- ความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2021
- คาดว่าจะทำกำไรได้หลังปี 2025
ในปัจจุบัน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับการชาร์จ โดยเฉพาะการชาร์จเร็วหรือฟาสต์ชาร์จนั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
Emma Delaney หัวหน้าฝ่ายลูกค้าและผลิตภัณฑ์ของ BP (บีพี) บริษัททางด้านพลังงานขนาดใหญ่ของโลก กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีที่แล้ว (จากไตรมาสที่ 2 ไปยังไตรมาสที่ 3 ของปี 2021 เพิ่มขึ้น 45%) ทำให้อัตรากำไรของธุรกิจฟาสต์ชาร์จนั้นเข้าใกล้ปั๊มน้ำมันขึ้นทุกที
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
“ถ้าเราลองเทียบกันระหว่างปั๊มน้ำมันกับสถานีฟาสต์ชาร์จ เรากำลังใกล้ไปถึงจุดที่พื้นฐานทางธุรกิจของฟาสต์ชาร์จจะแซงหน้าปั๊มน้ำมันแล้ว” Delaney กล่าว
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟาสต์ชาร์จมีกำไรเทียบเท่าปั๊มน้ำมัน
เป็นข่าวดีที่ฟาสต์ชาร์จกำลังจะมีกำไรเทียบเท่าปั๊มน้ำมัน แต่การจะไปถึงจุดนั้นจะต้องมีปัจจัยที่สำคัญอยู่สองสามประการ ได้แก่
- เครื่องชาร์จที่รองรับพลังงานสูงขึ้น
- จำนวนเครื่องชาร์จต่อหนึ่งสถานี และ
- จำนวนรถอีวีที่รองรับการชาร์จที่มีกำลังไฟสูงพร้อมมีแบตเตอรี่ความจุสูง
ถ้ากล่าวให้เข้าใจง่ายขึ้นคือ ลูกค้าต้องใช้พลังงานมากขึ้นและเร็วขึ้น สถานีชาร์จมีคนใช้มากขึ้น ทำให้สามารถสร้างสถานีชาร์จได้มากขึ้น ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยของเครือข่ายสถานีก็ลดลงตามมา
หลังจากนั้น เมื่อผู้ลงทุนและผู้ให้บริการชาร์จเห็นพ้องต้องกันว่าโครงข่ายการชาร์จทำกำไรได้และมีอนาคต เมื่อนั้นเราก็คาดหวังได้เลยว่ามันต้องไปได้ดีแน่นอน
ธุรกิจการชาร์จยังไม่สร้างผลกำไรได้ก่อนปี 2025
ธุรกิจการชาร์จโดยรวมในขณะนี้ยังไม่สร้างผลกำไร เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงการขยายธุรกิจ ซึ่งจะต้องใช้การลงทุนอันมหาศาล และคาดว่าจะไม่สามารถทำกำไรได้ก่อนปี 2025 หากสังเกตจากข่าวของรอยเตอร์ส ที่มีรายงานว่า
“ในธุรกิจนี้ไม่คาดว่าจะทำกำไรได้ก่อนปี 2025 แต่โดยพื้นฐานแล้ว จุดชาร์จเร็วของ BP ซึ่งสามารถเติมแบตเตอรี่ได้ในไม่กี่นาที ซึ่งกำลังใกล้กับการเติมน้ำมันขึ้นทุกที”
ปัจจุบัน BP หันมาเน้นในส่วนของโครงข่ายการชาร์จเร็วแบบกระแสตรง (DC) ด้วยแผนการที่จะมีหัวชาร์จครอบคลุมกว่า 70,000 จุดภายในปี 2030
ในประเทศไทย ปัจจุบันมีทั้งบริษัทจากทางภาครัฐและเอกชนเข้ามาลงทุนสร้างสถานีชาร์จในประเทศ ซึ่งถ้าสถานีเหล่านั้นมีจำนวนมากขึ้น จะยิ่งส่งผลให้คนไทยอยากใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น
แต่การโน้มน้าวให้คนใช้รถอีวีจะต้องเน้นที่หัวจ่ายฟาสต์ชาร์จ เพราะเวลาในการชาร์จก็เป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจซื้อรถอีวีเลยก็ว่าได้ ถ้ามีสถานีที่รองรับฟาสต์ชาร์จที่เพียงพอ รวมถึงมาตรการด้านภาษีจากรัฐบาล การตัดสินใจก็จะง่ายขึ้น
อ่านเพิ่มเติม : ลองของสถานีชาร์จไฟฟ้า 3 เจ้าไปกับ 2021 MINI Cooper SE ไป-กลับเขาใหญ่จ่าย 300 กว่าบาทเท่านั้น!!!
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });