Tesla (เทสล่า) ส่งจดหมายผ่านทางอีเมล์ถึงพนักงานมีใจความว่ากำลังดำเนินมาตรการปลดพนักงานลง 10% และระงับการว่าจ้างงานใหม่ทั้งโลกเป็นการชั่วคราว
สำนักข่าว Reuters รายงานว่าผู้ลงนามในจดหมายคืออีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tesla ซึ่งให้เหตุผลต่อการปลดพนักงานครั้งนี้ว่าสภาวะเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ช่วงถดถอย ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของบรรดาผู้บริหารองค์กรยักษ์ใหญ่ทั่วโลก
ปัจจุบัน Tesla และบริษัทในเครือมีการว่าจ้างพนักงานเกือบ 100,000 คนทั่วโลก ซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับการเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ทำไมถึงต้องปลดพนักงานเมื่อกำลังเติบโต?
ราคาหุ้นของ Tesla ลดลงอย่างน้อย 3% หลังจากมีข่าวการปลดพนักงานดังกล่าวซึ่งบั่นทอนความเชื่อถือของนักลงทุนทั่วโลก
ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มัสก์ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงและสัญญาณของเศรษฐกิจถดถอย โดยเปิดเผยว่าเขา “รู้สึกไม่ดีกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก” แต่ไม่เคยมีการดำเนินมาตรการรับมือโดยตรงจนกระทั่งมีการส่งจดหมายว่าด้วยการปลดพนักงานและการระงับการว่าจ้างงานเพิ่มเติม
“ผมคิดว่าเรากำลังเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอย และมันจะเลวร้ายลงเรื่อย ๆ แต่มันอาจเป็นเรื่องดี เม็ดเงินถูกหว่านลงไปอย่างไร้สาระ ดังนั้น การล้มละลายเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นบ้าง” มัสก์ ให้สัมภาษณ์ไว้ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม
ก่อนหน้านี้ Tesla โพสต์จ้างงานในเว็บไซต์ LinkedIn ทั้งในฝ่ายขายและวิศวกรรมถึง 5,000 ตำแหน่งทั้งในญี่ปุ่นและเยอรมนี รวมถึงสหรัฐอเมริกา พร้อมกับเตรียมจัดงานเกี่ยวกับการจ้างงานในเซี่ยงไฮ้ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้ แต่ทั้งหมดถูกยกเลิกไปเรียบร้อยแล้ว
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Tesla ยังคงมีการปฏิบัติงานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ถึงแม้จะเผชิญกับความท้าทายหลายด้านอย่างจำนวนรถในสต็อกในสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับที่ต้องจับตามอง แต่ก็ไม่ส่งผลถึงผลประกอบการมากนัก
ขณะเดียวกัน ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกายังกำลังดิ้นรนกลับมาเปิดสายการผลิตที่โรงงานกิกะแฟคตอรี่ในนครเซี่ยงไฮ้อีกครั้ง หลังจากถูกปิดชั่วคราวเนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-18 ที่เข้มงวดสูงสุดของรัฐบาลจีน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าทำไมมัสก์ถึงรู้สึกไม่ดีต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก แต่อาจจะเกิดจากหลายปัจจัยลบผสมผสานกัน
ความวิตกกังวลของมัสก์ คล้ายกับผู้บริหารอีกหลายคน อย่างเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ JP Morgan และจอห์น วอลดรอน ประธานกรรมการของ Goldman Sachs
“พายุเฮอร์ริเคนกำลังรอเราอยู่ข้างหน้า” ไดมอน กล่าวกับสำนักข่าว Reuters เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เดเนียล ไอฟส์ นักวิเคราะห์จาก Wedbush Securities กล่าวว่า มัสก์ และ Tesla กำลังคาดการณ์อนาคต และพยายามสกัดกั้นผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ พร้อมกับพยายามรักษาผลกำไรไว้ล่วงหน้า
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });