การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ทำให้ทุกคนให้ความสำคัญกับการรักษาความสะอาดมากขึ้น เพื่อปกป้องทั้งตัวเราเองและไม่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น
แต่ของใช้ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงอย่างรถยนต์มักถูกมองข้าม บางคนละเลยการทำความสะอาดในห้องโดยสาร หลายคนรับประทานอาหารและเครื่องดื่มภายในรถ ทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มือของเราต้องสัมผัสเป็นประจำกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสัมผัส หัวเกียร์ พวงมาลัย สวิทช์ไฟเลี้ยว เป็นต้น
Compare the Market บริษัทประกันภัยรถยนต์ในประเทศอังกฤษได้ทำการสำรวจปริมาณเชื้อโรคและแบคทีเรียภายในห้องโดยสาร โดยใช้วิธีการตรวจสอบพื้นผิวด้วยระบบคอมพิวเตอร์เพื่อวัดประมาณ Relative Light Units (RLU) และนำไปเทียบกับสารประกอบ Adenosine Triphosphate (ATP) ยิ่งมีปริมาณ RLU มากเท่าไหร่ ยิ่งหมายความว่าพื้นผิวบริเวณนั้นมีความสกปรกและเชื้อโรคมากเท่านั้น
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ผลลัพธ์ที่ได้อาจทำให้หลายคนต้องรีบหยิบผ้ากับน้ำยาทำความสะอาดมาจัดการโดยพลัน
หน้าจอทัชสกรีน – หัวเกียร์ สกปรกที่สุด
Compare the Market ทำการสำรวจรถยนต์หลากหลายประเภท ตั้งแต่รถยนต์ซีดาน รถอเนกประสงค์ไปจนถึงรถแวนเพื่อการพาณิชย์ โดยวัดระดับแบคทีเรียบนพื้นผิวที่ถูกสัมผัสมากที่สุดระหว่างขับขี่และใช้งานทั่วไป พร้อมกับนำไปเปรียบเทียบกับระดับแบคทีเรียบนโถส้วมของอาคารสำนักงานในประเทศอังกฤษ
ผลการสำรวจพบว่า ชิ้นส่วนที่สกปรกที่สุดคือหน้าจอระบบสัมผัสหรือแผงควบคุมเครื่องเสียงในรถยนต์ที่มีความสกปรกมากกว่าโถส้วมถึง 371% ขณะที่หัวเกียร์ตามมาเป็นอันดับ 2 มีปริมาณแบคทีเรียมากกว่าโถส้วม 331% ส่วนสวิทช์ไฟเลี้ยว พวงมาลัยและเบรกมืออยู่ในอันดับ 3 4 และ 5 ตามลำดับ
นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังระบุด้วยว่าภายในห้องโดยสารของรถครอบครัวมีความสกปรกมากกว่ารถเพื่อการพาณิชย์ถึงเท่าตัว สาเหตุคาดเดาได้ไม่ยากเนื่องจากรถครอบครัวมักมีจำนวนผู้โดยสารมากกว่า ส่วนใหญ่เป็นเด็กหลากหลายช่วงอายุ พร้อมกับมีการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มภายในรถยนต์เป็นประจำ
เป้าหมายของการศึกษาครั้งนี้ไม่ได้ต้องการให้ผู้ขับขี่รู้สึกรังเกียจชิ้นส่วนในห้องโดยสารจนไม่กล้าจับต้อง แต่กระตุ้นให้มีการทำความสะอาดอยู่เป็นประจำเพื่อสุขอนามัยที่ดีของทุกคนในครอบครัว
อดีตนักข่าว เอเจนซี่ และฟรีแลนซ์ฝีมือเยี่ยม ที่นำประสบการณ์ร่วม 20 ปีมาถ่ายทอดคอนเทนท์และประเด็นข่าวในวงการยานยนต์ทั้งไทยและเทศในรูปแบบที่สดใหม่และแตกต่าง
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });