ลองขับมาแล้ว Honda City RS
2021 Honda City Hatchback (ฮอนด้า ซิตี้ แฮชท์แบ็ก) รถอีโค่คาร์ติดเทอร์โบ ที่เปิดตัวถัง 5 ประตูเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการมาแทนที่ Honda Jazz ทำให้หลายคนออกจะเสียดายรุ่นเดิม วันนี้เราจะมาลองขับรถ 5 ประตูรุ่นใหม่ ที่เราได้ข้อสรุปแล้วว่า สามารถลืม ฮอนด้า แจ๊ส รุ่นเดิมไปได้เลย หรือเราคิดผิด?
2021 ฮอนด้า ซิตี้ แฮชท์แบ็ก รุ่นที่เราทดสอบนี้เป็นตัวท็อปสุด RS ราคา 749,000 บาท ที่จัดว่าสูงเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มอีโค่คาร์ (เป็นรองแค่ Mazda 2 ดีเซล) ซึ่งรถราคาสูงขนาดนี้ จะต้องมีดีกว่ารุ่นอื่นหรือไม่ ตอนท้ายบทความจะเทียบคู่แข่งให้ดูทุกรุ่นในระดับเดียวกัน
ราคา Honda City Hatchback
S+ ราคา 599,000
SV ราคา 675,000
RS ราคา 749,000
ไฮไลท์เด่นของ Honda City Hatchback
เครื่องเบนซินเทอร์โบ
ภายในกว้าง
ความอเนกประสงค์หลากหลาย
จุดที่ไม่ว้าว
ภายนอกดีไซน์สั้นและโย่ง
สิ่งแรกพบที่ขัดใจก่อนเลยก็คือ สัดส่วนตัวถังของ City Hatchback แม้จะใช้ชิ้นส่วนครึ่งคันหน้ามาจากรุ่นซีดานทั้งหมด แต่ด้านหลังที่ตัดสั้นลงกว่ารุ่นซีดานอยู่ถึง 204 มม. และยังสูงกว่า 21 มม. ด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือ ตัวถังของ City Hatchback ถูกตัดให้สั้นลงแต่กลับสูงโย่งขึ้น
ความโย่งที่มีดี
ความโย่งขึ้นที่ขัดตานี้ก็มีข้อดี เพราะทีมนักออกแบบต้องการพัฒนา City Hatchback ให้มีพื้นที่ใช้สอยใกล้เคียงกับ Jazz แนวหลังคาก็จะต้องถูกยกสูงขึ้นกว่ารุ่นซีดาน และเมื่อเราเปิดประตูเข้าไปดูภายในก็จะพบคำตอบว่าทำไม
มิติตัวถัง 2021 Honda City Hatchback RS
ความยาว (มม.)
4,349
ความกว้าง (มม.)
1,748
ความสูง (มม.)
1,488
ระยะฐานล้อ (มม.)
2,589
น้ำหนัก (กก.)
1,179
ภายในเบาะสบาย
ตัวรถภายนอกสั้นลง แต่เมื่อเข้าไปพบกับภายใน ก็ยังมีความกว้างเหมือนกับรุ่นซีดานทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เบาะหลังมีการจัดวางให้อยู่สูงกว่าเบาะหน้าแบบ Theater seat ทำให้ผู้โดยสารนั้นเมื่อยขาน้อยลง ลดโอกาสการเมารถ และให้ทัศนวิสัยตอนหลังปลอดโปร่ง แต่บานกระจกยังโปร่งสู้ ฮอนด้า แจ๊ส ไม่ได้ อยู่ดี
เบาะพับลงก็ราบ พับขึ้นก็โล่ง
การสืบทอดข้อดีจากรุ่นก่อน ยังมีอยู่บ้าง ตรงเบาะนั่งหลัง สามารถยกพับขึ้นได้แบบเดียวกับ Ultraseat อันเป็นคุณสมบัติที่ Honda Jazz ทำได้ดีมาก่อน ก็ยังตกทอดจนถึงรุ่นปัจจุบันนี้ ส่วนการพับเบาะราบเรียบ ก็ยังทำได้ดีและสะดวกสบาย โดยมีแผ่นรองหลังเป็นไม้อัดแท้ ๆ ไม่ใช่กระดาษอัด หรือฟิวเจอร์บอร์ดแต่อย่างใด อีกทั้งช่องวางของกระจุกกระจิก ยังคงตอบโจทย์ได้ดี เช่น ช่องทรงแคบข้างเบรคมือ ที่เหมาะสำหรับใส่มือถือมากกว่ารถรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน
เบาะหนังทรงสปอร์ต แต่งสีจี๊ดจ๊าดกว่าปกติ
ต้องทำใจกับวัสดุและออพชั่น
วัสดุการตกแต่งนั้น ยังคงความเป็นอีโค่คาร์ไม่ต่างจากรุ่นคู่แข่ง มีนวมนิ่มเฉพาะที่วางแขนข้างประตู และแผงหน้าคอนโซลฝั่งผู้โดยสารเท่านั้น นอกนั้นยังเป็นพลาสติกแข็งและผิวสัมผัสสากมือ ไม่หนีจากคู่แข่งมากเท่าไหร่
ส่วนออพชั่นนั้นขาดระบบความปลอดภัยด้านการเตือนก่อนชน เช่น การเตือนจุดบอด การรักษารถในเลน การช่วยเบรคอัตโนมัติ ฯลฯ ที่เรียกรวม ๆ ว่า Honda SENSING ซึ่งคาดว่าคงเก็บไว้ใส่ในตัวถังแฮทช์แบ็ก แบบ e:HEV ที่จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้
แป้นแพดเดิ้ลชิฟต์หลบซ่อนหลังพวงมาลัย
ถ้าไม่ซื้อรุ่นท็อป ออพชั่นหายไปเยอะนะ
การตกแต่งภายในอันสวยงามนี้ มีเฉพาะรุ่นท็อปเท่านั้น ถ้าคุณซื้อรุ่นรองลงไป ก็จะไม่ได้ถุงลมม่าน ไม่ได้เบาะหนังกลับ ตอนหลังไม่ได้ช่องจ่ายไฟ 12V ไม่ได้ที่วางแขนหลังกับที่วางแก้ว ไม่ได้ระบบ Honda Connect ไม่ได้ลำโพง 8 จุด และไม่ได้ของเล่นไฮเทคอย่าง แป้นแพดเดิ้ลชิฟต์ ครูสคอนโทรล กับสีแดงตรงมาตรวัด กับชุดแต่งเข้มภายนอกเล็กน้อย ทั้งหมดนี้ประหยัดเงินไปได้ 70,000 บาทถ้าหากซื้อรุ่นรอง จะคุ้มค่าเงินมั้ย ก็แล้วแต่ความจำเป็นแต่ละคนเลยครับ
ลองขับแล้วเร่งแรง
2021 Honda City Hatchback ไม่ว่ารุ่นย่อยใดก็ตาม ให้เครื่องเบนซินกำลัง 122 แรงม้า ที่เราไปลองขับแล้วพบว่าให้อัตราเร่งตีนต้นที่ทันใจมาก เหยียบแล้วพุ่งแรง หรือเมื่อเร่งแซงนั้นก็ยังเหลือใช้ กลายเป็นว่าทำให้เราลืม ฮอนด้า แจ๊สไปจนหมดสิ้น
เมื่อลองนั่งโดยสารกันหลายคน หรือมีสัมภาระหนัก ก็สามารถใช้แป้นแพดเดิ้ลชิฟต์(เฉพาะรุ่นท็อป) เพื่อทดเกียร์ลงช่วยแซงได้ ส่วนการโหมด S นั้นพบว่าเครื่องยนต์คารอบไว้ประมาณ 3,000 รอบให้พร้อมเรียกกำลังมาใช้งานได้ทันใจยิ่งขึ้นไปอีก
ช่วงล่างนิ่มกว่าที่คิด
การเป็นรถที่มีพละกำลังสูงสุดในบรรดาเครื่องเบนซินระดับเดียวกัน ทำให้เบรคและช่วงล่างต้องรับภาระหนักที่ความเร็วสูง แม้ว่าจะนิ่มไปสักเล็กน้อย แต่ถือว่ายังเอาอยู่ทุกคอสะพาน ขับในเส้นมอเตอร์เวย์ที่ความเร็ว 100 กม./ชม.ผ่านได้ทุกคอสะพานโดยไม่โดดลอย นั่นก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานของคนทั่วไปแล้ว แค่อยากให้เพิ่มเบรคและน้ำหนักพวงมาลัยอีกนิดเดียวเท่านั้นเอง จะสร้างความมั่นใจได้มากกว่านี้
กินน้ำมันในสถานการณ์จริง ไม่ตบแต่งตัวเลข
การสิ้นเปลืองเชื้องเพลิงนั้น แน่นอนว่าเป็นไปตามน้ำหนักเท้า ซึ่งเราไม่ได้ขับย่องไปอวดตัวเลขความประหยัดอยู่แล้ว โดยในการใช้งานจริงของเรา เป็นการใช้ในเมืองเป็นหลัก มีผู้โดยสารและโหลดสัมภาระ พร้อมกับเร่งแซงคนอื่นทุกครั้งที่มีโอกาส ผลที่ได้คือ หน้าจอโชว์ผลอัตราสิ้นเปลืองระดับ 11.5 กม./ล. นี่คือตัวเลขแย่สุดที่ทำได้ หากผู้ใช้ทั่วไปขับแบบไม่เร่งแรงมาก ก็น่าจะทำได้ระดับ 14 กม./ล. ได้อย่างไม่ต้องเกร็ง
2021 Honda City Hatchback RS
เครื่องยนต์
เบนซิน 3 สูบ เทอร์โบ
ขนาด
1.0 ลิตร
พละกำลัง
122 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที
แรงบิด
173 นิวตันเมตรที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลัง
เกียร์อัตโนมัติ CVT
อัตราบริโภคน้ำมัน
23.3 กม./ลิตร
รองรับเชื้อเพลิง
E20
อัตราส่วนกำลัง/แรงม้า
9.66 กก./แรงม้า
สรุปว่าน่าใช้ แต่อย่าลืมคู่แข่งมีเยอะ
การจะหารถเก๋งขนาดเล็กที่ทำได้ครบทั้งความแรง ความกว้าง และความสะดวกสะบายทันสมัยครบ พร้อมการตกแต่งแนวสปอร์ตที่จับต้องได้ ใช้งานได้จริง เพียงแต่ว่าข้อเสียหลักคือ ขาดระบบความปลอดภัยก่อนการชน การกินน้ำมันดุไปหน่อย และราคาเกินเอื้อมไปหน่อยสำหรับบางคน ซึ่งยังมีคู่แข่งที่ทำได้ดีกว่าหรือเด่นไปอีกด้านหนึ่งดังต่อไปนี้
Toyota Yaris ราคา 709,000 บาท
รถอีโค่คาร์คู่แข่งหลัก ที่ออกรุ่น PLAY ที่มีสีพิเศษ Ice Pink Metallic ล้ออัลลอยปัดเงาใหม่ Dark Mulberry และภายในเพิ่มเบาะหนังทูโทนขาว-ดำ พร้อมตกแต่งสีตามภายนอก Dark Mulberry จำกัดเพียง 1,500 คัน ยังใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร กำลัง 92 แรงม้า แรงบิด 102 นิวตันเมตร ที่มีข้อดีตรงได้สีสันแปลกใหม่ เครื่องยนต์ทนทานไว้ใจได้
Mazda 2 ราคา 799,000 บาท
รถอีโค่คาร์ที่ราคาสูงที่สุดในไทยตอนนี้ เพราะใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่ให้กำลัง 105 แรงม้า แรงบิดเหลือเฟือที่ 250 นิวตันเมตร รุ่นปรับปรุงในปี 2021 ล่าสุดได้เพิ่มกล้อง 360 องศา ได้แป้นแพดเดิ้ลชิฟต์ ยังคงราคาเดิม พร้อมได้ดีไซน์แนวสปอร์ตหรู ภายในที่ใช้วัสดุดี มีข้อเสียตรงความกระด้างและแคบเล็กน้อย
Suzuki Swift ราคา 629,000 บาท
รถที่ได้ออพชั่นสุดคุ้มในราคาเท่านี้ ให้ถุงลม 6 ใบ หน้าจอสัมผัสใหญ่ขึ้นเป็น 8 นิ้ว ล้อแม็กซ์ขอบ 16 นิ้วที่ปัดเงาสวยขึ้น ได้พอร์ต HDMI มาให้อีก ส่วนเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 83 แรงม้า กับแรงบิด 108 นิวตันเมตรนั้น มีแค่พอใช้งาน เน้นประหยัด คนชอบซิ่งอาจจะไม่ถูกใจ