ความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีมากขึ้นทำให้เกิดความเป็นไปได้ที่หลากหลาย Ford (ฟอร์ด) สามารถใช้ชื่อ Mustang สำหรับเอสยูวีครอสโอเวอร์และมีผู้ผลิตรถหลายค่ายอาจอยากทำตาม

การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นอาจทำให้ชื่อที่เป็นเหมือนภาพจำของรถประเภทนั้นต้องสูญเสียไป แต่หากผลลัพธ์ที่ออกมากลายเป็นรถที่ดีมากพอก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน 

ครั้งนี้ทางเว็บไซต์ Autoevolution ได้จินตนาการว่าหาก Toyota Supra (โตโยต้า ซูปร้า) มีตัวถังแบบ SUV ตามความนิยมในสมัยนี้จะมีลักษณะเป็นอย่างไร เป็นมิตรกับผู้ที่มีครอบครัวมากขึ้นไหม 

• ประวัติคร่าว ๆ ของ Supra
• Supra ที่ทุกคนนึกถึง
• Supra ปัจจุบัน
• Supra ตัวถัง SUV จะดีไหม?

Supra ก็มีการเปลี่ยนแปลงตัวถังมาเรื่อย ๆ

เรามาลองดูประวัติของ Supra กันคร่าว ๆ ก่อน ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างตั้งแต่เจเนอเรชั่นแรกในปี 1978 จนเจเนอเรชั่นล่าสุดในปี 2022 โดย Toyota ผลิต Supra มาแล้วกว่า 5 รุ่นด้วยกัน ซึ่งรุ่นล่าสุดเปิดตัวในปี 2019  

ใน 3 เจเนอเรชั่นแรกจะถูกวางตัวเป็นรถ GT หรือ Grand Tourer มากกว่าการเป็นรถสปอร์ต แต่พอมาในเจเนอเรชั่นที่ 4 ในปี 1993 นั้นจะเห็นได้ชัดว่าโตโยต้าให้ความสำคัญกับสมรรถนะของรถที่มากขึ้น

ในความจริงแล้ว Toyota ไม่ได้ใช้ชื่อ Supra อย่างโดดเดี่ยวในเจเนอเรชั่นแรก ๆ แต่ได้ใช้ชื่อนี้ต่อท้าย Celica มาก่อน ซึ่งสองชื่อนี้ได้ถูกแยกออกจากกันอย่างเป็นทางการในเจเนอเรชั่นที่ 3 ในปี 1986 ซึ่งทำให้ Celica กลายเป็นรถสปอร์ตขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วน Supra ยังคงเป็นสปอร์ตขับเคลื่อนล้อหลังเช่นเดิม 

Supra ที่ทุกคนนึกถึง

อย่างไรก็ตาม หากพูดถึงชื่อ Supra ขึ้นมา คนส่วนใหญ่อย่างไรต้องนึกถึงตัวถัง A80 ในเจเนอเรชั่นที่ 4 อย่างแน่นอน เพราะในรุ่นนี้ได้ถูกซึมซับเข้ามาในสิ่งต่าง ๆ ตั้งแต่เกมคอนโซลอย่าง Need for Speed หรือภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์อย่าง The Fast and the Furious นอกจากนี้ยังมีความนิยมในหมู่นักแต่งรถอีกด้วย

นอกจากภายนอกที่ผู้คนส่วนใหญ่จำได้แล้ว Supra รหัส A80 ในตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบที่ให้กำลังสูงสุด 325 แรงม้า ซึ่งมีอัตราเร่ง 0-97 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.6 วินาทีเท่านั้น

Supra ปัจจุบัน

สำหรับ Supra เจเนอเรชั่นปัจจุบันเราจะเรียกกันว่า GR Supra (GR-Gazoo Racing) ซึ่งเป็นการพัฒนารถร่วมกับ BMW ซึ่งทำให้รถทั้งสองใช้แพลทฟอร์ม ชิ้นส่วนบางชิ้น รวมถึงเครื่องยนต์ร่วมกันกับ BMW Z4 รหัส G29

GR Supra ถือเป็นการอัพเกรดขึ้นจากรุ่นที่แล้วพอสมควร ทั้งในด้านของความสะดวกสบาย ความปลอดภัย คุณภาพของวัสดุ รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ในรุ่นที่แรงที่สุดของ GR Supra มีอัตราเร่งจาก 0-97 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 - 4.1 วินาที แต่นี่คือตัวเลขในกระดาษเท่านั้น เพราะการทดสอบจริงจากหลายสำนักพบว่าได้ตัวเลขที่ดีกว่าที่เคลมไว้เล็กน้อย

อ่านเพิ่มเติม : เปิดตัว Toyota GR Supra เพิ่มเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมรุ่น A91-MT จำนวนจำกัด

Supra ตัวถัง SUV ดีไหม?

คราวนี้ เราลองสมมติว่า Toyota กำลังจะใช้ชื่อ Supra มาเป็นชื่อของ SUV แบบสปอร์ต ซึ่งอาจจะเป็นเครื่องยนต์อะไรก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการว่าจะเป็นปลั๊กอินไฮบริดหรือไฟฟ้าล้วน

ภาพเรนเดอร์ของ Autoevolution ทำให้เราพอเห็นแนวทางแล้วว่าหาก GR Supra กลายเป็นเอสยูวีแล้วจะเป็นอย่างไร โดยยังพยายามรักษาภาษาดีไซน์ของโตโยต้าไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งหากมีความต้องการที่มากพอ อาจจะเป็นไปได้ที่ค่ายรถจากแดนอาทิตย์อุทัยจะจัดให้สักหนึ่งรุ่นก็เป็นได้

หากเทียบกันกับผู้ที่ใช้ชื่อม้าป่ามาทำเอสยูวีจริง ๆ อย่าง Ford Mustang Mach-E แล้วจะเลือกคันไหนดีนะ?

อ่านเพิ่มเติม : พาไปดูดีไซน์เริ่มต้นของ Toyota จนออกมาเป็น GR Supra Mk5 ของจริง

(ขอบคุณภาพจาก autoevolution)