เราจะเลือกสีภายนอกของรถยนต์จากเหตุผลอะไรกันบ้าง? ผู้ผลิตรถยนต์มักมีสีให้เราเลือกในแต่ละโมเดลอยู่หลากหลาย แต่อย่างไรก็ตาม สีที่นิยมที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สีขาว สีดำ และสีเงิน ก็ยังเป็นสามสีนี้อยู่ดี และเป็นเหมือนกันทั่วโลก
ในรายงานของ “การสำรวจความนิยมของสีรถยนต์” ในปี 2020 โดย Axalta ที่จะทำกันทุกปี ในประเทศญี่ปุ่น สีที่นิยมที่สุดคือ สีขาว 35%, ต่อมาคือ สีดำ 19%, ที่สามคือ สีเงิน 11%, ที่สี่คือ สีน้ำเงิน 10%, ที่ 5 คือ สีแดง 7% และสีอื่น ๆ อีก 5%
รถยนต์สีขาวชนะโพลมาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปีแล้ว และถ้าแบ่งแยกย่อยไปอีกเป็นสีขาวประกายมุก Pearl White ถึง 25% จากที่กล่าวมา การรับรถจากการสั่งจองรถที่มีสียอดนิยมทั้งสามอันดับแรกจะรวดเร็วกว่าสีอื่น ๆ เสมอ และยังสามารถจัดโปรโมชั่นได้ง่ายเพราะผลิตมาจำนวนมาก อีกทั้งการขายต่อยังทำได้ราคาสูงกว่าสีอื่นเพราtความนิยมของมันนั่นเอง
ทำไมสีเหล่านี้ถึงเป็นที่นิยม
เรามาลองดูลักษณะเฉพาะของแต่ละสีกัน สีขาวจะให้ความรู้สึกสะอาดและสามารถเข้ากันได้กับรถยนต์ทุกรูปแบบ อีกทั้งยังทำให้รถดูใหญ่โตมากขึ้นและสามารถมองเห็นได้ง่ายตอนกลางคืน ประโยชน์ของมันอีกอย่างก็คือสีขาวจะไม่ดูดความร้อนทำให้รถไม่ร้อนง่ายจนเกินไปนักในวันที่อากาศร้อน
แต่ถ้ามีข้อดี ก็มีข้อเสีย สีขาวจะทำให้ตัวรถดูธรรมดาเกินไป และเราสามารถเห็นรอยขีดข่วนและความสกปรกได้ง่ายถ้าเราไม่ได้ล้างรถบ่อย ๆ และจะค่อย ๆ กลายเป็นสีเหลืองในไม่ช้า
ส่วนสีดำจะมีคุณสมบัติตรงข้ามกับสีขาวโดยสิ้นเชิง สามารถทำให้รถดูเท่ เฉียบคม ทำให้รถดูเล็กลง และยังใช้ในชุดตกแต่งของรถที่ทำให้รถดูแข็งแรง บึกบึน และเป็นสีแห่งความหรูหราและความลึกลับน่าเกรงขาม
แต่สิ่งที่เหมือนกับสีขาวคือ รอยขีดข่วน ความสกปรก สามารถมองเห็นได้ง่าย โดยเฉพาะคราบน้ำ และสีดำสามารถดูดความร้อนได้ดี ทำให้เวลาอากาศร้อน อุณหภูมิจะสูงขึ้นได้ง่าย และการมองเห็นรถยนต์สีดำจะทำได้ยากกว่าสีขาว
อ่านเพิ่มเติม : รถยนต์สีขาว สะท้อนแสงแดดได้มากกว่าสีดำ? จริงแค่ไหน? พร้อมวิธีป้องกันความร้อนแบบง่าย ๆ
ส่วนสีเงินจะอยู่ระหว่างกลางของทั้งสองสีข้างต้น เนื่องจากเป็นสีที่สามารถอยู่กับเราได้นาน ประโยชน์ของสีนี้อย่างแรกคือเราจะมองเห็นรอยขีดข่วนและคราบสกปรกได้ยาก ซึ่งสีนี้จะเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ขี้เกียจล้างรถบ่อย ๆ อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ความนิยมในสีรถยนต์ในปัจจุบันกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป สีเทา เป็นอีกเฉดหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยม ซึ่งทำให้รถดูหรูหรากว่าสีเงินอีกด้วย
สีน้ำเงินก็เช่นกัน ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูสดชื่นและดูเท่ ในอีกทางหนึ่งยังเป็นสีที่โดดเด่นมองเห็นได้ง่ายในที่ไกล ๆ ซึ่งทำให้รถสีนี้มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุที่ต่ำ แต่คราบสกปรกและรอยขีดข่วนยังมองเห็นได้ง่ายอยู่
สีแดงก็เป็นอีกสีที่น่าสนใจ เป็นสีที่มีความโดดเด่นและความน่าหลงใหล ซึ่งเหมาะกับการเป็นสีของรถสปอร์ต และตั้งแต่ระบบสีได้พัฒนาขึ้นมา สีแดงจึงทำให้รถปลอดภัยขึ้นมาก เพราะแต่ก่อนสีแดงจะยังไม่สว่างเช่นวันนี้ การมองเห็นตอนกลางคืนจึงไม่ค่อยดีนัก
บางคนอาจไม่ชอบสีแดงเพราะดูโดดเด่นเกินไป เรื่องของคราบสกปรกและรอยขีดข่วนก็ยังเห็นได้ง่าย และในระยะยาวความสดของสีจะน้อยลงเพราะแสงแดดอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม : ทำไมคนไทยเรียกรถสีเงินว่าบรอนซ์ ทั้ง ๆ ที่แปลว่าทองแดง
ทำไมผู้ผลิตรถยนต์จึงต้องสร้างสีที่เป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ขึ้นมา
สียอดนิยมทั้ง 3 อันดับแรกอยู่บนท้องถนนราว 65% แต่ถ้ามันอยู่บนโบรชัวร์หรือบนโฆษณาแล้วอาจจะดูธรรมดาเกินไป ทางผู้ผลิตรถจึงต้องทำให้ตัวรถดูโดดเด่นขึ้นมา
ยกตัวอย่างเช่น มาสด้าโปรโมทสีแดง Soul Red Premium Metallic เพื่อเป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์มาหลายปี แล้วเราก็เห็นรถสีแดงของมาสด้าอยู่บ่อยครั้งเหมือนกัน
จากการสอบถามดีไซน์เนอร์ด้านสีของมาสด้าในสี Soul Red Premium Metallic เขากล่าวว่า “ผมคิดว่าสีเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างรถด้วย และในฐานะของสีที่แสดงออกถึงความหลงใหลในการสร้างรถยนต์ ผมจึงเลือกสีแดง”
แต่ก็มีหลายครั้งที่สีที่ใช้โปรโมทจะไม่นิยมบนท้องถนน เช่น สีน้ำเงิน Subaru WR blue หรือสีเหลือง Suzuki's champion yellow ซึ่งจากสถิติที่ว่าสีน้ำเงินได้เพียง 10% และสีเหลืองที่น้อยกว่านั้นอีก
สีไหนที่จะเกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุด
การงานวิจัยใน University of Auckland ในประเทศนิวซีแลนด์ พบว่าอัตราการเกิดอุบัติเหตุของรถยนต์ที่มีสีขาว(ที่มีจำนวนมากที่สุด) จะอยู่ที่ 1.0 ซึ่งจะอยู่กลาง ๆ ของกราฟ
ส่วนสีเงินนำมาเป็นอันดับที่ 1 ที่มีอัตราการอุบัติเหตุที่น้อยที่สุด เพราะสีเงินมีความสามารถสะท้อนแสงได้ดีและสามารถมองเห็นได้ง่ายทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งทำให้สีเงินมีความปลอดภัยมากเลยทีเดียว แต่สีที่เรามองเห็นและสามารถกะระยะได้ดีที่สุดคือ สีเหลืองนั่นเอง
ถ้าลองไล่สีดูจะพบว่า สีน้ำเงิน สีดำ และสีม่วงจะมองแล้วเข้าใจว่าอยู่ไกลกว่าความเป็นจริงเนื่องจากกลไกของการมองเห็นของดวงตาเรา และมีแนวโน้มในการรับรู้ที่ช้าจากรถยนต์ที่อยู่รอบ ๆ ซึ่งอาจทำให้ระยะห่างของรถสีเข้มน้อยกว่ารถสีอื่น เราอาจขับรถเข้าใกล้รถสีเข้มโดยที่เราไม่ตั้งใจก็ได้
เลือกตามใจ ก็ไม่ได้ผิดอะไร
อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อสีรถยนต์ที่ชื่นชอบเป็นสิ่งที่เป็นสิทธิส่วนบุคคล ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นเรื่องของ การขายต่อ เทรนด์ในปัจจุบัน หรือแม้แต่ในเรื่องความปลอดภัยล้วนแต่มีความสำคัญทั้งหมด แต่การเลือกรถสักคันที่จะอยู่กับเราเป็นปี หรือเป็นสิบปี กาารเลือกสีที่ชอบก็คงไม่ใช่เหตุผลที่ไร้สาระเกินไปนัก
อ่านเพิ่มเติม : Ford Ranger ถูกทำสีทอง-สายรุ้ง หลังจากมีคนเหยียดว่า รถสีฟ้าดูเหมือนเกย์