ยอมรับได้” ได้เลย ซึ่งจะทำให้รถปลอดภัยมากขึ้นเลยทีเดียว
![Subaru Forester ได้ “ดี” จากการทดสอบระบบเตือนให้คาดเข็มขัด แล้วทำอย่างไรถึงจะ]()
ผู้ผลิตรถควรให้ความสำคัญกับระบบเตือนนี้
“งานวิจัยของเราแสดงถึงความสำคัญของระบบเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยว่าสามารถช่วยชีวิตคนได้สำหรับคนที่ไม่อยากคาดมัน”
“การให้คะแนนครั้งใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อผลักดันให้ผู้ผลิตรถตระหนักถึงความสำคัญของระบบเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัย” Harkey กล่าวปิดท้าย
อ่านเพิ่มเติม : รถปี 2022 โกยคะแนนทดสอบความปลอดภัยได้เพราะไฟหน้า! ปีหน้ามาตรฐานจะยากขึ้นไหม?
