Subaru (ซูบารุ) ประกาศหยุดการผลิตรถยนต์ 3 รุ่นที่โรงงานในประเทศญี่ปุ่น หลังจากตรวจพบว่าเซ็นเซอร์เครื่องยนต์ทำงานบกพร่อง

สำนักข่าว Asahi ของญี่ปุ่นรายงานว่า Subaru อาจต้องใช้เวลาถึงสองเดือนครึ่งเพื่อตรวจสอบต้นตอและดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวก่อนจะสามารถกลับมาผลิตอีกครั้ง การระงับสายการผลิตทำให้กำหนดการส่งมอบรถยนต์ให้ลูกค้าถูกเลื่อนออกไปด้วย  

ก่อนหน้านี้ ค่ายรถตราดาวลูกไก่เพิ่งประสบปัญหาขาดแคลนชิปส์เซมิคอนดักเตอร์จนต้องปรับเปลี่ยนสายการผลิตมาแล้วหลายครั้งและต้องลดเป้าหมายยอดการผลิตลงอย่างต่อเนื่อง 

คาดกระทบผลประกอบการ

Subaru ระบุว่า ปัญหาดังกล่าวถูกตรวจพบที่ระบบเซ็นเซอร์ในเครื่องยนต์สูบนอนรหัส CB18 ที่มีความจุกระบอกสูบ 1,800 ซีซี ปัจจุบันถูกติดตั้งอยู่ในรถยนต์ยอดฮิตอย่าง Forester, Outback และ Levorg ที่ออกจำหน่ายในแดนอาทิตย์อุทัย

นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2020 เป็นต้นมา รถยนต์ทั้งสามรุ่นมียอดขายรวมทั้งหมดอยู่ที่ 54,000 คันหรือประมาณครึ่งหนึ่งของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดของ Subaru จึงถือเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่สร้างผลกำไรได้ดีอย่างต่อเนื่อง

รายงานข่าวระบุว่า การหยุดการผลิตและการส่งมอบรถยนต์ให้ลูกค้าจะกระทบต่อผลประกอบการของ Subaru อย่างแน่นอน โดยก่อนหน้านี้ พวกเขาเพิ่งปรับลดเป้าหมายผลกำไรประจำปีลงเนื่องจากปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วน

ปัจจุบัน ทั้ง Forester, Outback และ Levorg ขึ้นสายการผลิตที่โรงงานยาจิมะในจังหวัดกุนมะ แต่เบื้องต้น สายการผลิตจะถูกระงับไปจนถึงปลายเดือนเมษายนนี้

“เราจำเป็นต้องตรวจสอบการควบคุมคุณภาพและแก้ไขประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม” ฝ่ายสื่อสารองค์กรของ Subaru ระบุ พร้อมกับยืนยันว่ารถยนต์ที่จัดจำหน่ายในต่างประเทศใช้เครื่องยนต์รุ่นอื่นจึงไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ผู้ใช้รถ Forester และ Outback ในไทยจึงสบายใจได้ 

ขณะเดียวกัน Subaru ระบุด้วยว่ากำลังหามาตรการที่จะแก้ไขรถยนต์ที่ถูกส่งมอบให้ลูกค้าไปแล้ว โดยอาจมีการประกาศเรียกคืนในเร็ว ๆ นี้

อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยว่าเครื่องยนต์มีการทำงานบกพร่องอย่างไรเมื่อระบบเซ็นเซอร์มีปัญหา อีกทั้งยังไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ หรือผู้เสียชีวิตจากกรณีนี้