รถหรูมือสองคือความเจ็บปวดของคนชอบรถเก่าอย่างหนึ่ง เพราะมันเป็นการซื้อถูกแต่ซ่อมแพง การซื้อถูกมาจากรถปีเก่า เข้าสู่ช่วงอายุขัยเริ่มซอมหนัก จนเจ้าของเดิมไม่อยากซ่อม ทำให้เกิดการซ่อมแพงตามมาในหลายรุ่น แต่ไม่ใช่กับรถ Lexus LS430 (เลกซัส แอลเอส430) รุ่นนี้
ประวัติ LS430
Lexus LS430 รหัสตัวถัง UCF30 - F31 เป็นเจเนเรชันที่ 2 ของตระกูล LS สร้างขึ้นมาเพื่อแย่งลูกค้าจาก Mercedes-Benz S-class, BMW 7-series และ Audi A8 ด้วยการชูจุดเด่นความหรูหราแบบเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น มีคุณภาพน่าเชื่อถือได้ โดยยังคงความไฮเทคด้วยฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่ยังคงทันสมัยจนถึงปัจจุบัน
Lexus LS430 เข้ามาขายในไทยด้วยตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในนามของบริษัท เลกช์ซัส กรุงเทพ จำกัด เปิดตัวในบ้านเราเมื่อปี 2002 แบบนำเข้าสำเร็จรูปทั้งคันจากญี่ปุ่น
ขนาดใหญ่ วงเลี้ยวแคบ
Lexus LS430 ออกแบบโดยละทิ้งความเหลี่ยมจากรุ่นเดิมที่ขายมานาน 10 ปีแล้ว ปรับสไตล์ให้โค้งมน และหนาแน่นกว่าเดิม ด้วยมิติตัวถัง ความยาว 5,015 มม. ความกว้างรวม 1,830 มม. ความสูง 1,490 มม. และมีฐานล้อยาวถึง 2,925 มม. ขณะที่มีวงเลี้ยวแคบเพียง 5.2 มม.นับว่าแคบมาก เมื่อคิดว่ารถรุ่นนี้ใช้ล้อและยางขนาด 225/55R17
สเปคเครื่อง 3UZ
ได้สเปคเครื่องยนต์เบนซินรหัส 3UZ-FE V8 ขนาด 4.3 ลิตร ให้กำลัง 277 แรงม้า กับแรงบิด 417 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ภายใน 6.3 วินาที มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยเคลมไว้ที่ 8.3 กม./ลิตร ด้วยราคา 7,645,000 บาท นับว่าเป็นรถญี่ปุ่นที่แพงสุดในประเทศไทย ณ ขณะนั้น แต่ก็แลกมาด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย จนไม่น่าเชื่อว่านี่มันคือรถเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
ออพชั่นยังไม่ล้าสมัย
ออพชั่นเด่นในรถ Lexus LS430 รุ่นนี้ประกอบด้วย ไฟหน้า HID ปรับระดับสูงต่ำ และเลี้ยวตามรถได้เอง มีกระจกมองข้างกันน้ำฝน และพับลงอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง และใช้กุญแจแบบ Keyless มาตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว
ทางด้านระบบความปลอดภัย นอกจากพื้นฐานอย่างระบบควบคุมการทรงตัวแล้ว ยังได้ถุงลมนิรภัยจำนวน 8 จุด โดยใส่เพิ่มมาตรงตำแหน่งหัวเข่าของคนขับและผุ้โดยสารตอนหน้า อันเป็นมาตรฐานที่ใช้กันจนถึงทุกวันนี้
ออพชั่นภายในยังมี เบาะหนังฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ตำแหน่ง พร้อมจำตำแหน่ง 3 ที่นั่ง ให้แอร์ออโต้ปรับส่ายได้ แยกอุณหภูมิได้ มีระบบกรองอากาศในตัวแล้ว ได้เครื่องเสียง Mark Levinson พร้อมลำโพง 11 ตัวอันเป็นมาตรฐานจนถึงทุกวันนี้ และมีไฟเรืองแสงในห้องโดยสาร อันเป็นต้นแบบให้ Ambient light ในปัจจุบันอีกด้วย
โฉมไมเนอร์เชนจ์
Lexus LS430 มีราคาตอนเปิดตัวอยู่ที่ 7,645,000 บาทต่อมาในปี 2004 ได้มีการไมเนอร์เชนจ์ใหม่ เปลี่ยนไฟหน้าปลายแหลมดูปราดเปรียวขึ้น เปลี่ยนกันชนหน้าที่มีไฟตัดหมอกแบนยาวกว่าเดิม เปลี่ยนลายไฟท้ายจากโคมส้ม เป็นโคมไฟเลี้ยวขาว
ส่วนสเปคเครื่องเพิ่มกำลังขึ้นจาก 277 เป็น 282 แรงม้า เปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่เป็น 6 สปีด ควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ Super ECT พร้อมฟังก์ชั่น Sequential shift เล่นระดับเกียร์ได้เอง เพิ่มขนาดยางกว้างเป็น 255 รับกับล้อแม็กซ์ลายใหม่ พร้อมปรับราคาขายเป็น 7,990,000 บาท
ราคามือสองร่วงมาก
จากรถราคาเกือบ 8 ล้านบาท ตอนนี้ถูกคนรวยขายออกมาในราคาอยู่ที่ 4-5 แสนบาทในโฉมแรก และราคา 6-7 แสนบาท ในโฉมไมเนอร์เชนจ์ นับว่ายั่วใจคนซื้อต่อมาก แต่อย่าหวังว่าราคาค่าซ่อมจะถูกเพราะเห็นเป็นรถญี่ปุ่น อันที่จริงแล้ว มันใช้อะไหล่ร่วมกับโตโยต้าแทบไม่ได้เลย ซึ่งอะไหล่เฉพาะรุ่นของมัน สามารถสั่งได้จากศูนย์อยู่
อะไหล่เชียงกงหลากหลาย
ใครอยากประหยัด ก็ยังมีบริการเชียงกงเก่าจากญี่ปุ่น ในราคาที่หลากหลาย ตั้งแต่สภาพวัดดวงราคาแบกะดิน จนไปถึงสภาพสวยจากหัวตัด ในราคาเฉียดรถเยอรมัน ซึ่งเราแนะนำให้ซื้อหัวตัดเก็บไว้เป็นอะไหล่สำรองจะคุ้มที่สุด ใช้งบค่าอะไหล่ประมาณแสนบาท ในการเก็บงานชิ้นส่วนที่เสื่อมสภาพ ให้ใช้งานได้ยาว ๆ อย่างสบายใจไปอีกหลายแสนกิโลเมตร
อ่านเพิ่มเติม : ทดสอบทรมาณรถ BMW 7-Series กับ Lexus LS430 สตาร์ทโดยไร้น้ำมันเครื่อง ใครจะดับก่อนกัน