จากการศึกษาครั้งล่าสุดโดยเกี่ยวกับเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับรถยนต์หลายคัน พบว่าเจ้าของ Tesla (เทสล่า) มีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุกับรถเทสล่าน้อยกว่าในรถคันอื่นที่เขาเป็นเจ้าของอยู่ถึง 50% เมื่อเทียบกับเจ้าของรถยนต์แบรนด์อื่น ๆ
เป็นการศึกษาโดย Cambridge Mobile Telematics (CMT) ซึ่งทำการรวบรวมข้อมูลเทเลเมติกส์ ซึ่งเป็นวิธีตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ขับขี่ในรถยนต์หลายล้านคันผ่านตัวติดตามในรถยนต์ แอพในสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อื่น ๆ
- เทียบพฤติกรรมผู้ขับ EV กับรถคันอื่น ๆ ที่เป็นเจ้าของ
- Tesla เกิดอุบัติเหตุน้อยกว่ารถคันอื่น 50% ตรงข้าม Porsche
- การค้นพบในประเด็นอื่น ๆ
- ทำไมถึงขับ EV แล้วปลอดภัยกว่า
- ไม่นับรวม Autopilot
เทียบพฤติกรรมผู้ขับ EV กับรถคันอื่น ๆ ที่เป็นเจ้าของ
จากที่สถาบันประกันภัยเพื่อความปลอดภัยบนทางหลวงสหรัฐฯ (IIHS) ได้จัดการประชุม Electrified Future Conference เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน โดย CMT ได้เผยถึงงานวิจัยที่ว่า พฤติกรรมและความปลอดภัยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรสำหรับผู้ขับรถ EV เมื่อเทียบกับรถคันอื่น ๆ
น่าสนใจที่ว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้ามักจะเกิดอุบัติเหตุกับ EV ของพวกเขาน้อยกว่ารถคันอื่น ๆ ที่เขาเป็นเจ้าของ แต่มีข้อมูลที่แตกต่างกันมากในแต่ละแบรนด์
Tesla เกิดอุบัติเหตุน้อยกว่ารถคันอื่น 50%
ตัวอย่างเช่น งานวิจัยพบว่า เจ้าของ Tesla จะมีอุบัติเหตุที่เกิดกับเทสล่าน้อยกว่ารถคันอื่นที่เขาเป็นเข้าของอยู่ราว 50% ซึ่งตรงข้ามกันกับเจ้าของอีวีแบรนด์ Porsche โดยสิ้นเชิง
Ryan McMahon รองประธานฝ่ายกลยุทธ์ของ CMT ให้ความเห็นเกี่ยวกับผลการวิจัยว่า
ข้อค้นพบใหม่ที่น่าสนใจที่สุดคือ การเปรียบเทียบระหว่างผู้ขับขี่ที่ใช้ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์สันดาปภายใน เพื่อทำความเข้าใจให้มากขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงของแพลทฟอร์มรถแต่ละรูปแบบ
ในการวิจัยครั้งนี้มีการวิเคราะห์ผู้ขับขี่รถยนต์ Tesla ซึ่งเป็นเจ้าของรถอีกหลายคัน โดยผู้ขับขี่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่า 50% ขณะขับรถเทสล่าเมื่อเทียบกับรถคันอื่นที่เขาเป็นเจ้าของ
อ่านเพิ่มเติม : Tesla จดทะเบียนบริษัทในไทย
ตรงข้ามกับ Porsche
เราทำการวิเคราะห์แบบเดียวกันนี้กับผู้ที่ใช้รถ Porsche และแบรนด์อื่น ๆ ในกรณีของปอร์เช่ พบว่าผู้ขับขี่ปอร์เช่มีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุในปอร์เช่มากกว่ารถคันอื่นที่เขาเป็นเจ้าของถึง 55%
การค้นพบในประเด็นอื่น ๆ
Cambridge Mobile Telematics ยังค้นพบว่า ผู้ขับขี่ Tesla มีโอกาสที่จะเบนความสนใจไปที่โทรศัพท์น้อยกว่ารถคันอื่นถึง 21% แต่พวกเขามีแนวโน้มที่จะขับเร็วกว่ากฎหมายกำหนดถึง 9% ในกรณีเดียวกัน
ทฤษฎีที่ว่าทำไมถึงขับ EV แล้วปลอดภัยกว่า
ผู้วิจัยยังมีอีกทฤษฎีหนึ่งที่น่าสนใจ แต่อาจพิสูจน์ว่าเป็นจริงได้น้อยกว่า โดย Boston Globe ที่พบว่า
“อีกปัจจัยหนึ่งคือรถยนต์ไฟฟ้าจำเป็นจะต้องมีการจอดเพื่อชาร์จเพื่อจะขับต่อไปได้ ซึ่งอุบัติเหตุมักจะเกิดในการเดินทางที่ยาวนาน แต่ผู้ที่ใช้ Tesla นั้นต้องหยุดเพื่อชาร์จรถบ่อยกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปที่ต้องจอดเพื่อเติมน้ำมัน”
McMahon กล่าวเสริมว่า “สิ่งนี้ทำให้สร้างสภาพที่ปลอดภัยกว่าสำหรับการขับขี่เพราะมีความเหนื่อยล้าที่น้อยกว่า การเดินทางที่ไกลกว่าจะมีความเสี่ยงมากกว่า แต่การที่ต้องหยุดเพื่อชาร์จอีวีทำให้ผู้ขับขี่มีช่วงเวลาสำหรับพัก”
ไม่นับรวม Autopilot
แต่ข้อสังเกตคือ ทาง Cambridge Mobile Telematics ไม่ได้นับรวมถึงผลกระทบของระบบ Autopilot ของ Tesla ซึ่งประกอบด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตาม จากรายงานประจำปีของ Tesla เองระบุว่าอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนรถที่มี Autopilot นั้นร้อยกว่ารถที่ไม่มี Autopilot มาก
อ่านเพิ่มเติม : ระบบ Tesla Autopilot ไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพราะปลอดภัยกว่ารถทั่วไปในแดนมะกันถึง 8 เท่า!?