Volvo (วอลโว่) ค่ายรถจากสวีเดน และ Starbucks ร้านกาแฟที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ร่วมมือกันสร้างประสบการณ์ให้ดีขึ้นแก่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทั้งสองบริษัทได้ประกาศแผนติดตั้งสถานีชาร์จ EV ที่ร้านกาแฟ Starbucks หลายสาขาระหว่างรัฐในสหรัฐฯ
- ติดตั้งจุดชาร์จกว่า 60 จุด ในร้าน Starbucks กว่า 15 แห่ง
- มีที่ชาร์จแบบ DC ทั้งแบบ 62.5 kW และ 350 kW
- สถานีห่างกัน 100 ไมล์ เพื่อสะดวกต่อการวางแผนเดินทาง
- ถ้ามาไทยคงสะดวกขึ้นมาก
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องเพื่อศึกษาความสามารถในการปรับขนาดของโครงการ โดยจะติดตั้งจุดชาร์จกว่า 60 จุด ในร้าน Starbucks กว่า 15 แห่ง บนเส้นทางกว่า 1,350 ไมล์ (2,173 กม.) ระหว่างรัฐเดนเวอร์และซีแอทเทิล ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของ Starbucks สาขาแรก
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
มีที่ชาร์จ 2 แบบ
วอลโว่กล่าวว่า เครื่องชาร์จที่ติดตั้งจะเป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องชาร์จแบบ DC ของ ChargePoint แบบ Express 250 หน่วย ซึ่งสามารถจ่ายไฟได้ 62.5 kW และแบบ Express Plus ซึ่งสามารถจ่ายไฟได้ถึง 350 kW โดยทุกจุดชาร์จจะมีปลั๊กทั้งแบบ CHAdeMO และ CCS มาให้
สถานีห่างกัน 100 ไมล์ เพื่อสะดวกต่อการวางแผนเดินทาง
สถานีชาร์จจะถูกติดตั้งห่างกัน 100 ไมล์โดยประมาณ ระยะทางระหว่างจุดชาร์จในร้านกาแฟจะคิดจากระยะทางที่ EV ส่วนใหญ่วิ่งได้ และทำให้ผู้ใช้อีวีไม่ต้องเครียดกับการวางแผนล่วงหน้ามากเกินไปในการเดินทาง
ทั้งสองบริษัทวางแผนที่จะช่วยทุกคนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยมีค่าใช้จ่ายในการชาร์จ แต่รถจาก Volvo จะได้สิทธิพิเศษในการชาร์จฟรีหรือมีส่วนลด ตำแหน่งของที่ชาร์จเหล่านี้จะปรากฏในแอพพลิเคชั่นของ ChargePoint ในสมาร์ทโฟน และแอพในระบบปฏิบัติการของ Google ที่อยู่ในรถของวอลโว่
กฎหมายสหรัฐฯ ห้ามไม่ให้มีสถานีชาร์จและธุรกิจอยู่ที่จุดพักรถ
นอกจากเรื่องของสถานีชาร์จรถที่ร้านกาแฟแล้ว โครงการยังเปิดโลกใบใหม่ของการชาร์จอีกด้วย Volvo C40 Recharge จะใช้เวลาประมาณ 40 นาทีในการเติมแบตเตอรี่จาก 20-90% รถยนต์ไฟฟ้าคันอื่นก็ใช้เวลาใกล้เคียงกัน
การใช้ร้านกาแฟเป็นสถานที่รอชาร์จระหว่างเดินทางไกลอาจเป็นอะไรที่ดีกว่าการเข้าไปเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นไหน ๆ เพราะตามกฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ห้ามไม่ให้มีสถานีชาร์จและธุรกิจอย่าง Starbucks อยู่ที่จุดพักรถ
และหากเพิ่มสัญญาณ wifi และห้องน้ำสะอาดเข้ามาในร้าน Starbucks ส่วนใหญ่ ก็จะสามารถเป็นจุดพักรถในอุดมคติของผู้ใช้อีวีได้เลย
นอกจากนี้ ในการเดินทางไกล การเติมคาเฟอีนของคนขับระหว่างทางเป็นสิ่งที่ควรทำไม่ต่างจากการเติมน้ำมันหรือชาร์จแบตเตอรี่ การนำที่ชาร์จไว้ที่ร้านกาแฟจึงเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด การร่วมมือกันในครั้งนี้จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจ
ถ้ามาไทยการชาร์จคงสะดวกขึ้นกว่าเดิม
การร่วมมือกันครั้งนี้ของทั้ง Volvo และ Starbucks เท่ากับช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้อีวีชาวมะกันเป็นอย่างมาก แต่สำหรับประเทศไทยอาจจะสะดวกขึ้นเล็กน้อย
เพราะร้านกาแฟและจุดชาร์จไม่ได้มีกฎหมายห้ามมีที่จุดพักรถ และร้านกาแฟอย่าง Starbucks จะตั้งอยู่บริเวณที่ติดถนนเสมอ หากมีที่ชาร์จที่ร้านจริงในไทย อาจช่วยลดเวลาการหาที่จอดชาร์จที่อยู่ไกลออกไปได้
อ่านเพิ่มเติม : ทดสอบ Volvo XC40 ชาร์จไร้สายบนถนนจริง วิ่งแบบแท็กซี่ ชาร์จเพียง 30 นาที ได้ถึง 100 กม.
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });