ดึงเบรคมือแล้วแต่รถยังไหล อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

เบรคมือ คืออีกหนึ่งอุปกรณ์ของรถยนต์ที่มีความสำคัญ ที่จะช่วยให้รถคุณไม่ไหลขณะจอด ไม่ว่าจะในที่จอดรถหรือบนท้องถนน

แต่เมื่อใช้ไปนานวันเข้า ก็จะมีอาการเสื่อม ทำให้จะแม้จะดึงเบรคมือขึ้น รถก็ยังไหลอยู่ แบบนี้เกิดจากอะไร?

สาเหตุหลัก

ในกรณีส่วนมาก สามารถสังเกตุได้จากเวลาที่ดึงเบรคมือ จะต้องดึงขึ้นมามากกว่าปกติ หรือเวลาปลดเบรคมือลงจะปลดได้ยาก โดยสามารถแบ่งสาเหตุหลัก ๆ ของอาการเบรคมือหลวมได้ดังนี้

• ผ้าเบรคสึก อาการผ้าเบรคสึก จะทำให้เบรคหลังจับตัวกันได้ไม่ดีพอ จึงเกิดอาการรถไหล ควรทำการเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่
• ผ้าเบรคสกปรก อาจเกิดจากการจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน หรือขับทางสมบุกวมบันบ่อย อาจต้องนำเข้าอู่หรือศูนย์เพื่อทำความสะอาด
• สปริงหย่อน เนื่องจากมีการใช้งานบ่อย ต้องให้ช่างตั้งสายใหม่
• การตั้งดรัมเบรคหลังไม่ถูกต้อง สามารถตั้งเองได้ แต่ให้ศูนย์หรืออู่ตั้งให้จะดีกว่า

การใช้เบรคมือที่ถูกวิธี ไม่ควรใช้บ่อยเกินไป เนื่องจากยิ่งใช้บ่อยเท่าไร ก็จะทำให้เสื่อมไวขึ้น หากจอดติดไฟแดงก็แค่เหยียบค้างไว้ก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากเป็นเวลาสั้น ๆ

ควรใช้เบรคมือเมื่ออยู่บนเนิน สะพาน ทางลาดชัน ที่รถอาจจะไหลไปข้างหลังไปโดนคันอื่น รวมทั้งก่อนออกตัวควรเช็คว่าเราเอาเบรคมือลงแล้วหรือยัง และลงสุดหรือไม่ เพราะหากฝืนขับไปจะทำให้เบรคมือพังและเบรคไหม้ได้เช่นกัน

เบรคมือไฟฟ้าก็มีนะ

ในปัจจุบันเริ่มมีเบรคมือไฟฟ้าให้เห็นกันได้มากขึ้น เป็นสวิตช์ขนาดเล็กกลางคอนโซล ใช้เพียงนิ้วมือเพื่อเปิดทำงาน ให้ไฟฟ้าแล่นไปสั่งมอเตอร์หมุนเฟืองไปหนีบเบรคล้อหลังเอาไว้ แต่ยังถูกควบคุมด้วยเซนเซอร์จับความเร็ว ก่อนจะส่งแรงไปหมุนมอเตอร์ไฟฟ้าด้วย

ระบบเบรคมือแบบนี้ เหลือเพียงสวิตช์แค่ตัวเดียวบนคอนโซล ทำให้ประหยัดพื้นที่ และไม่ต้องดึงด้ามเบรคมือ แค่ใช้นิ้วเขี่ยขึ้นเพื่อเปิด และกดลงไปเพื่อปิด ซึ่งอาจจะมีดีกว่าที่ไม่ต้องกังวลเรื่องสายเบรคมือหย่อน แต่หากระบบไฟฟ้าเสียก็อาจจะทำให้เสียเงินได้มากเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เบรคมือแบบธรรมดาก็ยังมีข้อดีที่ว่า สามารถใช้ได้โดยไม่จำเป็นต้องสตาร์ทรถ หรือแม้แต่ดับรถไปแล้ว 

เทียบกับเบรคมือไฟฟ้า ต้องสตาร์ทเครื่องก่อน แล้วค่อยปลดเบรคมือตามปกติ ซึ่งเมื่อแบตหมดหรือเครื่องสตาร์ทไม่ติด จะมีขั้นตอนปลดเบรคมือไฟฟ้า ซึ่งยุ่งยากกว่าแบบกลไกมาก