Toyota bZ4x (โตโยต้า บีแซดโฟร์เอ็กซ์) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของโตโยต้าหลังจากให้คู่แข่งทำรถยนต์ไฟฟ้ามานาน

หลังจากการเปิดตัวรถต้นแบบ Toyota bZ4x ไปเมื่อต้นปี 2021 ทางโตโยต้ายืนยันว่าจะนำออกขายจริงปลายปี 2022 เลื่อนจากกำหนดการเดิมที่เป็นกลางปี

โดยจะเริ่มขายรถในไตรมาสที่ 4 ของปี 2022 กำหนดให้ Toyota bZ4x เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Hyundai Ioniq 5 และ Kia EV6

ชอว์น ฮานเลย์ ฝ่ายขายของ Toyota Australia พูดในช่วงต้นปี 2021 ถึงกรณีการขาดแคลนวัสดุสำหรับรถยนต์สันดาปและไฮบริดเกิดการล่าช้าในการขนส่งวัสดุ ว่าไม่มีการล่าช้าที่มีผลต่อรถยนต์ไฟฟ้า และกำลังเตรียมรับมือกับอนาคตอันใกล้นี้แล้ว

“ในตอนนี้ แผนของเราก็คือดำเนินตามแผนสำหรับรถยนต์ตระกูล bZ ต่อไป และเวลาที่จะวางขายจะอยู่ประมาณช่วงไตรมาสที่ 4 ปีหน้า” ฮานเลย์กล่าวเพิ่มเติม

อ่านเพิ่มเติม : Toyota ยืนยันผลิต bZ4X รถเอสยูวีไฟฟ้าออกขาย แต่ทำตลาดแบบ “ค่อยเป็นค่อยไป”

bZ4x ถูกวางตัวให้เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Hyundai Ioniq 5, Kia EV6, Mercedes-Benz EQB, Nissan Ariya, Tesla Model Y และ Volvo XC40 Recharge

แต่อย่าเพิ่งคาดหวังว่า bZ4x จะเป็นตัวเปลี่ยนทิศทางตลาด ฮานเลย์ได้กล่าวเสริมอีกว่า “ราคาของ bZ4x อาจจะสูงกว่าที่คาดไว้ เหมือนกับวันที่ Prius เปิดตัวในปี 2001 นั่นแหละ” 

ฮานเลย์ ได้ให้เหตุผลว่า มาจากต้นทุนของการวิจัยและพัฒนา ในด้านต้นทุนและกำไร เช่นเดียวกับตอนเริ่มมีรถยนต์ไฮบริด

ต้องใช้เวลาสักพักเพื่อสามารถควบคุมต้นทุนได้ แล้วราคาจะจับต้องได้มากขึ้น แต่ไม่น่าเกิน 20 ปี รถยนต์ไฟฟ้าจะกลายเป็นหนทางของการเดินทางที่ยั่งยืน

รถยนต์ในซีรี่ส์ bZ จะเปิดตัวทั้งหมด 7 รุ่นภายในปี 2025 โดยใช้พื้นฐานแพลทฟอร์มเดียวกัน คาดว่าจะเปิดตัวปีละ 2 รุ่น

อ่านเพิ่มเติม : Toyota เผยหมัดเด็ด แบตเตอรี่ของ bZ4X จะยังมีความจุอยู่ที่ 90% แม้ผ่านไปแล้ว 10 ปี

รถยนต์ไฟฟ้าที่ว่ามาทั้ง 7 รุ่นจะเป็นพื้นฐานของโตโยต้าสำหรับแผนการขยายเป็นผลิตภัณฑ์ไฟฟ้ากว่า 15 อย่าง ในนานาประเทศ ภายในปี 2025 เช่นเดียวกัน

ยกตัวอย่างเช่น “Ultra-Compact BEVs” เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับใช้งานในเมืองใหญ่และบริษัทที่ทำบริการ ride and share (ในไทยเช่น Haup Car, CU Ha:mo เป็นต้น) 

แพลทฟอร์มของ Toyota bZ4x ได้พัฒนาร่วมกับ Subaru ในชื่อ e-TNGA ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ส่งผลให้ bZ4x นอกจากการขับขี่แล้ว มีพื้นที่วางขาด้านหลังเทียบเท่ารถยนต์ D-segment เลยทีเดียว

แต่ไม่ได้ร่วมพัฒนาเพียงแพลทฟอร์มรถเท่านั้น ยังรวมถึง ระบบขับสี่จาก Subaru, ระบบการบังคับเลี้ยว, การชาร์จไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์ และระบบการคำนวณระยะทางที่เหลือในตอนที่อากาศเย็น

ส่วนในด้านคู่แฝดอย่าง Subaru ที่มีชื่อรุ่นว่า Solterra นั้นยังไม่มีแผนในการวางขาย

การเปิดขายรถยนต์ไฟฟ้าจากโตโยต้านับว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญของวงการยานยนต์เลยทีเดียว แต่หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไรก็ต้องติดตามกันต่อไป