Xiaomi SU7 Ultra prototype วิ่ง Nurburgring ได้เวลา 6:46 นาที แต่เป็นตัวแข่งต่างจากรถเดิมโรงงาน 7 จุดดังนี้

Mr.Argus
Mr.Argus · 2024-10-30 17:28:11

 

Xiaomi SU7 Ultra prototype เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุด ที่วิ่งในสนาม Nurburgring Nordschleife ในระยะทาง 20.832 กม. หนึ่งรอบทำเวลาได้ 6:46.874 นาที ติดอยู่ในทำเนียบรถแรงขึ้นอันดับต้นๆ บนเว็บของสนามแข่งทันที แต่ว่ารถคันนี้จัดอยู่ในรถประเภท Prototypes หรือ pre-production ซึ่งเป็นรถที่ถูกปรับจูนเพื่อลงสนามโดยเฉพาะ มีการจ้างวิศวกรต่างชาติมาตัดแต่งอุปกรณ์หลายอย่าง เพื่อเน้นสมรรถนะสูงสุด ไม่ได้เป็นรถสภาพเดิมที่วางขายในโชว์รูมรถ โดยสรุปแล้วมีความแตกต่าง 7 จุดดังนี้

เปลี่ยนชิ้นส่วนภายนอก

ภายนอกมีการไล่เบาตัวถังใหม่ โดยหลายชิ้นเลือกใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เป็นหลัก เพื่อลดน้ำหนักตัวถังให้เหลือเพียง 1,900 กก. ขณะที่รุ่นมาตรฐานตัว AWD มีน้ำหนักถึง 2,205 กก. นอกจากนี้ยังเพิ่มสปอยเลอร์และคานาดรอบคัน เพื่อรีดอากาศ เพิ่มความลู่ลมจากเดิมอีกเล็กน้อย

เปลี่ยนแบตเตอรี่

Xiaomi SU7 รุ่นมาตรฐานโรงงานมีแบตเตอรี่ความจุ 101 kWh แต่ในรถแข่ง SU7 Ultra prototype ระบุว่าใช้แบตเตอรี่ความจุ 150 kWh แสดงว่ามีการเพิ่มความจุแบต เพื่อให้รักษากำลังแรงม้าได้สูงสุด แม้ว่าแบตจะเหลือน้อยก็ตาม 

เพิ่มมอเตอร์

Xiaomi SU7 Ultra prototype ถูกเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ มีกำลัง 1,548 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายใน 1.97 วินาที มีความเร็วสูงสุด 350 กม./ชม. 

ขณะที่รุ่นมาตรฐาน มีกำลัง 673 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายใน 2.78 วินาที มีความเร็วสูงสุด 265 กม./ชม.

ติดโรลบาร์

ภายในยังมีการเพิ่ม Roll Bar ตามเสาหลังคารอบห้องโดยสาร เพื่อความปลอดภัยหลังการชน ตามมาตรฐานรถแข่งที่ดีควรมี ขณะที่รถรุ่นมาตรฐานโรงงานไม่มีคานเหล็กเสริมรอบ ๆ แบบนี้ เพราะโครงสร้างเดิมก็เพียงพอต่อการใช้งานบนถนนปกติแล้ว

เปลี่ยนยาง Pirelli p zero slick

ขณะที่ Xiaomi SU7 รุ่นมาตรฐานโรงงาน ใช้ยาง Michelin Pilot Sport EV เท่านั้น แต่รุ่น SU7 Ultra prototype กลับใช้ยาง Pirelli p zero slick ซึ่งรองรับแรงบิดสูง ให้ความหนึบมากกว่ายางเดิมจากโรงงาน ที่ยังให้ความนุ่มเงียบสำหรับการเดินทางประจำวัน

เบรค Carbon-Ceramic

ระบบเบรคเปลี่ยนวัสดุใหม่เป็นคาร์บอนเซรามิค ที่มีน้ำหนักเบา ทนความร้อนสูง และขยายขนาดด้านหน้าใหม่เป็น 430 มม. เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมผัส ทำให้หยุดรถในระยะทางสั้นลง เหลือระยะที่ให้ทำความเร็วมากขึ้น ขณะที่จานเบรคเดิมเป็นเหล็กหล่อทั่วไปเท่านั้น

ตัดคอนโซล

คอนโซลภายในของ SU7 Ultra prototype ถูกยกออกไปทั้งหมด นั่นหมายความว่า หน้าจอสัมผัส 16.1 นิ้ว รวมถึงระบบแสดงภาพขึ้นกระจก กับกล้อง 360 องศารอบคัน จะใช้การไม่ได้เลยในรถแข่งคันนี้ เพราะไม่มีจอแสดงผลแล้ว

นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ทางด้านซอร์ฟแวร์ ที่ไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน แต่เราคาดว่ามันต้องถูกปรับแต่งในเบื้องหลัง เพื่อรับกับแบตลูกใหม่ กำลังแรงม้ามากกว่าเดิม รวมถึงช่วงล่างจะต้องปรับเปลี่ยนตามไปด้วยแน่นอน

Xiaomi SU7 Ultra prototype กำลังจะถูกพัฒนาเป็น Xiaomi SU7 Ultra แบบที่ขายได้จริง โดยมีกำลังประมาณ 1,500 แรงม้า โดยยังคงอุปกรณ์ภายในสะดวกสบายและปลอยภัยแบบรถบ้านมาให้เลือกซื้อในอนาคต

อ่านเพิ่มเติม : Xiaomi เปิดตัว SU7 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก หล่อหรูดูมีชาติตระกูล

 

Mr.Argus

Mr.Argus นักเขียน

คุณกัส ผู้จำชื่อรถได้หมดตั้งแต่เด็ก ขับรถเป็นตั้งแต่มัธยม ซ่อมรถใช้เองตอนปริญญาตรี สะสมรถคลาสสิคและรถหายาก ทำงานเรื่องรถมานาน 5 ปี ผ่านการอบรมขับขี่ปลอดภัยจาก Sach มีรถทดสอบผ่านมือมาตั้งแต่รถกระบะ รถเก๋ง จนถึงรถสปอร์ต งานอดิเรกก็แค่ซ่อมรถสะสมที่มีอยู่ ติดตามชีวิตคนบ้ารถได้ที่กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/97434297973776

Toyota
Honda
Nissan
Mitsubishi
Mazda
Suzuki
Isuzu
Ford
Mercedes-Benz
BMW
Aston Martin
Audi