VOLT City EV (โวลต์ ซิตี้ อีวี) เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมเปิดให้จอง 1,000 คันแรกเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีให้เลือกทั้งรุ่น FOR-TWO ตัวถัง 3 ประตู และ FOR-FOUR ตัวถัง 5 ประตู
ในรุ่นท็อปของทั้งสองตัวถังที่ได้รับแพ็คเกจ Premium Deal ที่เพิ่มเงินจากรุ่นปกติเท่ากันทั้งสองรุ่นที่ 30,000 บาท จึงทำให้ทั้งสองรุ่นท็อปมีราคาดังนี้
VOLT City EV FOR-FOUR รุ่นท็อป Premium 415,000 บาท
VOLT City EV FOR-TWO รุ่นท็อป Premium 355,000 บาท
ด้วยเหตุนี้ รุ่นท็อปของทั้งสองตัวถังมีราคาต่างกันที่ 60,000 บาท ซึ่งหากมองเผิน ๆ อาจคิดว่าทั้งสองรุ่นนั้นต่างกันเพียงจำนวนที่นั่ง แต่ในความจริงแล้วมีความแตกต่างมากกว่านั้น พวกเราจึงสรุปความแตกต่าง 3 ประการของทั้งสองตัวถังที่จะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
แน่นอนว่าต้องได้ที่นั่งเพิ่มอีก 2 ที่
สิ่งแรกที่ FOR-FOUR นั้นมีมากกว่า FOR-TWO นั้นเห็นได้ชัดจากชื่อรุ่นแล้วว่าเป็นเบาะนั่งด้านหลัง เพื่อให้เห็นภาพ มิติตัวถังของทั้งสองรุ่นจะต่างกันดังนี้
VOLT City EV
FOR-TWO
FOR-FOUR
ความยาว (มม.)
2,920
3,380
ความกว้าง (มม.)
1,499
1,499
ความสูง (มม.)
1,610
1,610
ระยะฐานล้อ (มม.)
1,980
2,440
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.)
150
น้ำหนักรถ (กก.)
690
795
ด้วยระยะฐานล้อที่เพิ่มขึ้นมา 460 มม. นั้นอาจจะนึกภาพไม่ออก แต่เมื่อลองนั่งเบาะแถวหลังดูแล้ว คนที่มีความสูงในมาตรฐานชายไทยก็สามารถนั่งได้สบาย ๆ
สิ่งที่น่าสนใจของ VOLT City EV คือในรุ่น FOR-TWO จะมาพร้อม 2 ที่นั่งอย่างแท้จริง ไม่มีเบาะด้านหลังอย่างคู่แข่งอย่าง Wuling Mini EV หรือ Pocco MM
อ่านเพิ่มเติม : เทียบสเปคกันชัด ๆ Pocco MM vs Wuling Mini EV
แรงกว่า วิ่งไกลกว่าเล็กน้อย
สำหรับขุมพลังของ VOLT City EV พบว่ารุ่น FOR-FOUR จะมีกำลังและความจุแบตเตอรี่ที่มากกว่า FOR-TWO ดังนี้
FOR-FOUR มาพร้อมพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร ขับเคลื่อนล้อหลัง ขนาด 46 แรงม้า แรงบิด 102 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 16.5 kWh
ส่วน FOR-TWO มาพร้อมพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเดียวกัน ขับเคลื่อนล้อหลัง ขนาด 40 แรงม้า แรงบิด 90 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 11.8 kWh
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นนี้มีแรงดันไฟฟ้าที่ 115 โวลต์ และสามารถชาร์จไฟบ้านจาก 0-100% ได้ภายใน 5 ชั่วโมง 30 นาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 105 กม./ชม.
เบาะหนัง
สำหรับรุ่น FOR-FOUR จะให้เบาะหุ้มหนังสังเคราะห์มาให้ทุกรุ่นย่อย แต่รุ่น FOR-TWO นั้นจะเป็นเบาะหุ้มด้วยผ้า
รุ่น FOR-TWO เบาะผ้าแบบทูโทน
ส่วนที่เหมือนกันของทั้งสองรุ่นคือแม้เบาะจะหุ้มด้วยวัสดุที่ต่างกัน แต่ภายในจะมีสีทูโทนเหมือนกัน ซึ่งคาดว่าจะมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ โทนสีส้ม-ครีม และสีดำ-เทา
คาด FOR-FOUR จะขายดีกว่า
นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ได้คาดการณ์ถึงยอดขายของ VOLT City EV ทั้งสองตัวถังว่า ในคราวแรกได้คาดการณ์สัดส่วนยอดขายของ FOR-TWO และ FOR-FOUR อยู่ที่ 20 ต่อ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อมองจากการตอบรับของแต่ละรุ่นในช่องทางต่าง ๆ แล้วจึงคาดการณ์สัดส่วนยอดขายไว้ที่ 35 ต่อ 65 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ VOLT City EV จะเริ่มส่งมอบได้ในช่วงเดือนกันยายน 2566 เป็นต้นไป โดยในช่วงแรกจะเป็นรถนำเข้าและจะผลิตในไทยเป็นลำดับถัดไป เมื่อโรงงานในไทยเสร็จสมบูรณ์แล้วคาดว่าจะมีกำลังการผลิตเฉพาะแบรนด์ VOLT ที่ 4,000 คันต่อปี
อ่านเพิ่มเติม : พาชม VOLT City EV อีวีจิ๋วราคาเริ่มที่ 325,000 บาท พร้อม 5 จุดน่าสังเกตที่ไม่ควรมองข้าม