รีวิว GWM Tank 300 Diesel รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง กินน้ำมัน 12 โลลิตร คาดราคา 3 รุ่นย่อย 1.0 -1.3 ล้านบาท

Mr.Argus
Mr.Argus ·

ลองขับ GWM Tank 300 Diesel พบจุดเด่นของเครื่องดีเซลที่ไม่เหมือนใคร กับการทำงานที่นิ่งเงียบ มีการสั่นสะเทือนน้อย โดยยังให้กำลังแรงเหมือนเครื่องดีเซลทั่วไป ที่มีความประหยัดน้ำมัน 11-12 กม./ล. และหาคำตอบว่าทำไมกล้ารับประกัน 1 ล้านกิโลเมตรมากกว่าใครในระดับเดียวกัน

GWM TANK 300 DIESEL เป็นรถเอสยูวีขนาดกลางที่เปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์ใหม่แบบดีเซลทั้ง 3 รุ่นย่อย โดยภายนอกยังคงเอกลักลักษณ์ทรงกล่อง มาพร้อมกับมิติตัวรถที่มีความยาว 4,760 มม.ความกว้าง 1,930 มม.ความสูง 1,903 มม.ระยะฐานล้อ 2,750 มม.ระยะความสูงใต้ท้องรถ 224 มม. เท่าเดิม จุดเพิ่มเติมคือเครื่องดีเซล และระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งเป็นรุ่นที่เรากำลังจะได้ลองขับในคราวนี้

GWM TANK 300 DIESEL รับประกัน 1 ล้านกม.

เครื่องยนต์ของ GWM TANK 300 DIESEL ให้การรับประกัน 1,000,000 กม.หรือ 8 ปีอย่าใดอย่างหนึ่ง เท่ากับว่าคุณต้องใช้รถวันละ 342 กม.โดยไม่มีวันหยุดสักวัน โดยไม่มีเงื่อนไขจำกัดการใช้งาน คุณสามารถนำรถไปใช้รับจ้างหรือเช่าขับก็ได้ เช่น ใช้ส่งสินค้า ใช้รับจ้างสาธารณะ ใช้เป็นรถประจำบริษัท ฯลฯ ก็ยังเข้าข่ายการรับประกันนี้ 

การรับประกันเครื่องยนต์ประกอบด้วยชิ้นส่วนภายในตัวเครื่องทั้งหมด ตั้งแต่แคมวาล์ว ฝาสูบ เสื้อสูบ ลูกสูบ ก้านสูบ ข้อเหวี่ยง หากดูแลรักษาตามมาตรฐานศูนย์บริการ ใช้งานตามปกติไม่มีอุบัติเหตุแล้ว จะไม่มีคำว่าฝาโก่ง น้ำดัน ก้านคด หรือวาล์วยันมากวนใจเลย แต่ไม่รับประกันอุปกรณ์รอบเครื่อง เช่น หัวฉีด เทอร์โบ สายพานราวลิ้น ไดสตาร์ท คอมแอร์ ฯลฯ ซึ่งมันก็มีอายุการใช้งานหลายแสนกิโลเมตรไม่น้อยเลย

สาเหตุที่เขากล้ารับประกันเครื่องยนต์ 1,000,000 กม.แบบนี้ เนื่องจาก GWM เป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ดีเซลมายาวนาน ไม่ใช่ผู้เล่นหน้าใหม่ที่แชร์อะไหล่จากยี่ห้ออื่น พวกเขามีฝ่ายวิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลเป็นของตัวเอง ทำให้มีเทคโนโลยีทัดเทียมกับผู้ผลิตเครื่องดีเซลเจ้าตลาดได้ในหลายด้าน ซึ่งเราจะไปเจาะดูสเปคทางเทคนิคกันต่อ

สมรรถนะ GWM TANK 300 DIESEL

จุดเด่นสุดของ NEW GWM TANK 300 DIESEL มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T มาพร้อมกับเทคโนโลยีเทอร์โบแปรผัน (VGT) ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ท่อร่วมไอดีแบบคู่เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนอากาศ มอบพละกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที โดดเด่นด้วยแรงบิดสูงในรอบต่ำ แรงบิด 260 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่อง 1,000 รอบ แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่อง 1,200 รอบ และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องเพียง 1,500 – 2,500 รอบต่อนาที นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบไดเร็คอินเจคชั่นแบบคอมมอนเรลแรงดันสูง (2,000 บาร์) อิเล็กทรอนิกส์ กระบอกสูบที่ให้ความจุมาถึง 2,370 ซีซี NEW GWM TANK 300 DIESEL นับว่าเป็นรถยนต์เอสยูวีขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้ที่ดีกว่า และทำให้การอัตราการบริโภคน้ำมันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

ลองขับ NEW GWM TANK 300 DIESEL 

การลองขับคราวนี้เราได้จับรุ่นย่อยกลาง Diesel Ultra มาทดสอบ โดยใช้โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด ที่แตกต่างกันทั้งความน้ำหนักพวงมาลัย การตอบสนองแป้นคันเร่ง และการทดเกียร์ ซึ่งติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9AT) ซึ่งเป็นระบบเกียร์ที่มีช่วงอัตราทดเกียร์ 8.843 ทำให้รถสามารถเปลี่ยนเป็นเกียร์ 9 ได้ที่ความเร็วเพียง 90 กม./ชม. ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถปรับอัตราการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมกับการขับขี่ในแต่ละสภาพถนน และสอดคล้องกับการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นออกไป 

ลูกเล่นช่วยขับขี่ยังมีระบบพวงมาลัยไฟฟ้ามีโหมดช่วยผ่อนแรงมาอีก 3 อย่างคือ โหมดเบา โหมดสบาย และโหมดสปอร์ต ที่ช่วยให้สามารถปรับความรู้สึกของพวงมาลัยให้เหมาะสมกับการขับขี่ในแต่ละสภาพการใช้งาน และตอบสนองได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม อีกอย่างที่ช่วยขับขี่ได้จริงคือ ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body transparent) ด้วยกล้อง 3 มิติ 540 องศา

อุปกรณ์ภายนอก

ภายนอกของ GWM TANK 300 DIESEL รุ่น Ultra ต้องชมเชยตรงที่ใช้ยาง H/T ที่เน้นจับกลุ่มใช้งานทางเรียบมากขึ้น มีขนาด 265/65 R17 โดยยังทำทรงเท่ห์แบบออฟโรดด้วยการติดตั้งล้ออะไหล่หลังประตูท้าย และมีราวหลังคาเหล็ก ใช้งานคล้องเชือกได้จริง ไม่ได้มาเล่นๆ พร้อมลูกเล่นซันรูฟเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ทำได้ทั้งการเผยอระบายอากาศ หรือเลื่อนกระจกเก็บไว้ในหลังคา เพื่อรับอากาศดีเต็มๆ 

อุปกรณ์ภายใน

อุปกรณ์ภายในที่คิดว่าน่าสนใจคือ แป้นควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle shift) และระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน ที่มีก้านสวิตช์แยกตรงคอพวงมาลัย ใช้งานง่ายไม่งง มีระยะห่างจากรถคันหน้าเหมาะสม และกดเบรคชะลอรถให้เองโดยไม่มีอาการหัวทิ่ม สามารถตามรถคันหน้าในความเร็วต่ำได้ นับว่ามีประโยชน์มากทั้งการเดินทางใกล้-ไกล นอกจากนี้ก็ยังมีระบบช่วยขับขี่มาตรฐานทั้งการดึงพวงมาลัยกลับเข้าเลนที่ทำได้นิ่มนวล มีระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมออโต้โอล์ด มีระบบเบรคอัตโนมัติเมื่อมีสิ่งกีดขวางท้ายรถ และมีปุ่มลัดเข้ากล้องไว้ดูภาพได้ทันใจอีกด้วย

หน้าจออินโฟเทนเม้นท์ 12.3 นิ้วมีการตอบสนองกับนิ้วมือว่องไว่ดี มีแผนที่แบบออฟไลน์ไม่ง้อมือถือ สามารถใช้นิ้วซูมเข้าออกได้ลื่นเหมือนมือถือราคาแพง และยังรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple และ Android แบบไร้สาย (Wireless) เล่นเพลงผ่านเครื่องเสียง Amor มีลำโพง 8 ตัวพร้อมซับวูฟเฟอร์มาให้แล้ว 

ความสะดวกสบายพื้นฐานอื่นๆ ยังมีครบถ้วน เช่น กระจกไฟฟ้าออโต้ทั้ง 4 บาน กรองอากศระดับ N95 เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง มีระบนวดและระบายความร้อนที่รองก้นด้วย 

ข้อสังเกตคือ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ แต่ยังไม่แสดงผลแบบดิจิตอล ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรมี เพราะยางอะไหล่ท้ายรถก็บดบังสายตาไปบางส่วนแล้ว หากเพิ่มระบบกล้องมองหลังขึ้นมา จะช่วยเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกสบายมากขึ้น 

อัตราสิ้นเปลืองการขับขี่

ความรู้สึกหลังการลองขับประมาณ 300 กม. พบว่าลักษณะช่วงล่างติดแข็งกระด้าง เพราะยังเป็นรถตั้งบนพื้นฐานแชสซีส์ ที่มีช่วงล่างหน้าแบบปีกนกคู่ กับช่วงล่างหลังแบบมัลติลิ้งค์ที่ยังมีคานแข็งท่อนใหญ่ แบบรถออฟโรดสายลุยที่เน้นความแข็งแกร่งไม่เน้นนิ่มนวล ทำให้การขับขี่บนทางเรียบอาจจะสะเทือนสำหรับสายบูติคไปบ้าง ขณะที่การทำงานของเครื่องดีเซลนั้น ในช่วงรอบเดินเบานิ่งเงียบ สั่นน้อย เสียงเบา โดยใช้แท่นเครื่องแบบลูกยางเท่านั้น ไม่ใช่ไฮโดรลิคแต่อย่างใด มันมีความนิ่งมากจนสามารถวางขอบเหรียญ 10 บนแบตเตอรี่ในห้องเครื่องได้โดยที่ไม่ล้มเลย

ส่วนสมรรถนะการขับขีไมมีปัญหาเลย เพราะมันสามารถเร่งแซงได้ทันใจ กดแป้นเปลี่ยนเกียร์เรียกแรงบิดออกมาได้หวือหวา โดยที่สามารถลากรอบได้นาน และการเดินทางตลอดทริปนี้ เรามีการขับขี่แบบหลากหลายทั้งในเมือง นอกเมือง เร่งแซงรวดเร็ว ไม่เน้นประหยัดน้ำมัน โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยทำได้ 11.7 กม./ล. หากขับแบบคนทั่วไปที่ไม่ได้เค้นสมรรถนะสุดขีดแบบนี้ ก็คงทำอัตราสิ้นเปลืองได้เกิน 12 กม./ล.อย่างแน่นอน

สรุปรีวิว GWM TANK 300 DIESEL รุ่นย่อย Ultra มีออพชั่นน่าพอใจ มีสมรรถนะสะใจ การทำงานเงียบเสียงเบา สั่นสะเทือนน้อย ยังให้รูปทรงสวยงามเหมือนเดิม เหลือเพียงแค่ราคาว่าจะเปิดมาเท่าไหร่ ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าอยู่ที่ 1.0 -1.3 ล้านบาท ถ้าทำราคาได้แบบนี้ มีลุ้นขายดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

Mr.Argus

Mr.Argus

Toyota
Honda
Nissan
Mitsubishi
Mazda
Suzuki
Isuzu
Ford
Mercedes-Benz
BMW
Aston Martin
Audi