GWM Ute (จีดับเบิลยูเอ็ม ยูท) รถกระบะจากค่าย Great Wall Motor (เกรทวอลล์มอเตอร์) ในไทยจะทำตลาดในชื่อว่า GWM Poer (จีดับเบิลยูเอ็ม โปเออร์) เป็นรถกระบะสัญชาติจีน 

Great Wall Motor ได้ร่วมมือกับ Yunliang (ยุ่นเหลียง) สำนักแต่งออฟโรดอันดับต้น ๆ ของจีน ในการสร้าง GWM Ute เวอร์ชั่นใหม่ให้ดูดุดันมากยิ่งขึ้น โดยให้ชื่อว่า “The Black Bullet” (เดอะ แบล็ค บุลเล็ท) ซึ่งจะไม่ได้มีดีแค่หน้าตาเพียงอย่างเดียว

โดย Yunliang ได้ทำธุรกิจและสร้างสังคมชาวออฟโร้ดในประเทศจีนมายาวนานกว่า 15 ปี และเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย ARB แบรนด์อุปกรณ์ตกแต่งออฟโรดชั้นนำ

การเปิดตัวครั้งนี้เป็นได้เปิดตัวถัดจากรถเอสยูวี Yunliang 4×4 Tank 300 limited edition ปิดยอดการขายทางออนไลน์ใน 3 นาที

The Black Bullet ต้องการที่เป็นรถออฟโรดอย่างจริงจัง ทั้งในด้านรูปร่างหน้าตา การตกแต่ง และชิ้นส่วนที่ทำเฉพาะรถคันนี้เท่านั้น เช่นเดียวกันกับรถรุ่นที่ขายไปก่อนหน้าอย่าง Yunliang 4×4 Tank 300 เนื่องจากราคาที่สมเหตุสมผลและการผลิตที่ทันกับความต้องการ จึงทำให้ยอดขายของ GWM Ute อยู่ในตัวเลขที่ดี

แนวคิดของ The Black Bullet เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2019 ในช่วงหลังจาก Beijing Auto Show ทั้ง Yunliang และ GWM ได้คิดจะร่วมมือกันทำ GWM Cannon ในเวอร์ชัน “ออฟโร้ด” โดย GWM Cannon ถือว่าเป็นบรรพบุรุษของ GWM Ute นั่นเอง 

แม้ใช้เวลาถึง 2 ปี กว่าที่แนวคิด The Black Bullet จะเป็นรูปเป็นร่าง แต่ก็คุ้มค่า เพราะ The Black Bullet จะได้วางขายที่จีนใน 28 กันยายน ปีนี้แล้ว

ราคาตลาดของรถเริ่มตั้งแต่ 49,000 จนถึง 53,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.65-1.79 ลบ. ไทย) ในภาพที่เราเห็นนี้เป็นรถ pre-production ที่เห็นอุปกรณ์เพียงคร่าว ๆ แต่ยอดจองที่ตั้งไว้ทั้ง 400 คันก็เต็มอย่างรวดเร็ว และทาง GWM ก็ยืนยันว่าจะมีรถล็อตใหม่อีกแน่นอน

จะสู้ Ford Ranger Raptor ได้ไหม?

ชุดแต่งของรถยนต์คันนี้ถูกออกแบบโดยทีมของ Yunliang โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า “Mark Road” (มาร์ค โร้ด) เรียกย่อ ๆ ว่า MR ประกอบด้วย ไฟส่องพื้นสองสีใต้กันชนด้านหน้า ตัวกันชนด้านหน้าและหลัง และตัว snorkel

รับประกันความสามารถการออฟโร้ดโดยเครื่องกว้าน (winch) จาก Warn ที่ติดอยู่ในกันชนด้านหน้า ล้อและยาง BFGoodrich KO2 all-terrain หน้ากว้าง 285/70 ขนาด 17 นิ้ว พร้อมปรับ offset เพิ่มจากรุ่นปกติเพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนน

ความสูงเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 2 นิ้ว โดยโช้ค ATLAS nitro-charged เพิ่มความกว้างฐานล้อเพื่อลุคที่ดูแข็งแรง และเพิ่มขีดความสามารถของระบบ cross-differential เพื่อเพิ่มความสามารถการทรงตัวและการขับขี่ให้ดีขึ้น นอกจากนั้นก็ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดของช่วงล่างมากนัก

บันไดด้านข้างรถถูกติดตั้งมาเพื่อป้องกันตัวรถด้านข้างจากเศษหินต่าง ๆ ซุ้มล้อถูกขยายให้กว้างรับกับฐานล้อที่กว้างขึ้น ตะขอลากจูงถูกทำให้เป็นสีแดงเพิ่มความโดดเด่นให้รถยนต์รุ่นนี้

โรลบาร์ที่กระบะของตัวรถทำให้รถดูมีเส้นสายที่หรูหรา กล่องติดข้างโรลบาร์ที่ดูลู่ลม บนกล่องมีองค์ประกอบสีแดงโดดเด่นอยู่ข้างตัวรถทั้ง 2 ด้าน ซึ่งเดาได้ว่าอาจจะใช้เป็นที่เก็บสัมภาระได้ 

แม้ว่าภายนอกจะดูแข็งแรง บึกบึน พร้อมสำหรับทุกสภาพถนน แต่ภายในก็ได้รับการปรับให้ดูดีขึ้นไม่แพ้กัน

ที่นั่งทั้งหน้าหลังถูกทำให้มีความรู้สึกที่ต่างจากเดิม เพิ่มโทนสีที่มีความชัดเจนมากขึ้นและสีอย่าง Blazing Red Mountain ที่แทรกอยู่กับทุกองค์ประกอบภายในรถ หรือภายนอกที่ใช้สีแดงตัดกับสีดำสนิท องค์ประกอบทั้งหมดนี้ ทำให้ทั้งภายในและภายนอกของรถยนต์คันนี้ดูแตกต่างจากรุ่นปกติ

ด้วยออพชั่นทั้งหมดที่ว่ามานี้ นับว่าดูน่าสนใจมากเลยทีเดียว ถ้าลองเทียบกับ Ford Ranger Raptor X (ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เอ็กซ์) ก็นับว่าสูสี

อ่านเพิ่มเติม : พาชม 2021 Ford Ranger Raptor X ค่าตัว 1.729 ล้านบาท คุ้มไหมนะ?

เข้าไทยไหมแบบนี้?

การทำ The Black Bullet ทำให้ตลาดของกระบะออฟโร้ดและเอสยูวี ได้เกิดคู่แข่งที่น่ากลัวเข้ามาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งรุ่นทั้งด้านการออกแบบ ความคุ้มค่า ราคา ทัดเทียมกับรถยนต์ค่ายอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้น รถยนต์จากประเทศจีนได้ปรับปรุงมาตรฐานและคุณภาพการผลิตอยู่ตลอด ทำให้ผู้บริโภคได้ผลประโยชน์ทั้งหมดไป
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า Black Bullet จะได้ทำตลาดในไทยหรือไม่ เพราะ ณ ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณใด ๆ จากทาง GWM แต่ถ้ามาจริง ๆ ก็นับว่าน่าสนใจเลยทีเดียว

อ่านเพิ่มเติม : ชมคันจริง 2021 Poer EV รถกระบะไฟฟ้า เจาะสเปคสุดว้าว ที่ค่ายอื่นไม่มีมาก่อน