window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_breadcrumb_above_pc', [ 728, 90 ], 'div-gpt-ad-1685678150997-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678150997-0'); });

Tesla ถูกฟ้อง เพราะมีระบบ AutoPilot - FSD เพื่อ 'สร้างความตื่นเต้น' ให้ตลาด ไม่ช่วยให้ปลอดภัยจริง

Salin · Dec 27, 2022 06:15 PM

Tesla ถูกฟ้อง เพราะมีระบบ AutoPilot - FSD เพื่อ 'สร้างความตื่นเต้น' ให้ตลาด ไม่ช่วยให้ปลอดภัยจริง 01

  • Autopilot และ Full Self-Driving เป็นการโฆษณาเกินจริง?
  • Tesla ทำทั้งหมดเพื่อ “สร้างความตื่นเต้น” ให้กับตลาดอีวี
  • Tesla ถูกฟ้องเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว
  • AutoPilot ยังไม่สามารถขับเองได้โดยไม่ต้องช่วย

Tesla (เทสล่า) ถูกฟ้องร้องแบบกลุ่มโดยถูกกล่าวหาว่า เทสล่าทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสาธารณะในเรื่องของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Autopilot และ Full Self-Driving 

Tesla ถูกฟ้อง เพราะมีระบบ AutoPilot - FSD เพื่อ 'สร้างความตื่นเต้น' ให้ตลาด ไม่ช่วยให้ปลอดภัยจริง 02

Autopilot และ Full Self-Driving เป็นการโฆษณาเกินจริง

รายงานจากรอยเตอร์สระบุว่า การฟ้องร้องของ Briggs Matsko ซึ่งเป็นโจทก์ ได้กล่าวหา Tesla และซีอีโอ Elon Musk สำหรับการกล่าวอ้างหลอกลวงและโฆษณาเกินจริง ในคำที่ว่าทั้งสองเทคโนโลยีนี้สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ หรือ “ใกล้สมบูรณ์” (ใช้คำว่า just around the corner) 

window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [ 728, 90 ], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });

โดยทั้งเทสล่าและมัสก์รู้ดีว่าเทคโนโลยีนี้ไม่ได้เป็นไปตามคำกล่าวอ้าง จึงทำให้รถที่มีอย่าง Model 3 และ Model S นั้นไม่ปลอดภัย

Tesla ถูกฟ้อง เพราะมีระบบ AutoPilot - FSD เพื่อ 'สร้างความตื่นเต้น' ให้ตลาด ไม่ช่วยให้ปลอดภัยจริง 01

Tesla ทำทั้งหมดเพื่อ “สร้างความตื่นเต้น” ให้กับตลาดอีวี

Matsko กล่าวว่าที่ Tesla ทำทั้งหมดเพื่อ “สร้างความตื่นเต้น” ให้กับตลาด รวมถึงดึงดูดการลงทุนเพิ่มเติม, เพิ่มยอดขาย, ผลักดันราคาหุ้นของบริษัท, หลีกเลี่ยงการล้มละลาย และกลายเป็น “ผู้เล่นหลัก” ในรถยนต์ไฟฟ้า โดยเขากล่าวว่า

“Tesla ยังไม่ได้ผลิตอะไรเลย แม้กระทั่งการที่จะผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง” เขากล่าว มีรายงานว่าเขาต้องจ่ายเพิ่ม 5,000 ดอลล่าร์ (ราว 1.7 แสนบาท) สำหรับระบบ Enhanced Autopilot ใน Tesla Model X ปี 2018 ของเขา 

Tesla ถูกฟ้อง เพราะมีระบบ AutoPilot - FSD เพื่อ 'สร้างความตื่นเต้น' ให้ตลาด ไม่ช่วยให้ปลอดภัยจริง 02

ยังมีคดีฟ้องร้องกันขึ้นมาในซานฟรานซิสโก เรียกร้องค่าเสียหายสำหรับลูกค้าที่ซื้อหรือเช่ารถ Tesla ตั้งแต่รุ่นปี 2016 ที่มาพร้อมระบบ Autopilot, Enhanced Autopilot, และ Full Self-Driving

คดีดังกล่าวระบุเพิ่มเติมว่า เจ้าของเทสล่าที่ได้รับการอัพเดตซอฟต์แวร์ “นั้นมีพฤติกรรมที่เหมือนวิศวกรทดสอบที่ไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างมีประสิทธิภาพ” ซึ่งพบ "ปัญหามากมาย" เช่น การรับมือพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น การที่ไม่สามารถเลี้ยวแบบง่าย ๆ ได้ รวมถึงการขับฝ่าไฟแดง

Tesla ไม่ได้มีความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีนี้ โดยอาจเป็นนโยบายของค่ายที่ไม่มีฝ่ายสื่อตั้งแต่ปี 2020 แล้ว

อ่านเพิ่มเติม : Tesla ฟ้อง เจ้าของ Model X ข้อหาที่เรียกรถตัวเองเป็น “ของเล่นฆ่าตัวตาย” พร้อมเรียกค่าเสียหาย

Tesla ถูกฟ้อง เพราะมีระบบ AutoPilot - FSD เพื่อ 'สร้างความตื่นเต้น' ให้ตลาด ไม่ช่วยให้ปลอดภัยจริง 03

Tesla ถูกฟ้องเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว

ทั้งระบบ Autopilot และ Full Self-Driving ต่างมีข้อสงสัยกันไม่หยุดตั้งแต่การเปิดตัวเทคโนโลยีนี้ โดยเฉพาะกับ Autopilot ที่ถูกฟ้องร้องหลายคร้งเกี่ยวกับความปลอดภัยของเทคโนโลยีที่ไม่ปลอดภัยและทำไม่ได้อย่างที่เคลมไว้

Tesla และ Musk ต่างปกป้อง Autopilot มาโดยตลอด โดยจะตอบโต้ว่าผู้ขับขี่นั้นไม่เข้าใจว่าระบบนั้นสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้

Tesla ถูกฟ้อง เพราะมีระบบ AutoPilot - FSD เพื่อ 'สร้างความตื่นเต้น' ให้ตลาด ไม่ช่วยให้ปลอดภัยจริง 04

AutoPilot ไม่สามารถขับเองได้

Autopilot นั้นเป็นเพียงระบบช่วยเหลือการขับขี่ในระดับ 2 เท่านั้น ซึ่งอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดได้จากชื่อของมัน โดยผู้ขับขี่ยังคงต้องใช้ทั้งสองมือจับพวงมาลัยอยู่ตลอดเวลา

เทคโนโลยีนี้ทำให้รถสามารถเร่งและเบรกได้อัตโนมัติในเลนที่เลือกไว้ ส่วน Full Self-Driving คือ Autopilot ในเวอรชั่นที่อัพเกรดขึ้นมา ซึ่งสามารถอ่านป้ายและไฟจราจร รวมถึงยังสามารถเปลี่ยนเลนได้โดยไม่ต้องอาศัยผู้ขับขี่

โดยทั้งสองเทคโนโลยีนี้ก็ยังไปไม่ถึงการขับขี่อัตโนมัติระดับ 5 ซึ่งไม่ต้องอาศัยการควบคุมใด ๆ จากมนุษย์ และในตอนนี้ทำได้ใกล้เคียงที่สุดคือระดับที่ 3 ซึ่ง Honda คือผู้ผลิตรถรายแรกที่มีระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่รองรับถึงระดับนี้อย่างเป็นทางการ

อ่านเพิ่มเติม : Tesla ถูกสั่งคืนเงิน Model 3 หลังเจ้าของบอกว่ามันขับเหมือน "คนเมาพึ่งหัดขับรถ"

window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [ 728, 90 ], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });
window._taboola = window._taboola || []; _taboola.push({ mode: 'thumbnails-a-2x2-stream', container: 'taboola-below-article-thumbnails', placement: 'Below Article Thumbnails', target_type: 'mix' });

ประเมินราคารับซื้ออย่างยุติธรรม มีราคากลาง

2023 Tesla Model 3 Rear Wheel Drive

แลก

เพิ่มรถของคุณ

ไม่อยากรอแลกรถ?   ขายรถ
Electric Cars Thailand