ผู้ขับขี่รถยนต์ท่านหนึ่งในนิวยอร์คได้รับการแจ้งภายหลังจากที่ BMW M3 ของเขาถูกบันทึกโดยกล้องจราจรแบบใหม่ที่สามารถวัดความเข้มของเสียงได้เมื่อเราขับรถผ่าน
กล้องจราจรแบบใหม่ที่สามารถวัดความดังของเสียงเมื่อขับรถผ่าน
ค่าปรับประมาณ 28,000 บาท
นอกจากสหรัฐฯ ประเทศอื่นก็มีปัญหามลพิษด้านเสียงเช่นกัน
ในไทยมีบ้างไหม?
กรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (DEP) ได้ประกาศการละเมิดกฎหมายจากการบันทึกดังกล่าว จากภาพใบสั่งที่ถูกอัพโหลดลงเพจเฟซบุ๊ค ให้เจ้าของ BMW M3 คันดังกล่าวต้องทำการปรับปรุงหรือเปลี่ยนท่อไอเสียใหม่ หรือเสียค่าปรับเป็นเงินกว่า 875 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 28,000 บาท
บางส่วนในใบสั่งระบุว่า “...รถยนต์ของคุณได้รับการระบุว่ามีท่อไอเสียที่ไม่เป็นไปตามมาตรา 386 ของกฎหมายยานพาหนะและจราจร ซึ่งห้ามไม่ให้มีเสียงรบกวนจากยานยนต์มากเกินไป รถของคุณถูกถ่ายด้วยกล้องที่บันทึกตัวรถและป้ายทะเบียน”
“นอกจากนี้ เครื่องวัดเสียงจะบันทึกความเข้มเสียงในหน่วยเดซิเบลในขณะที่รถขับผ่านกล้องไป”
ว่ากันตามกฎหมาย
หนังสือแจ้งดังกล่าวได้เรียกเจ้าของ BMW M3 ให้ไปที่กรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเพื่อทำการทดสอบเพิ่มเติม โดยจะได้รับ “โอกาสในการนำรถไปปฏิบัติตามกฎหมายของเมืองและรัฐ” เพื่อเป็นการเตือนว่าหากไม่ปฏิบัติตามนี้จะต้องเสียค่าปรับ 875 ดอลล่าร์สหรัฐฯ
มาตรา 386 แห่งกฎหมายว่าด้วยยานยนต์และจราจรรัฐนิวยอร์ก กำหนดให้ขีดจำกัดด้านเสียงอยู่ที่ 76 เดซิเบล ภายใต้ความเร็วไม่เกิน 35 ไมล์/ชม.(56 กม./ชม.) และที่ 82 เดซิเบล ที่ความเร็วมากกว่า 35 ไมล์/ชม.
ในส่วนของมอเตอร์ไซค์ก็มีกฎหมายที่คล้ายกันแต่เพิ่มขีดจำกัดขึ้นมาที่ 82 เดซิเบล ภายใต้ความเร็วไม่เกิน 35 ไมล์/ชม. และ 86 เดซิเบล ที่ความเร็วมากกว่า 35 ไมล์/ชม.
อ่านเพิ่มเติม : ขาซิ่งนิวยอร์กเตรียมหงอย! รถท่อดังจ่อถูกปรับอาน เมืองไทยน่าเอาอย่าง
คงไม่ใช่ M3 รุ่นนี้หรอกมั้ง
โครงการนำร่องรอวันใช้จริง
Road & Track สื่อด้านยานยนต์ของอเมริการายงานถึงกล้องที่จับเสียงเครื่องยนต์ว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องในนิวยอร์กตั้งแต่กันยายนของปีที่แล้ว ซึ่งจะนำมาประเมินอีกครั้งในเดือนมิถุนายนปีนี้
ยังมีเมืองและประเทศอื่นที่มีโครงการแบบนี้
นิวยอร์กไม่ใช่ที่แรกในสหรัฐฯ ที่ทดลองใช้เทคโนโลยีกล้องบันทึกความดังของเสียง แต่เป็นที่เมืองน็อกซ์วิลล์ ที่รัฐเทนเนสซีก็อยู่ในโครงการนำร่องเพื่อลดจำนวนรถยนต์และรถบรรทุกที่มีเสียงดังเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกันเมืองหลวงของฝรั่งเศสอย่างปารีสก็อยู่ในระหว่างการทดลองที่ควบคุมความดังของเสียงในเมืองที่ชื่อว่ามีเสียงดังที่สุดในยุโรป
โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตั้ง “เรดาร์วัดเสียง” ไว้จำนวนหนึ่งในเมือง และกำลังทดลองว่าพวกเขาสามารถระบุป้ายทะเบียนของรถที่เสียงดังเกินเกณฑ์ที่ขับผ่านได้ไหม และบทลงโทษในปารีสจะเริ่มเป็นค่าปรับที่ 135 ยูโร หรือประมาณ 5,000 บาทในปี 2023
เว็บไซต์รายงานค่าระดับเสียงจากกรมควบคุมมลพิษ
ไทยเอาบ้างไหม?
ในเมืองหลวงของประเทศไทยอย่างกรุงเทพมหานครในช่วงเวลาเร่งด่วนจะมีรายงานค่าระดับเสียงจากกรมควบคุมมลพิษอยู่ระหว่าง 55-75 เดซิเบล
ส่วนบริเวณที่การจราจรมีเสียงดังมากที่สุด คือบริเวณถนนดินแดงมีค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงอยู่ระหว่าง 71.6-81.6 เดซิเบล จากการวัดในปี 2562 ซึ่งมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ 70 เดซิเบล ซึ่งหากไทยมีกล้องที่วัดเสียงเครื่องยนต์ก็อาจช่วยลดมลพิษของเสียงในเมืองได้บ้าง แต่ปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายหรือเปล่านะ…
อ่านเพิ่มเติม : เตือนภัยจอดรถลับตาคนระวังท่อไอเสียหาย - พาชมไส้ในดูโลหะมีค่าจูงใจหัวขโมย
หรือลองรับชมวิดิโอของรถคันนี้ ไม่มีท่อดังแน่นอน