- ทำได้ตามเป้า แต่ยังสู้เจ้าตลาดไม่ได้
- ควบคุมการผลิตเองทั้งหมด
- มีความสามารถในการปรับเปลี่ยน
- คุมราคาได้ เพราะเป็นดีลเลอร์เอง
- วิธีทำงานเหมือนบริษัทซอฟท์แวร์
ถึงแม้ Tesla (เทสล่า) จะยังไม่มียอดขายในอเมริกาที่แซงค่ายรถยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota หรือ GM แต่ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 ก็สามารถทำยอดขายในสหรัฐฯ ได้ถึง 309,000 คัน ซึ่งบรรลุเป้าหมายที่เทสล่าตั้งไว้ในทุกไตรมาส
แต่ในสถานการณ์ขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ในขณะนี้ ไม่มีค่ายรถใดที่ทำยอดได้ตามเป้าหมาย แต่ทำไมเทสล่าถึงทำได้ ?
ปี 2021 ขายได้เกือบ 1 ล้านคันในสหรัฐฯ
จากสถิติในไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 เทสล่าสามารถผลิตรถอีวีได้ถึง 306,000 คัน และสามารถส่งมอบได้กว่า 309,000 คัน ทำให้ยอดขายรวมของทั้งปี 2021 ของเทสล่าอยู่ที่เกือบ 1 ล้านคัน
เราอาจคิดว่าตัวเลขของเทสล่านั้นดูน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota และ GM แต่ความจริงแล้วก็ไม่ได้ต่างกันขนาดนั้น เพราะอย่าง GM ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 มียอดขายกว่า 400,000 คัน แต่มีรถอีวีทั้งหมด 26 คันเท่านั้น
ส่วน Toyota ชนะ GM ไปด้วยยอดขายในสหรัฐฯ ราว 460,000 คันในไตรมาสที่ 4 ปีเดียวกัน
ทำเองทุกอย่าง
รายงานจาก Automotive News ชี้ถึงประเด็นความสามารถของเทสล่าในการดีไซน์ชิ้นส่วนและส่วนประกอบต่าง ๆ เองภายในองค์กร ทำให้มีความได้เปรียบเหนือผู้ผลิตรายอื่น ๆ
เทสล่ายังสามารถปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนหรือสลับไปใช้ชิ้นส่วนใหม่ได้ทันที ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นอาจเลือกที่จะไม่ทำ หรือไม่สามารถทำได้
เทสล่ายังสามารถส่งมอบรถยนต์ได้โดยที่ชิ้นส่วนบางชิ้นขาดหายไป แต่สามารถนำมาติดตั้งภายหลังได้โดยไม่เกิดความเสียหายใด ๆ กับการใช้งาน อาจทำให้คุณสมบัติบางอย่างหายไป หรืออย่างน้อยก็หายไปชั่วคราว
ตัวอย่างเช่น รถเทสล่าบางคันถูกส่งมอบไปแล้วโดยภายในรถไม่มีช่องเสียบ USB หรือเป็นเวอร์ชั่นที่ประสิทธิภาพน้อยกว่า หรือกระทั่งการหายไปของที่หนุนหลังบริเวณที่นั่งคู่หน้า
หาชิปไม่ได้ ก็ใช้ชิปอันอื่นแทน
ซีอีโอของเทสล่าอย่าง Elon Musk กล่าวว่าเทสล่าสามารถใช้ชิปส์อื่นทดแทนชิปส์เดิมที่หายากหรือหาซื้อไม่ได้
ซีอีโอของ VW Group, Herbert Diess กล่าวว่าเทสล่าสามารถใช้เวลาเพียงไม่กี่อาทิตย์ในการเขียนซอฟท์แวร์ใหม่และเปลี่ยนไปใช้ชิปตัวใหม่ได้ทันที
คุมราคาเองได้
จากรายงานยังระบุว่าการที่เทสล่าปรับราคารถขึ้นมาในช่วงนี้ เพราะเทสล่าไม่ได้พึ่งพารูปแบบตัวแทนจำหน่ายแบบค่ายรถอื่น จึงสามารถควบคุมราคาเองได้
พอความต้องการรถยนต์ของเทสล่านั้นสูงขึ้น อาจต้องใช้เวลาเพื่อรอส่งมอบนานขึ้น เทสล่าจึงสามารถขึ้นราคารถเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้ โดยที่ไม่กระทบต่อความต้องการในลักษณะที่การส่งมอบจะลดลง
เทสล่าเหมือนบริษัทซอฟท์แวร์มากกว่าบริษัทรถยนต์
ถ้าจะขยายความเพิ่มขึ้นคงเป็นเพราะเทสล่าเป็นเหมือนบริษัทซอฟท์แวร์มากกว่าบริษัทรถยนต์ เทสล่ามีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ ไม่ได้อิงตามอายุของแต่ละโมเดล การไมเนอร์เชนจ์ ไปจนถึงการออกแบบรุ่นใหม่
แต่เทสล่าจะเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์ทุกครั้งเมื่อมีความจำเป็น ส่วนซอฟท์แวร์ภายในนั้นก็สามารถอัพเดทได้เป็นประจำผ่านระบบ over-the-air ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
เทสล่ายังเน้นในด้านซอฟท์แวร์และการพัฒนาในแนวดิ่งซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการปรับตัวและเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ เช่น ปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลก
และเทสล่ายังเป็นเจ้าของและจัดการเครือข่ายเครื่องชาร์จสาธารณะ รวมถึงร้านค้าและศูนย์บริการด้วยตัวเอง
อีลอน มัสก์ กล่าวแก่ Automotive News ว่า “เราได้ออกแบบและสร้างรถมากกว่าผู้ผลิตรถรายอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะไปในแนวทางการผลิตแบบเดิม อย่างที่ผมเรียกว่า วิศวกรรมแคตตาล็อก ซึ่งมันไม่ท้าทายเท่าไหร่นัก”
อ่านเพิ่มเติม : ชาวอเมริกันคลอดลูกบนรถ Tesla ขณะอยู่ในโหมด Autopilot
Ambrose Conroy ซีอีโอของ Seraph Consulting บริษัทที่ปรึกษา กล่าวถึงเทสล่าเพิ่มเติมว่า “เทสล่าได้ควบคุมความเป็นไปที่เกิดกับรถได้ระดับที่ผู้ผลิตรถรายอื่นไม่กล้าที่จะทำ เหมือนกับที่ Henry Ford ต้องการที่จะทำกับ Model T ในตอนแรก”
เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว อุตสาหกรรมรถยนต์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จะไปในทิศทางเดียวกับเทสล่าหรือไม่ ต้องคอยติดตามกันดูครับ
อ่านเพิ่มเติม : Tesla Sentry Mode จับคนที่มาทำร้ายรถเราได้ “รอบคัน” เห็นทั้งหน้า ทั้งป้ายทะเบียน