ผู้บริหารระดับสูงของ Toyota เผยเหตุผลที่ยังต้องจัดจำหน่าย GR 86 (โตโยต้า จีอาร์ 86) รุ่นใหม่ พร้อมกับแย้มกลุ่มเป้าหมายสำคัญของรถสปอร์ตรุ่นนี้

ฝาแฝด Toyota GR 86 และ Subaru BRZ (ซูบารุ บีอาร์แซด) ที่พัฒนาขึ้นมาพร้อมกันเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานนี้  ท่ามกลางความซบเซาของตลาดรถสปอร์ตขนาดคอมแพ็กต์ที่ทำให้ยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง

แต่ล่าสุด ผู้บริหารระดับสูงของค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นยืนยันว่าตลาดยังมี “ดีมานด์” หรือความต้องการซื้อสูงเพียงพอที่จะขายรถสปอร์ตรุ่นใหม่ต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า

เผยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลัก

ยอดขายรถสปอร์ต 86 และ BRZ รุ่นก่อนหน้าคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา โดยในปี 2020 ที่ผ่านมา Toyota ขาย 86 ได้เพียง 2,476 คัน คิดเป็น 0.13% ของยอดขายรถ Toyota ทั้งหมดซึ่งถือว่าน้อยมาก ขณะที่ Subaru ขาย BRZ ได้ที่ 2,267 คันในปีที่แล้ว คิดเป็นสัดส่วน 0.37% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อบวกรวมยอดขายตั้งแต่เปิดตัวในปี 2012 แล้วพบว่า 86 มีตัวเลขสะสมเกือบ 80,000 คัน ขณะที่ BRZ ทำยอดขายได้ที่ 43,000 คัน

ไมค์ ทริปป์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสารองค์กร Toyota Motor North America กล่าวยืนยันว่ามีความต้องการมากเพียงพอในตลาดรถสปอร์ตที่จะสร้างความคุ้มค่าทางธุรกิจในการจำหน่ายเจนเนอเรชั่นใหม่

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่หันไปหารถเอสยูวีมากขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ยังมีคอรถยนต์บางส่วนที่ชื่นชอบความสนุกในการขับขี่” ทริปป์ กล่าว “เราไม่เพียงพยายามมอบประสบการณ์ขับขี่ที่น่าตื่นเต้น แต่ยังกำหนดราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายด้วย”

ทริปป์ชี้ว่า Toyota คาดหวังยอดขายจำหน่าย GR 86 ในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 800 – 1,000 คันต่อเดือน มุ่งเป้ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่เจนเอ็กซ์หรือคนยุคมิลเลนเนียลหรือคนที่อายุประมาณ 25 – 35 ปี นอกจากนี้ยังเน้นไปที่กลุ่มชื่นชอบการแต่งรถด้วย

“เรามีอุปกรณ์ตกแต่ง GR มากมายให้เลือกสรร ซึ่งไม่เพียงช่วยเสริมรูปลักษณ์ภายนอก-ภายใน แต่ยังอัพเกรดสมรรถนะอีกด้วย เราคิดว่าจะไปได้ดีกับรถรุ่นนี้” ทริปป์ กล่าว

นอกจากนี้ Toyota ยังวางแผนจับมือกับสำนักแต่งเพื่อผนึกกำลังเป็นหุ้นส่วนในการทำการตลาดรถสปอร์ตเพื่อดึงดูดลูกค้าและขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง